Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MarketThink
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 ชั่วโมงที่แล้ว • ไอที & แก็ดเจ็ต
รีวิวเครื่องจริง iPhone 17 Pro Max อัปเกรดสเปกกล้อง ครั้งใหญ่ เปลี่ยนดิไซน์ใหม่ ในรอบหลายปี
-ล่าสุด MarketThink ได้ลองใช้งาน iPhone 17 Pro Max แบบคร่าว ๆ พบว่ามีความน่าสนใจมาก ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดสเปกครั้งใหญ่ รวมถึงปรับปรุงการออกแบบ และดิไซน์ภายนอก ในรอบหลายปี
แล้วจากทดลองใช้งาน iPhone 17 Pro Max แบบคร่าว ๆ มีอะไรที่เป็นจุดเด่นสำคัญ ที่อยากแนะนำให้กับคนที่กำลังคิดจะซื้อบ้าง ?
MarketThink จะพาไปเจาะลึก iPhone 17 Pro Max เครื่องนี้กันเป็นข้อ ๆ
1. กล้องหน้าที่ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่บน iPhone 17 Series
กล้องหน้าของ iPhone 17 Series ทุกรุ่น มาพร้อมเซนเซอร์แบบสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า
และมีความละเอียดเพิ่มขึ้นจาก 12MP เป็น 18MP พูดง่าย ๆ ก็คือ จะทำให้ได้ภาพที่มีมิติ และมีความคมชัดเพิ่มขึ้น
ซึ่งการมาของเซนเซอร์แบบใหม่นี้ ทำให้ iPhone 17 Series ได้ฟีเชอร์ใหม่ คือ Center Stage ที่จะเข้ามาช่วยจัดเฟรมภาพให้อัตโนมัติในขณะใช้งาน
แต่จุดที่น่าสนใจคือ iPhone 17 Series มีกล้องหน้าที่สามารถลดการสั่นไหว จนเหมือนมี Action Mode ในตัว
เนื่องจากเซนเซอร์กล้องหน้ามีขนาดใหญ่ การถ่ายวิดีโอจึงไม่ได้ถ่ายแบบเต็มเซนเซอร์ ทำให้เซนเซอร์มีพื้นที่ในการเข้ามาช่วยเรื่องลดการสั่นไหวของวิดีโอได้
นอกจากนี้ฟีเชอร์ที่คิดว่าน่าสนใจ แต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ว่าจะผู้ใช้งานจะเลือกใช้จริง ๆ หรือไม่ ก็คือฟีเชอร์ “ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องคู่”
เพราะวิดีโอจากกล้องหน้า จะเข้ามาซ้อนทับ และบดบังวิดีโอจากกล้องหลัง บริเวณส่วนบนขวาของหน้าจอ..
2
2. การอัปเกรดครั้งใหญ่ของกล้อง Telephoto
ที่บอกว่าเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ เพราะ iPhone 17 Pro Max ไม่ได้อัปเกรดเพียงแค่เลนส์กล้องเท่านั้น
แต่ยังมีการอัปเกรดตัวเซนเซอร์ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 2 เท่า
ซึ่งหากเทียบขนาดกับ iPhone 16 Pro Max ก็จะเท่ากับว่า iPhone 17 Pro Max ให้ขนาดเซนเซอร์กล้องหลังที่มีขนาดใหญ่เกือบ 1/2 นิ้ว
ทำให้ได้ภาพที่ “คมชัดขึ้น รับแสงได้ดีขึ้น และมิติของภาพดีขึ้น”
สำหรับเลนส์ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max จะสามารถซูมด้วยเลนส์ อยู่ที่ 4X และสามารถซูมดิจิทัลสูงสุดอยู่ที่ 40X
และต้องขอบอกว่า จากการทดลองใช้งานคร่าว ๆ การซูม 40X บน iPhone 17 Pro Max สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว
3. วัสดุ และดิไซน์ที่ปรับใหม่ เพื่อยืดอายุการใช้งานโดยเฉพาะ
ปีนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งของ iPhone แม้จะดูเป็นเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่มีความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลายจุด เช่น
- การนำชิปประมวลผลต่าง ๆ มาจัดวางไว้ที่บริเวณแถบกล้องขนาดใหญ่
เพื่อเพิ่มขนาดพื้นที่สำหรับใส่แบตเตอรี่ และแผงระบายความร้อน
- ใส่ Vapour Chamber ซึ่งช่วยในเรื่องการระบายความร้อนเป็นพิเศษ
อธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ Vapour Chamber เป็นแผ่นสำหรับกระจายความร้อน ที่ใส่ของเหลวไว้ระหว่างแผ่นโลหะบาง ๆ
เพื่อดูดซับความร้อน จากจุดที่เกิดความร้อนสูง แล้วเปลี่ยนเป็นไอน้ำ กระจายความร้อนไปทั่วทั้งแผ่น
จากนั้นไอน้ำ ก็จะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลว และหมุนเวียนเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
- ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ซึ่งช่วยในเรื่องความแข็งแรง
เป็นอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในชิ้นส่วนอากาศยาน อุปกรณ์กีฬา และชิ้นส่วนยานยนต์
ซึ่ง Apple บอกว่า การเลือกใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม รวมถึงการใช้ Vapour Chamber นี้ จะช่วยเรื่องการจัดการความร้อน ได้ดีขึ้นถึง 40%
และแน่นอนว่าเมื่อเครื่องเย็นลง ก็จะช่วยให้การทำงานโดยรวมของเครื่องดีขึ้น ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือทำงาน
ซึ่งจากการทดลองใช้งานจริง พบว่าการระบายความร้อนทำได้ดีกว่า iPhone 16 Pro Max จากการใช้งานกล้องถ่ายรูป ในระยะเวลาเท่า ๆ กัน
ส่วนเรื่องน้ำหนัก และความหนา แม้ว่าสเปกจะระบุไว้ว่า iPhone 17 Pro Max หนากว่า iPhone 16 Pro Max อยู่ 0.5 มม. และมีน้ำหนักมากกว่า 4 กรัม
แต่เมื่อใช้งานจริง พบว่าแทบจะไม่รู้สึกเลยว่า iPhone 17 Pro Max มีความหนัก และหนากว่า..
4. หน้าจอ และความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้น
สเปกของ iPhone 17 Pro Max บอกว่า กระจกหน้าจอด้านหน้าเป็น Ceramic Shield 2
ที่ทนต่อการขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Ceramic Shield แบบเดิมบน iPhone 16 Pro Max
แต่เรื่องนี้ แม้ Apple จะบอกแบบนี้ เราคงไม่สามารถทดสอบความแข็งแรงของหน้าจอได้ในระยะเวลาสั้น ๆ คงต้องรอการใช้งานจริงในระยะยาวต่อไป
5. iPhone 17 Pro Max เมื่อเทียบกับ iPhone Air แตกต่างกันแค่ไหน ?
สำหรับคนที่จะซื้อ iPhone Air ซึ่งเป็น iPhone รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีนี้
ก็ต้องบอกเลยว่า ถ้าคิดว่าการถือ iPhone เครื่องใหญ่ ๆ นั้นมีน้ำหนักที่มากเกินไป หรือมองว่าชอบเรื่องของดิไซน์ ก็ต้องบอกว่า iPhone Air นั้น คือคำตอบ
เพราะ iPhone Air มีความหนาอยู่ที่ 5.65 มม. เท่านั้น เทียบกับ iPhone 17 Pro Max ที่มีความหนาอยู่ที่ 8.75 มม.
ในขณะที่เรื่องน้ำหนัก iPhone Air จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 165 กรัม ส่วน iPhone 17 Pro Max มีน้ำหนักอยู่ที่ 231 กรัม
แน่นอนว่า iPhone Air มีดิไซน์ที่บางกว่า และน้ำหนักที่เบากว่าอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก็ต้องแลกกับสิ่งที่ iPhone 17 Pro Max มี แต่ iPhone Air ไม่มี ได้แก่
- กล้อง Ultra-Wide, Telephoto และเซนเซอร์ LiDAR (iPhone Air มีกล้องหลังเพียงตัวเดียว)
- ถาดใส่ซิม (iPhone Air รองรับแค่ e-sim เท่านั้น)
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ (iPhone Air มีลำโพงตัวเดียว)
- การถ่ายโอนข้อมูลด้วย USB 3 (iPhone Air รองรับ USB 2)
แล้วหากถามว่าแบตเตอรี่ของ iPhone Air ใช้งานได้นานแค่ไหน จากสเปกของ Apple บอกไว้ว่า สามารถใช้งานได้นานเท่ากับ iPhone 16 Pro
เนื่องจากใช้งานโมเด็มระบบเซลลูลาร์ Apple C1X และชิประบบเครือข่ายไร้สาย Apple N1 (ตัวรับ WiFi) ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
6. แกะกล่องจริง มีอะไรแถมมาให้บ้าง ?
และในข้อสุดท้าย ขอปิดท้ายการรีวิว iPhone 17 Pro Max จากการทดลองใช้งานจริงแบบสั้น ๆ ด้วยการแกะกล่อง
เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า iPhone รุ่นต่าง ๆ ของ Apple เมื่อแกะกล่องออกมา สิ่งที่เห็นจะมีแค่ 3 อย่าง ก็คือ
ตัวเครื่อง
สายชาร์จแบบถัก
และเข็มจิ้มซิมเท่านั้น
อุปกรณ์นอกเหนือจากนี้ ต้องซื้อเพิ่มเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งาน Apple คงเคยชินกันอยู่แล้ว..
apple
14 บันทึก
28
1
12
14
28
1
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย