🎶 The Wonder of You — จากเพลงรัก สู่งานสดุดีพระเยซู

🌟ความประทับใจส่วนตัว
ผมต้องบอกก่อนว่าตัวเองประทับใจ เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) มาก ๆ เคยดูภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องชีวิตของเขา ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเอลวิสเองเป็นคริสเตียนที่ผูกพันกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง
ตอนนั้นผมเองก็เริ่มเชื่อในพระเจ้าแล้วเหมือนกัน
จนวันหนึ่งผมนั่งฟังเพลง The Wonder of You เพลงนี้โดยส่วนตัวชอบอยู่แล้ว แรก ๆ ก็คิดว่าเป็นเพลงรักผู้ชาย–ผู้หญิงธรรมดา แต่วันนั้นไม่รู้ทำไม…กลับรู้สึกสะดุดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า
“I guess I'll never know the reason why you love me as you do.”
(ฉันคงไม่มีวันเข้าใจได้เลย ว่าทำไมเธอถึงรักฉันมากมายเพียงนี้)
ผมคิดในใจว่า… ถ้าเป็นความรักของมนุษย์ มันก็น่าจะหาเหตุผลได้ แต่ความรักที่ร้องถึงในเพลงนี้ดู บริสุทธิ์เกินไป จนผมคิดได้ว่า “ความรักแบบนี้เอง ที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์”
ต่อมาเมื่อค้นข้อมูลถึงรู้ว่า จริง ๆ แล้วเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นเป็น เพลง Gospel ก่อนที่จะกลายมาเป็นเพลงป๊อปดังไปทั่วโลก
โอ้… ขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทำให้ผมสัมผัสความรักของพระองค์ผ่านบทเพลงของนักร้องที่ผมชื่นชอบที่สุดคนหนึ่ง
✍️เบื้องหลังเพลง
The Wonder of You แต่งโดย Baker Knight ในปี 1958
จุดเริ่มต้นคือเพลง Gospel ที่เขียนขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้า
ปี 1959 Ray Peterson เป็นคนแรกที่นำมาร้องจนติดชาร์ต
ปี 1970 Elvis Presley นำมาร้องสดที่ Las Vegas และกลายเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ของ UK และ Top 10 ของสหรัฐฯ
ทุกวันนี้ เพลงนี้ถูกจดจำทั้งในฐานะเพลงรักและเพลงที่สื่อถึงความรักของพระเจ้า
🎶เนื้อเพลงแปล + มุมมองคริสเตียน
“When no one else can understand me,
When everything I do is wrong...”
เมื่อไม่มีใครเข้าใจฉัน
เมื่อสิ่งที่ฉันทำผิดพลาดหมด
👉 พระเยซูเข้าใจเราแม้ในความบาป : 'แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ' โรม 5:8
“You give me hope and consolation,
You give me strength to carry on...”
เธอให้ความหวังและการปลอบโยน
เธอให้กำลังแก่ฉันในการก้าวต่อไป
👉 พระองค์คือความหวังและกำลังของเรา : 'ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า ' ฟีลิปปี 4:13
“And you're always there to lend a hand,
In everything I do...”
และเธออยู่ตรงนั้นเสมอเพื่อยื่นมือช่วย
ในทุกสิ่งที่ฉันทำ
👉 พระเยซูสัญญาว่าจะอยู่กับเราเสมอ : '".... นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค' มัทธิว 28:20
“That's the wonder, the wonder of you.”
นั่นคือความอัศจรรย์… ความอัศจรรย์ของเธอ
👉 ความอัศจรรย์แห่งพระคุณที่ยากจะเข้าใจ : 'ความรู้อย่างนี้อัศจรรย์เกินข้าพระองค์ สูงนัก ข้าพระองค์เอื้อมไม่ถึง ' สดุดี 139:6
“And when you smile, the world is brighter,
You touch my hand and I'm a king...”
เมื่อเธอยิ้ม โลกก็สว่างขึ้น
เมื่อเธอแตะมือฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกษัตริย์
👉 พระเยซูคือความสว่างของโลก และเราเป็นประชากรที่พระองค์ทรงเลือก : (ยอห์น 8:12; 1 เปโตร 2:9)'....เราเป็นความสว่างของโลก....' ยอห์น 8:12 /
'แต่ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระเจ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ท่านทั้งหลายประกาศพระบารมีของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์ '1 เปโตร 2:9
“Your kiss to me is worth a fortune,
Your love for me is everything...”
จุมพิตของเธอมีค่าล้ำกว่าทรัพย์สมบัติ
ความรักของเธอคือทุกสิ่งสำหรับฉัน
👉 ความรักของพระองค์มีค่ามากกว่าสิ่งใด : 'เพราะว่าเจ้าประเสริฐในสายตาของเรา และได้รับเกียรติและเรารักเจ้า เราจึงให้คนเพื่อแลกกับเจ้า ให้ชนชาติทั้งหลายเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า ' อิสยาห์ 43:4
“I guess I'll never know the reason why,
You love me as you do.”
ฉันคงไม่มีวันเข้าใจได้เลย
ว่าทำไมเธอถึงรักฉันมากมายเพียงนี้
👉 ความรักของพระคริสต์กว้าง ยาว สูง ลึก เกินกว่าที่มนุษย์จะหยั่งถึง : 'ท่านก็จะได้มีความสามารถหยั่งรู้พร้อมกับธรรมิกชนทั้งหมด ถึงความกว้าง ความยาว ความสูง ความลึก คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริสต์ซึ่งเกินความรู้ เพื่อท่านจะได้รับความไพบูลย์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม ' เอเฟซัส 3:18-19
✝️ การสรรเสริญและเชิญชวน
สำหรับผม The Wonder of You ไม่ได้เป็นแค่เพลงรักของเอลวิส แต่กลายเป็น “เพลงสดุดี” ที่ทำให้ผมเห็นความรักของพระเยซู ผู้ทรงรักผมโดยไม่มีเงื่อนไข และอยู่กับผมในทุกก้าวของชีวิต
แล้วในวันธรรมดา ๆ ของเราล่ะ…
เวลาเราล้มเหลว → พระองค์ก็ยังเข้าใจและให้อภัย
เวลาเราเหนื่อยล้า → พระองค์เป็นกำลังให้เราลุกขึ้นใหม่
เวลาไม่มีใครอยู่เคียงข้าง → พระองค์ก็ยังอยู่ตรงนั้นเสมอ
เวลาเราสับสนกับอนาคต → พระองค์ให้ความหวังและการนำทาง
นี่คือ “ความอัศจรรย์แห่งพระเยซู” ที่เราสัมผัสได้ในทุกวัน ไม่ใช่แค่ในเพลง ไม่ใช่แค่ในโบสถ์ แต่ในชีวิตจริงของเรา
ดังนั้น หากคุณยังไม่เคยรู้จักพระเยซูมาก่อน ผมอยากเชิญชวนให้ลองเปิดใจดู และ
ถ้าคุณเชื่อในพระเยซูอยู่แล้ว ก็ขอให้บทเพลงนี้ช่วยย้ำเตือนว่า…
พระเยซูรักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข และนี่แหละคือ The Wonder of You ❤️✝️
โฆษณา