16 ก.ย. เวลา 10:30 • การตลาด

แกะแบรนด์ : The Ordinary – ความโปร่งใสที่กลายเป็นกลยุทธ์การตลาด

ในโลกสกินแคร์ที่เต็มไปด้วยคำโฆษณาเกินจริงอย่าง “คืนความอ่อนเยาว์”, “ยกกระชับทันที” หรือ “สูตรลับเฉพาะ” — แบรนด์หนึ่งกลับเลือกเดินทางตรงกันข้าม นั่นคือ The Ordinary แบรนด์ที่ขาย “ความธรรมดา” แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก
จุดเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์
ผู้ก่อตั้งแบรนด์คือ Brandon Truaxe ผู้ซึ่งเชื่อว่าสกินแคร์ไม่ควรถูกห่อหุ้มด้วยการตลาดที่ทำให้ผู้บริโภคสับสนหรือจ่ายแพงเกินไป เขามองเห็นว่า ความโปร่งใสด้านวิทยาศาสตร์ คือสิ่งที่อุตสาหกรรมความงามขาดไป ดังนั้น The Ordinary จึงถูกสร้างขึ้นในปี 2016 ภายใต้บริษัทแม่ DECIEM ด้วยเป้าหมายชัดเจน “ทำให้สกินแคร์กลับไปสู่ความเรียบง่าย ซื่อสัตย์ และเข้าถึงได้”
กลยุทธ์ที่แตกต่าง : ขายสาร ไม่ขายฝัน
สิ่งที่ทำให้ The Ordinary ดังชั่วข้ามคืนคือ การตั้งชื่อสินค้า ที่ตรงไปตรงมา เช่น
- Niacinamide 10% + Zinc 1%
- Hyaluronic Acid 2% + B5
- Retinol 1% in Squalane
นี่คือการตลาดที่แทบจะไม่ใช้คำสวยหรู แต่กลับทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า “ฉันกำลังซื้อสารที่ใช้จริง” ไม่ใช่เพียงคำสัญญาลอย ๆ
Insight: แบรนด์นี้ไม่ได้สื่อสารกับลูกค้าด้วยอารมณ์ แต่สื่อสารด้วย “ข้อมูลและเหตุผล” ซึ่งสอดคล้องกับกระแสผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจข้อมูลส่วนผสมมากขึ้น
Visual Identity : ความเรียบง่ายที่ชัดเจน
บรรจุภัณฑ์ของ The Ordinary ถูกออกแบบให้เหมือน “ขวดทดลองในห้องแลบ” — ฉลากขาว ตัวอักษรดำ ไม่มีภาพประกอบหวือหวา จุดแข็งคือ ทำให้แบรนด์ดูจริงใจและตรงไปตรงมา กลายเป็นภาพจำว่า “นี่คือสกินแคร์สายวิทย์” ผลลัพธ์คือ เมื่อวางบนชั้นสินค้า แม้จะเรียบ แต่กลับ “สะดุดตา” เพราะแตกต่างจากแบรนด์อื่นที่มักเน้นดีไซน์หรูหรา
Passion ที่กลายเป็น Brand DNA
Truaxe ไม่ได้สร้าง The Ordinary แค่เพื่อขายครีม แต่เขาต้องการ “ท้าทาย” อุตสาหกรรมความงามที่เขามองว่าเต็มไปด้วยการบิดเบือน เขาอยากให้ผู้บริโภครู้สึกว่า การดูแลผิวไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือแพงเกินไป ความเชื่อและ Passion นี้เองที่ทำให้ The Ordinary สื่อสารอย่างมั่นคงและแตกต่างในทุก Touchpoint — ทั้งเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, ไปจนถึงกลยุทธ์ราคา
Pricing Strategy : “ความจริงใจ” ที่ทำให้เข้าถึงได้
The Ordinary ตั้งราคาผลิตภัณฑ์ถูกกว่าคู่แข่งที่มีสาร Active เดียวกันหลายเท่า เพราะตัดค่าใช้จ่ายการตลาดและแพ็กเกจจิ้งหรูหราออกไป
- Niacinamide Serum ราคาเพียง 300–400 บาท ในขณะที่แบรนด์อื่นขาย 1,000+
- Retinol ที่คุณภาพใกล้เคียง แต่ราคาถูกกว่า 3–5 เท่า
กลยุทธ์นี้ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มกว้าง ทั้งนักเรียน มหาวิทยาลัย ไปจนถึงผู้ใช้สกินแคร์จริงจัง
การตลาดที่กลายเป็น “การศึกษา”
สิ่งที่น่าสนใจคือ The Ordinary ไม่ได้ทำการตลาดแบบดั้งเดิม แต่เน้น Educate ผู้บริโภค อธิบายว่าแต่ละสารทำงานอย่างไร แนะนำวิธีการใช้ที่ถูกต้อง เช่น ไม่ควรใช้ Retinol พร้อม Vitamin C เตือนผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การตลาดในรูปแบบนี้ทำให้แบรนด์กลายเป็น “ผู้รู้” และสร้าง Trust ที่ลึกซึ้งกว่าการขายของ
จากความธรรมดา → สู่ไลฟ์สไตล์
The Ordinary ไม่ได้ขายแค่สกินแคร์ แต่ขาย Mindset ของความโปร่งใส
ผู้ใช้รู้สึกว่า “ฉันเป็นคนที่เลือกบนพื้นฐานข้อมูล ไม่หลงตามคำโฆษณา” → ทำให้การใช้แบรนด์นี้กลายเป็นไลฟ์สไตล์แบบใหม่ของคนรุ่นใหม่
The Ordinary คือกรณีศึกษาที่พิสูจน์ว่า “ความธรรมดา” สามารถกลายเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังได้ ถ้าคุณทำให้มัน ชัดเจน ตรงไปตรงมา และสอดคล้องกับ Passion ของแบรนด์
- โปร่งใสด้านวิทยาศาสตร์
- เรียบง่ายด้านดีไซน์
- ราคาเข้าถึงง่าย
- การตลาดที่เน้นการศึกษา
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้ The Ordinary ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์สกินแคร์ แต่เป็น สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ในอุตสาหกรรมความงาม
#theordinary #branding #brandinspired #BrandStrategy #BrandingStrategy #BrandingTips #สร้างแบรนด์ #เคล็ดลับการตลาด #beautytrends #dremzo
โฆษณา