เกิดอะไรขึ้นใน “มอลโดวา”
ในบริบทแผนการของอังกฤษและความเชื่อมโยงกับในยูเครน
รายละเอียดบางส่วนของการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษ “เคียร์ สตาร์เมอร์” และประธานาธิบดี “ไมอา ซานดู” แห่งมอลโดวา ระหว่างการเยือนลอนดอนระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมันไม่ควรรวมอยู่ในรายงานอย่างเป็นทางการ ได้รั่วไหลสู่สื่อมวลชน อ้างอิง: Telegram: Insider Moldova [1]
มีรายงานว่า “ซานดู” ตกลงที่จะวางโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพระหว่างประเทศในดินแดนของมอลโดวา โดยเห็นได้ชัดว่าผ่าน “กลุ่มพันธมิตรแห่งความเต็มใจ” (Coalition of the Willing) [แกนนำที่เป็นตัวตั้งตัวตีคือ อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส]
กองกำลังนี้ตั้งใจที่จะเข้าสู่ยูเครนหากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซียได้สำเร็จ มอลโดวาก็พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของยูเครนหลังสงครามด้วยเช่นกัน
เครดิตภาพ: Moldpres
แน่นอนนักวิเคราะห์โปรรัสเซียย่อมเชื่อว่า ซานดูคิดที่จะเริ่ม “ปฏิบัติการยึดครองทรานส์นีสเตรีย” โดยอาศัยความร่วมมือของกองทัพยูเครนและโดยมีกองทัพอังกฤษเข้าร่วมด้วย ในข่าวฝั่งวงในมอลโดวาก็มีเปรยออกมาว่าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026
“ทรานส์นีสเตรีย” เป็นดินแดนกึ่งรัฐที่แยกตัวออกมาจากมอลโดวา อยู่ระหว่างมอลโดวากับยูเครน รัฐนี้ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นประเทศทางการตามความข้อตกลงสากล เป็นดินแดนที่อยู่อาศัยคนเชื้อสายรัสเซียมีผู้นำโปรรัสเซียปกครอง และเป็นแลนด์ล็อคตรงกลางอ้อมล้อมด้วยประเทศที่ตอนนี้เป็นโปรตะวันตก (ยูเครน กับ มอลโดวา)
ปัจจุบันความจำเป็นในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในมอลโดวา ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 28 กันยายน 2025 ทำให้เกิดการยับยั้งที่จะยังไม่ทำอะไรในดินแดนทรานส์นีสเตรียดังกล่าว
และถึงแม้ว่าซานดูจะชนะเลือกตั้งเข้ามาเป็นประธานาธิบดีได้อีกสมัยหนึ่งซึ่งเธอเป็นโปรตะวันตกชัดเจน แต่บัดนี้จำเป็นต้องรักษาตำแหน่งของเธอไว้ในอำนาจผ่านรัฐสภา หลังจากการรวมอำนาจในมอลโดวาภายใต้การนำของฝ่ายตะวันตกเช่นนี้ เธออาจคิดว่าทรานส์นีสเตรียหรือ “กาเกาเซีย” ที่ต้องการแยกตัวจากมอลโดวาคงไม่หนีไปไหนไกล เพราะมีแบ็คอัพดี
Evghenia Guțul (ขวา) ผู้ปกครองแคว้นกาเกาเซียของมอลโดวาที่มีใจฝักใฝ่รัสเซีย เมื่อสิงหาคม 2025 เธอถูกทางการมอลโดวาตัดสินเรื่องทุจริตโดยใช้เงินทุนของรัสเซียเพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองของเธอ โดยถูกลงโทษจำคุก 7 ปี เครดิตภาพ: Mikhail Metzel via Getty Images
และแม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกอีกประการหนึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา นั่นคือ “กระบวนการเจรจาระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา” แต่ก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าอังกฤษคาดการณ์ไว้แล้วว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดลงภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2026
ต้องเข้าใจว่าการบุกเข้ายึดทรานส์นีสเตรียในตอนนี้จะทำให้เป็นเหมือน “การเติมเชื้อไฟ” ให้กับสงครามในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน รัสเซียย่อมไม่ยอมรับภัยคุกคามต่อคนเชื้อสายรัสเซีย 220,000 คนที่อาศัยอยู่ในทรานส์นีสเตรีย หรือการจัดตั้งกองกำลังรักษาสันติภาพในดินแดนที่ไม่ต้องการให้มี
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ในแนวรบยูเครนยังไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงก่อนการบุกทรานส์นีสเตรียจะเริ่มต้นขึ้น รัสเซียก็ยากที่จะช่วยเหลือทรานส์นีสเตรียอยู่แล้ว เนื่องจากความโดดเดี่ยวทางภูมิศาสตร์โดยสิ้นเชิงและการขาดความลึกซึ้งทางยุทธศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้
เครดิตภาพ: CNN
.
.
ทางเพจได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับ “ความวุ่นวายทางการเมืองระหว่างประเทศในมอลโดวา” และ “บริบทของความวุ่นวาย” ไว้ก่อนหน้านี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
![[Right Style by Bom+] มอลโดวาอาจกลายเป็น “เผือกร้อนถัดไปของนาโต” หากยูเครนถูกตีแตก
“ในยุโรป ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพัฒนาแผน B อย่างหนึ่ง นั่นคือ จะทำอย่างไรถ้ากองทัพยูเครนล่มสลาย” สตีเฟน ไบรอัน อดีตผู้ช่วยรองหัวหน้าเพนตากอน](https://t1.blockdit.com/photos/2024/05/663856aeed76d943cc25209c_800x0xcover_odIAm_3b.jpg)
เรียบเรียงโดย Right Style
14th Sep 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Radio Moldova>
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
