4 ชั่วโมงที่แล้ว • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

รายงานของ OpenAI ได้วิเคราะห์การสนทนาใน ChatGPT จำนวน 1.5 ล้านครั้งที่ไม่ระบุตัวตน

เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในการใช้งาน AI จากกลุ่มผู้ใช้เทคโนโลยีรุ่นแรกไปสู่กลุ่มประชากรที่กว้างขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากงานศึกษาของ National Bureau of Economic Research ในปี 2025 ซึ่งร่วมเขียนโดยนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด David Deming
รูปแบบการใช้งาน มีสามหมวดหลัก คิดเป็น ~80% ของการใช้งาน
1. Practical Guidance (คำแนะนำ, การสอน, how-to)
2. Seeking Information (หาข้อมูล, คล้าย search engine)
3. Writing (เขียน/แก้ไข text, แปล, สรุป ฯลฯ) 
ส่วนลักษณะการใช้
- Writing ครองการใช้งานด้านงาน: 40% ของข้อความที่เกี่ยวกับงาน โดยสองในสามเป็น “แก้ไข/ปรับปรุงข้อความของผู้ใช้” ไม่ใช่การสร้างใหม่ทั้งหมด 
- Coding น้อยมาก (4.2% ของข้อความทั้งหมด) ตรงข้ามกับความเข้าใจเดิมว่าคนใช้ AI ส่วนใหญ่เพื่อเขียนโค้ด
- Self-expression/companionship มีเพียง ~2% (น้อยกว่าที่บางงานวิจัยเคยประเมิน)
แต่ถ้าแบ่งตามประเภทของ “เจตนา” (User Intent) จะพบว่า
- แบ่งได้เป็น Asking (49%), Doing (40%), Expressing (11%) 
- ในงานที่เกี่ยวกับงาน Doing ครองมากกว่า (56%)
- แนวโน้ม: Asking โตเร็วกว่ามาก และได้คะแนนความพึงพอใจสูงกว่าจากผู้ใช้กว่าเจตนาอื่น
และถ้ามามองด้านความแตกต่างด้านประชากร
- Gender gap ปิดแล้ว: ช่วงแรก 80% เป็นผู้ชาย แต่กลางปี 2025 ผู้หญิงใช้มากกว่าผู้ชายเล็กน้อย 
- อายุ: เกือบครึ่งของข้อความทั้งหมดมาจากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 26 ปี
- ประเทศรายได้ต่ำ-กลาง: การเติบโตเร็วที่สุดในปีที่ผ่านมา
- การศึกษา/อาชีพ: คนที่มีการศึกษาสูงและอาชีพมืออาชีพใช้ ChatGPT เพื่อการทำงานมากกว่า และใช้ในโหมด Asking (decision support) มากกว่า Doing
- ข้อมูลเผยให้เห็นว่าในเดือนมิถุนายน 2025 การใช้งาน ChatGPT ที่ไม่ใช่แบบองค์กรถึง 73% เป็นการใช้งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 53% ในเดือนมิถุนายน 2024 ท้าทายแนวคิดที่ว่า AI เป็นเครื่องมือหลักในที่ทำงาน โดยมีหลักฐานที่ผ่านการตรวจสอบโดยเพื่อนร่วมงานชี้ว่า การเพิ่มประสิทธิภาพส่วนตัวเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
- คนที่กลัวว่ามันจะกลายเป็น platform ในการสวัสดีวันจันทร์มั้ย ยังไม่ต้องห่วงมาก มีการใช่เพื่อการทักทายเฉยๆ เพียงประมาณ 2% เท่านั้น
โฆษณา