Nanjing Photo Studio หรือ Dead To Rights เหตุการณ์สังหารหมู่ที่เมืองหนานจิงในปี 1937- 1938
731 Nanjing ปี 1937- 1938 ทหารญี่ปุ่นบุกนานกิง ภายในสตูดิโอถ่ายภาพ เด็กฝึกงานวัยรุ่นคนหนึ่งได้พบกับเจ้าของร้านและครอบครัวที่กำลังหลบภัยอยู่ในห้องใต้ดิน รวมถึงนักแสดงสาวที่กำลังหลบภัยอยู่
เด็กฝึกงานวัยรุ่นคนหนึ่งในหนานจิงได้สำเนาล้างฟิล์มแบบภาพถ่ายที่ทหารญี่ปุ่นถ่าย นำมาสร้างสรรค์เป็นอัลบั้มที่ต่อมากลายเป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาคดีอาชญากรรมสงคราม
เขาตั้งชื่อภาษาอังกฤษว่า Dead to Rights เพื่อเก็บรักษาภาพเนกาทีฟขาวดำ และลักลอบนำออกสู่โลกภายนอก รอความยุติธรรมมาถึง (เต๋าแท้ชนะเต๋าเทียม) เมื่อจีนชนะสงคราม จากการยึดครองของญี่ปุ่นในนานกิง ธันวาคม 1937 เพื่อรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และสิ้นสุดของสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ทั่วโลก (1931 -1932 ญี่ปุ่นยึดแมนจูเรีย ก่อตั้งแมนจูกัว โดยการสนับสนุนของเยอรมนีและอิตาลี)
ค.ศ. 1931-1945 เป็นระยะเวลา 14 ปีของสงครามจีนสูญเสียชีวิตผู้คนไปกว่า 35 ล้านคน และ 20 เปอร์เซ็นต์ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย
ศาลอาชญากรรมสงครามโตเกียว พิจารณาคดีที่นูเรมเบิร์ก ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 260,000 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ญี่ปุ่นยึดครองนานกิง ผู้หญิงหลายหมื่นคนถูกข่มขืน
รัฐบาลชั่วคราวเมืองหลวงฉงชิ่ง จีนเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข ใน ปฏิญญาพอทสดัมเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945
วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกา ทิ้งระเบิดปรมาณูเหนือเมืองฮิโรชิมา ของญี่ปุ่น
รัสเซียปฏิบัติการพายุออกัสต์ วันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ยึดแมนจูกัว ทหารญี่ปุ่น แมนจู เกาหลี มากกว่าหนึ่งล้านนายและพลเรือนหลายแสนคนถูกทหารรัสเซียและมองโกลสังหารหรือถูกจับกุม
-ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา 9 สิงหาคม 1945 สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลูกที่สองลงบนเมืองนางาซากิของ ญี่ปุ่น
การบุกของสหภาพโซเวียตและสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 6 –9 สิงหาคม 1945 เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขในวันที่ 15 สิงหาคม 1945 และลงนาม ยอมแพ้อย่างเป็นทางการจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน บนเรือประจัญบาน USS Missouri ของกองทัพเรือสหรัฐฯ เรียกว่า วันวีเจ, วันแห่งชัยชนะเหนือญี่ปุ่น
โดยสหภาพโซเวียตขู่ว่าจะโจมตีและยึดครองฮอกไกโด ถ้าญี่ปุ่นไม่ยอมแพ้
หมายเหตุ กองทัพควันตุง ( ญี่ปุ่น : 関東軍, คันโตกุน ) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1906 ต้องยอมแพ้ต่อสหภาพโซเวียต หรือรัสเซีย
ต้องสละดินแดนแมนจูเรีย มองโกเลียในและเกาหลีเหนือ เซาท์ซาฮาลินและหมู่เกาะคูริลและเขตทางรถไฟแมนจูเรีย
ผลลัพธ์ชัยชนะของโซเวียต
11 พฤษภาคม ค.ศ. 1939 ทหารม้ามองโกลประมาณ 80 นายมาที่แม่น้ำคาลคินโกล เพื่อหาอาหารให้ม้า กลับถูกทหารม้าแมนจูกัวโจมตีขับไล่กลับไป
28 พฤษภาคม 1939 กองกำลังโซเวียต-มองโกเลียปิดล้อมและทำลายกองกำลังญี่ปุ่น-แมนจู วันที่ 15 กันยายน 1939 สหภาพโซเวียตและญี่ปุ่นตกลงหยุดยิง
การเปลี่ยนแปลงอาณาเขต
การล่มสลายของรัฐแมนจูกัว
รัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่น หลังญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามต่อสัมพันธมิตร โดยไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งจีน คือ 1 ใน 5 ประเทศพันธมิตร ดังนี้.- 5 สมาชิกถาวรของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) หรือ P5 คือ จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร, และสหรัฐอเมริกา
มีอำนาจยับยั้ง (Veto Power)
ในการตัดสินใจ หรือยับยั้งมติที่สำคัญของคณะมนตรีความมั่นคง แต่สิทธิยับยั้งนี้ไม่มีผลต่อการลงคะแนนเสียงของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ.
จีนประกาศให้วันที่ 3 กันยายน 1945 เป็นการเฉลิมฉลอง "วันแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านญี่ปุ่น" 抗日戰爭勝利紀念 อนุสรณ์ชัยชนะสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และประกาศให้วันที่ 3 กันยายน1955 เป็น 軍人節 วันทหารผ่านศึกจีน หรือวันกองทัพจีน
กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นส่งมอบฮ่องกงให้แก่กองทัพเรืออังกฤษ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 1945
ดินแดนแมนจูเรียในและมองโกเลียในถูกส่งคืนให้กับรัฐบาลชาตินิยมของจีน เมืองหลวงชั่วคราวฉงชิ่ง โดยข้อตกลงทวิภาคีใน ปี 1945
ปี ค.ศ. 1946 สหภาพโซเวียตถอนกำลังทหารจากแมนจูเรียใน
และมองโกเลียใน
ในทศวรรษ 1970 ทหารญี่ปุ่นบางส่วนบนเกาะแปซิฟิกไม่ยอมปลดอาวุธ และทหารญี่ปุ่นคนสุดท้ายที่ยอมจำนนในปี 1974
#นฤพนธ์ เพ็งอ้น
แปลเรียบเรียงและตีความ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
