ในกายในจิต ของมนุษย์ ต่างก็สะสมอารมณ์ กรรมตัวร้าย ให้มาเกิดที่นั้น ที่นี่ไม่ชอบไมพอใจ ก็โกรธโมโหทำร้าย ในแต่ปีละปี ที่เนปาล เค้าก็มีประเพณี เอาสัตว์มาตัดคอบูชายัน เลือดไหลนองแผ่นดิน จิตที่เค้ามาอาศัยอยู่ในสังขารกรรม เค้ายังใช้กรรมไม่หมด ก็เข่นฆ่าเค้าตาย เค้าก็รักชีวิตเค้า
แม้ว่ามีกายเป็นมนุษย์ยุคปัจจุบัน แต่จิตใจย้อนยุคไปสู่ ยุคที่ไม่มีคุณธรรม มีแต่ความโหดร้าย ความเห็นอกเห็นใจ เมตตา ไม่มีในจิต มันก็เกิดเรื่องราวเยี่ยงนี้เกิดขึ้น เมื่อฝูงสัตว์ทำลายซึ่งกันและกัน น่าอนาถ ทำลายสถานที่อยู่ ให้บรรลัย แล้วจะมีความสุขกันมั้ยเนี่ย ที่เกิดในแผ่นดินนั้น .
ก่อนจะตายก็วิงวอน แต่ก็ช่วยตัวเองไม่ได้ ก็มีความเครียดอาฆาตพยาบาท ติดอยู่กับธาตุทั้งสี่ เมื่อคนเอาไปกิน ฆ่าเค้ากิน ธาตุทั้งสี่ ที่เกิดขึ้น ก็เป็นธาตุของกรรม ของสัตว์ ที่ไปกินมาเลี้ยงสังขาร พอกินมากเข้า เมื่อถึงเวลาอันสมควร ธาตุทั้งสี่ในกาย ก็บันดาล เมื่อเกิดลมโกรธลมโมโห พัดเข้ามาในกาย มันไปไฟ ก็มีแต่เข่นฆ่า ทำลายเยี่ยงอย่างสัตว์อสุรกาย ดีชั่วอะไร ไม่รู้จักได้เลย ก็ทำไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นในธาตทั้งสี่ ที่ปรุงแต่งขึ้นมา จิตที่มาจากนรกมาเกิดก็เป็นเยี่ยงนี้ มีแต่สร้างความเดือดร้อนทุกข์ทรมาน
เรื่องราวในกัมพูชา เค้าทำลายศาสนาไปนาน ตั้งแต่ยุคพลพต เข่นฆ่ากันตาย เป็นผีตายโหง ยังไม่ได้ผุดเกิด อดอยากหิวโหย อยู่ในแผ่นดินเขมร จิตที่ร้ายก็มีมากมาย วิญญาณมากมาย ที่หายความสุขไม่ได้ หาความเจริญไม่ได้ วิญญาณร้ายมันอยู่รอบจิต ..หาความสุขไม่ได้ จิตของมนุษย์ที่อยู่ในแผ่นนี้ ก็เหมือนร้อน ..ก็ต้องมีเหตุ หาสาเหตุไม่ได้ คือ ไม่มีความสุข หาความเจริญทั้งกายทั้งจิตไม่ได้ ก็ตกต่ำลงไปเรื่อย ก็แก่งแย่งชิง เข่นฆ่ากันตาย
มีน้องรู้จัก อยู่แถวตราด ไปเอาน้ำมนต์ ตะกรุดผ้ายันต์ จะเขมร เอามาไล่ผีป้องกันผี ก็ไหว้เซ่นบูชา อยู่ๆมาเล่าว่า จะเอาขนมจีนไปเซ่นที่งทาสามแพร่ง เพราะที่บ้าน เห็นผีกันทั้งบ้าน ลูกชายสามคนก็ซุกซน ..ด้วยเหตุเจ้าพ่อบอกมาให้ทำ เราก็ถามเจ้าพ่อไหนว่ะ .. บอกไม่ต้องไปทำ เอาเอาของในบ้าน เอาออกไปทิ้ง ..พอทิ้งเสร็จขับรถหลวกับบ้านไม่ถูก พอลูกชายถามว่า เอายันต์กันผีไปทิ้ง แล้วจะเอาอะไรกัน น้องเค้าบอก ลูกชาย ว่า ผีมันอยู่ มากับผ้ายันต์ พอเอาไปทิ้ง รถรับจ้างที่ไม่มีงานมานาน ก็ได้งานส่งอาหารทะเล เรื่อยมา
นี่ยังมีเรื่องราวผ้ายันต์ โอ้ย ศักดิ์สิทธิ์ ..แต่ก็ไปตกจากที่สูงตาย ดังสนั่น
เรื่องเหล่านี้ จึงมีเรื่องราวที่ว่า เค้าจะเก็บจิตมนุษย์ไปเรื่อย ต่อไปก็จะมีเรื่องสัตว์ แปลกๆมาให้มนุษย์ได้กินเอร็ดอร่อย แล้วก็จะเจ็บป่วยตาย ดินฟ้าอากาศ ก็แปรปรวน เก็บจิตมนุษย์ ที่เกิดมา สร้างแต่กรรม .วิธีเก็บกวาด ก็ทำให้อยู่กันหาความสุขไม่ได้ เกิดความทุกข์ทรมานในกายที่อาศัย ให้หมดลมตาย.. ไม่ต้องมีกายมนุษย์ใช้อีกต่อไป เค้าเก็บกวาดจิตที่อาศัยกายมนุษย์ไปไหน เก็บใส่เข่ง ไปแออัดเหยียบกันตาย นำพาลงนรก
เมื่อถึงกลียุค แล้วก็ลองสังเกตดู เรื่องราวต่างๆ ในปัจจุบัน เค้าเก็บกวาดจิตมนุษย์กันอย่างไร ด้วยสงคราม ด้วยการแย่งชิง ด้วยน้ำ ด้วยลม ด้วยไฟ ด้วยดืน ด้วยหินที่กำลังละลาย เค้าเรียกว่า มหาธาตุกำลังเก็บกวาดจิตมนุษย์ไร้คุณธรรม แม้ในบ้านเมืองเรา เค้าก็กำลังเก็บกวาด ไม่ว่านักบวช คนคดโกง ยิ่งใหญ่ขนาดไหน เค้าก็จะขุดคุ้ยเก็บกวาดไปเรื่อย
ที่ว่าแผ่นดิน เป็นแผ่นดินทอง แค่จ้ตที่มาอาศัย กลับหนักแผ่นดิน เค้าก็เลยต้องเก็บกวาด ให้แผ่นดินนี้สะอาดสะอ้าน น่าอยู่อาศัยมีความสุข จิตที่ดีๆ จะได้มาเกิด สร้างบุญกุศลบารมี สร้างสิ่งดีไว้ ในแผ่นดิน ไม่ใช่วัตถุปัจจัย แต่สร้างจิตสร้างกายที่ดี สร้างนิสัยที่ดี สร้างจิตดีงาม มาอาศัยในแม่พระธรณี ไม่ต้องไปแบกจิตที่กนักด้วยเวรกรรม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
