14 ก.ย. เวลา 07:18 • ความคิดเห็น
ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้ เคยสนทนา ธรรมในเรื่องราว ของเมื่องนาคี ก็มีพระที่ท่าน เล่าให้ฟังว่า ท่านก็ได้งลงไปเหมือนบาดาล ก็ไปเจอเจ้าเมืองบาดาล ท่านบอกว่า เค้าจะยกลูกสาวให้ฉัน ท่านไม่รับ ..คราวนี้ เค้าก็บอกให้ฉันเข้าไปที่ห้องหนึ่ง เท่าก็เล่าให้ฟังฉันไม่เข้าไป เข้าไปแล้วมันออกไม่ได้มันเป็นอาถรรพ์ เค้าก็มีกายคล้ายมนุษย์ แต่มีฤทธิ์ ที่ศีรษะเค้าก็มี เหมือนกระจัง เป็นรูปงู ทสวมครอบศีรษะ
เรื่องราวของพญานาคมุจลินท์ นั่นท่านก็มีตัวตนจริงๆ นานๆท่านจึงจะขึ้นมา เมื่อเกิดมีแสงรัตนะเรื่องรองในกายของผู้ที่ปฏิบัติธรรม ท่านก็มาอนุโมทนา
เรื่องราวของพญานาค นาคี คนธรรพ์ คนลับแล นั้นเหมือนใกล้ชิดโลกมนุษย์ แต่แตกต่างกันด้วยมิติของกาย ที่ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ ที่ละเอียด กว่ากายมนุษย์มาก มีพระท่าน้ล่าให้ฟัง ในเรื่องของคนธรรพ์ คนลับแล เวลาที่เค้าเอา ข้าวปลาอาหารมาถวาย ก็เเหมือน เป็นภาพให้เห็นสักครู่ แล้วก็หายไป
เรื่องราวของทำนองนี้ มันต่างมิติกัน แม้กระทั้งเรื่องราวมนุษย์ต่างดาว ท่านก็บอกว่า เวลาที่คนเค้าปฏิบัติธรรมกัน มนุษย์ต่างดาว ก็มาเดินดู ..เค้าทำอะไรกัน ทำไมกายที่นั่งปฏิบัติธรรมนี้ จึงเกิดแสงสว่าง .ทำไมจึงเกิด การเปลี่ยนแปลงของแสงสี สีน้ำเงิน เป็นสีเหลืองเจิดจ้า เค้าเห็นแสงสีเหลืองที่เกิดขึ้น จิตของเค้ามีความสุขอิ่มเอิบ
..เค้าก็มาเรียนรู้ ในสถานที่ ที่มีการปฏิบัติผธรรม ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะมนุษย์ต่างดาว ก็คล้ายคนธรรพ์คนลับแล ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ สร้างบุญกุศลบารมี แล้วเรื่องกายของเค้านั่น โปร่งแสงใส ลอยในอากาศ เค้าจะให้เห็นก็ได้ ไม่ให้เห็นก็ได้ แล้วสายตาอย่างเราๆมนุษย์ปุถุชน เช่น มองเห็นภูเขา มันก็เป็นภูเขา ส่วนผู้ที่ท่านได้ตาทิพย์หูทิพย์ ท่านก็มองภูเขานั้นว่าเปล่า มีคนธรรพ์ คนลับแลอาศัย .มนั้นมันเป็นเรื่องราวมิติที่แตกต่างกันด้วยคำว่า ธาตุทั้งสี่ ดินน้ำลมไฟ .
เคยฝันว่า มีคนสวมชุด สีครามพาเราเดินตามทางรถไฟ เดินไป มีเสียงดังพรึ่บ ก็มีอะไรมารัดที่ข้อมือ มองดูเป็นพญานาคตัวน้อยใสแจ๋ว ตาแดง ..ก็ไปถึงริมแมีน้ำโขง เค้าก็พาลงไปดูในถ้ำ มีเพชรกองมากมาย ส่องประกายระยิบระยับ เราก็มองดู เราไปถามพระเรื่เงราวแปลกๆ ท่านก็บอกว่า เค้าเราไปดู ว่าเห็นแล้วจะโลภอยากได้มั้ย
แต่เรื่องราวของการสร้างภาพ สร้างวัตถุ มันเป็นเรื่องมนุษย์ที่มีกิเลส มีอารมณ์โลภโกรธหลง อุปโลกน์สร้างรูปนั้นมายึดถือกันเอง เพราะไม่รู้จะพึ่งใคร ก็สร้างรูปนี้รูปนั้นมายึดถือ ร่ายรำถวาย เราเห็นดาราไปรำ ..โอ้ย..แม่เจ้า เดี๋ยวได้กลับไปได้เลิก ร้างจากผู้ที่ว่ารักกัน แยกย้ายกันไป ..ไม่บอกหรอกว่า ไปเอาอะไรมาใส่ในกายของตนเอง ..มันมีแต ่ผีเร่ร่อนอดอยากทั่งนั่น
ตามวัดที่สร้าง เอาเทพองค์นั้น รูปนั้นรูปนี้ เจ้าพ่อเจ้าแม่ มาตั้งให้คนกราบไหว้บูชา นั้นแสดงว่าอับจนปัญญา ตัวก็ยึดโลภโกรธหลง .ลดละอะไรไม่ได้ ..ไม่รู้จะเอาอะไรมาสอน จึงมีเรื่องราว ว่า พระจูงผี หาพระจูงคนไม่มี เราจึงเห็น เดี๋ยวนี้ คนจะเข้าวัด ก็ไปตอนที่เค้ามีงาน เพื่อนตาย ญาติตาย พ่อตาย แม่ตาย ไปส่งผี เผาผี ก็กลับบ้าน .กลับมาก็แก่เจ็บตาย ๆตามๆกันไป
โฆษณา