17 ก.ย. เวลา 08:01 • ธุรกิจ
BangkokThailand

ในยุคที่อินฟลูเอนเซอร์ “ซื้อยอดฟอล” ธุรกิจควรปรับตัวอย่างไร?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Influencer Marketing คือหนึ่งในเครื่องมือที่แบรนด์นิยมใช้มากที่สุดในยุคดิจิทัล แต่ในขณะเดียวกัน ปัญหาที่หลายธุรกิจเจอคือ อินฟลูเอนเซอร์บางส่วน ซื้อยอดฟอลโลเวอร์ (Followers) เพื่อให้ตัวเองดูอยู่ใน tier ที่สูงขึ้น และสามารถอัปค่าตัวได้มากขึ้น
คำถามคือ… ธุรกิจที่อยากทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง?
🔍 ปัญหา: ยอดฟอลไม่จริง = ผลลัพธ์ไม่จริง
เมื่อฟอลโลเวอร์ส่วนใหญ่เป็น “ตัวเลขที่ซื้อมา” → การเข้าถึง (Reach) และการมีส่วนร่วม (Engagement) ไม่ได้สะท้อนผู้บริโภคจริง
แบรนด์จ่ายเงินไป แต่ไม่ได้ผลลัพธ์จริง อาจทำให้ ROI (Return on Investment) ต่ำลง
ภาพลักษณ์ของแบรนด์อาจเสียหาย หากถูกจับได้ว่าร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
✅ แนวทางการปรับตัวของธุรกิจ
1. เน้นคุณภาพ ไม่ใช่แค่จำนวน แทนที่จะดูแค่จำนวนฟอลโลเวอร์ → ให้ดู Engagement Rate (ER), คอมเมนต์จริง และคุณภาพของผู้ติดตาม
2. ใช้ Nano และ Micro Influencers กลุ่มนี้มักมีผู้ติดตามไม่เยอะ (1K – 100K) แต่ มีความจริงใจและอัตราการมีส่วนร่วมสูง → สร้างความน่าเชื่อถือมากกว่า
3. ใช้แพลตฟอร์มมืออาชีพ แพลตฟอร์มอย่าง Partipost มีระบบช่วยตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของอินฟลูเอนเซอร์ เช่น จำนวนฟอลจริง, ค่าเฉลี่ยการมีส่วนร่วม และการเข้าถึงที่แท้จริง
4. วาง KPI ที่วัดผลได้ ไม่ใช่แค่จำนวนโพสต์ แต่ควรกำหนดเป้าหมาย เช่น Reach, Click, Conversion เพื่อดูว่าเงินที่ลงทุนไปสร้างผลลัพธ์ได้จริงหรือไม่
5. สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เลือกทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะกับแบรนด์และมีความน่าเชื่อถือ → ระยะยาวดีกว่าจ้างครั้งเดียวแล้วหาย
แม้จะมีปัญหาเรื่องการซื้อยอดฟอล แต่ Influencer Marketing ก็ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลัง ธุรกิจไม่ควรละทิ้ง แต่ควร “ปรับวิธีคิดและวิธีเลือก” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง
ในอนาคต อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความจริงใจ โปร่งใส และสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ จะยังคงเป็นพาร์ตเนอร์ที่แบรนด์ต้องการเสมอ
โฆษณา