19 ก.ย. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“อนุทิน” ควงว่าที่ ครม. ถกหอการค้าไทย ฟังเอกชนทุกมิติ เร่งโรดแมปเศรษฐกิจ

นายกฯ ‘อนุทิน’ นำว่าที่ ครม. ชุดใหม่ หารือหอการค้าไทย รับฟังเอกชนทุกมิติ ย้ำ เร่งเดินหน้าโรดแมปเศรษฐกิจ 4 เดือนแรก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ กับ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะ โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมเดินทางมาร่วมประชุมด้วย
“อนุทิน” ควงว่าที่ ครม. ถกหอการค้าไทย ฟังเอกชนทุกมิติ เร่งโรดแมปเศรษฐกิจ
โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ นายอนุทิน กล่าวว่า การมาพบสภาหอการค้าในครั้งนี้ เป็นแนวทางเดียวกับที่เคยเข้าพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังข้อกังวลและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน โดยพยายามรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานเดินหน้าได้รวดเร็ว และตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำลังหลักของเศรษฐกิจประเทศ
การหารือในวันนี้ ครอบคลุมปัญหาหลักที่เอกชนสะท้อน ทั้งด้านการเงิน หนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน โลจิสติกส์ ตลอดจนโอกาสการค้าในอนาคต โดยจะนำมาพิจารณาเป็นมาตรการด้านเศรษฐกิจ ทั้งเพื่อผู้ประกอบการ แรงงาน และสินค้าไทย รวมถึงการแก้ไขเรื่องภาษีและข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ ซึ่งจะส่งต่อให้ว่าที่รัฐมนตรีคลังและพาณิชย์ นำไปปรับใช้ในเชิงนโยบาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มอบหมายอะไรบ้างให้กับว่าที่ รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ย้ำว่า หน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ คือ ทำให้การค้าคล่องตัว ไม่เสียเปรียบคู่ค้า และเจรจาสิทธิประโยชน์ทางการค้าให้ประเทศไทยมากที่สุด พร้อมกันนี้ ยังต้องดูแลการค้าภายในประเทศ ควบคู่กับการต่างประเทศ เพื่อลดความเดือดร้อนผู้ประกอบการ และจัดหาแหล่งเงินทุนอัดฉีดเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กและเอสเอ็มอีที่กำลังเผชิญปัญหาหนี้เก่า สินค้าคงสต็อก และขาดเงินทุนหมุนเวียน
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ระบุว่า มาตรการช่วยเหลือจะเน้นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจริง ไม่ใช่เพียงหมุนเงินประคองไปวันต่อวัน แต่ต้องสามารถต่อยอดธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้
สำหรับกรอบเวลา 4 เดือนในการบริหารประเทศ นายอนุทิน ยอมรับว่า แม้จะสั้นแต่รัฐบาลเตรียมร่างนโยบายไว้เกือบสมบูรณ์แล้ว และจะนำข้อเสนอจากหอการค้าฯไปปรับให้สอดคล้อง ก่อนแถลงต่อรัฐสภาหลังพิธีถวายสัตย์ โดยย้ำว่าไม่กังวลว่าใครจะได้เครดิต เพราะสิ่งสำคัญคือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ หากนโยบายใดเกิดประโยชน์พร้อมเดินหน้าผลักดันทันที
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือทุกฝ่ายต้องวิน–วิน ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งชนะอีกฝ่ายหนึ่งแพ้ เพราะนั่นจะนำไปสู่ความขัดแย้ง แต่หากทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน ประเทศและประชาชนก็จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา