Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Introverted investor
•
ติดตาม
22 ก.ย. เวลา 08:37 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
📌‘Past Lives’ : อดีตแต่ปางก่อน กับโลกแห่งการลงทุน
บ่อยครั้งชีวิตนักลงทุนในหุ้น หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เราจะวางแผนช่วงเวลาปัจจุบัน (สิ่งที่ต้องเป็น) และคาดการณ์อนาคต (สิ่งที่น่าจะเป็น) ผ่านการทบทวนอดีต (สิ่งที่เคยเป็น) เสมอ ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานตามครรลองปกติของนักลงทุนหรือแม้กระทั่งวิถีการดำเนินชีวิตโดยทั่วไปก็ตาม เราตัดสินใจผ่านอดีต เพื่อกำหนดปัจจุบัน และคาดหวังต่ออนาคตกันทั้งนั้น
หากแต่นักลงทุนทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ตลาดหุ้นคือพื้นที่อัศจรรย์ซึ่งเฝ้าชะเง้อคอมองไปข้างหน้าเสมอ” ความสำเร็จในตลาดหุ้นมักอุบัติขึ้นกับนักลงทุนผู้ทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ หรืออย่างน้อยที่สุดประโยคที่ว่า “นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ คือคนที่มีสัดส่วนการตัดสินใจถูกต้อง มากกว่าผิดพลาด และปริมาณความถูกต้องนั้นสามารถกลบเกลื่อนร่องรอยความผิดพลาดได้ทั้งหมด” น่าจะเป็นประโยคที่ถูกพิสูจน์ผ่านกาลเวลามาแสนเนิ่นนานแล้วว่า ‘เป็นเช่นนั้นจริง’
ขณะเดียวกันประโยคที่ว่า “ประวัติศาสตร์ไม่ได้ซ้ำรอยเดิม แต่ก็มีรูปแบบบางอย่างที่สอดคล้องและเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรเสมอ” ก็คงจริงเช่นกัน ซึ่งถูกพิสูจน์ไว้ด้วยความสำเร็จจากนักลงทุนมากมายที่หมั่นศึกษารูปแบบของบางสิ่งซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีตซ้ำไปซ้ำมา พร้อมหยิบฉวยโอกาสเมื่อคนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นคิดเห็นสวนทาง และสร้างความมั่งคั่งมหาศาลผ่านการวิเคราะห์รูปแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งแรก
🟢เราคงไม่สามารถสรุปได้ว่าความสำเร็จในตลาดหุ้นนั้นพึ่งพา ‘อดีต’ หรือ ‘อนาคต’ มากน้อยไปกว่ากัน
🎬วัยเยาว์ของ ‘แฮซอง’ และ ‘นา-ยอง’ สองตัวละครหลักจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Past Lives’ เป็นความทรงจำที่หอมหวานสำหรับพวกเขาทั้งคู่ เรื่องราวดำเนินต่อไปจนเมื่อครอบครัวนา-ยองกำลังจะย้ายไปอยู่แคนาดา กับบทสนทนาหนึ่งระหว่างแม่ของเขาทั้งคู่
🔹แม่ แฮซอง: คุณเป็นนักเขียน สามีเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ครอบครัวดูดีและสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว ทำไมจึงเลือกทิ้งชีวิตที่นี่ (เกาหลีใต้) แล้วจากไปกลางคันแบบนี้ล่ะ?
🔹แม่ นา-ยอง: เราไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทอดทิ้งสิ่งใด แค่กำลังไปสู่บางสิ่งที่ดีกว่า...
🟢บทสนทนาดังกล่าวอาจเป็นการคัดง้างกันระหว่างแนวคิดที่ยึดติดกับอดีต และการใส่ใจต่ออนาคต
🎬ณ ฉากในโรงเรียน กับอีกบทสนทนาหนึ่งช่วงวัยเด็กระหว่าง ‘แฮซอง’ และ ‘นา-ยอง’ ก่อนที่นา-ยองจะออกเดินทางไปแคนาดา
🔹แฮซอง: เธอจะไปแล้วจริงๆ หรือ? แล้วเธอจะไปทำอะไรที่อเมริกา?
🔹นา-ยอง: ฉันจะไปเรียนที่นั่น และฉันก็จะได้เป็นนักเขียน (ความฝันของนา-ยองคือการได้เป็นนักเขียนเหมือนแม่ของเขา)
🔹แฮซอง: แต่ที่นี่ เธอก็เป็นนักเขียนได้นะ
🔹นา-ยอง: คนเกาหลีไม่มีใครได้รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมหรอก...
ความทะเยอทะยานอันเอ่อล้นในชีวิตของนา-ยอง ปรากฏและโอบคลุมบรรยากาศของภาพยนตร์อย่างโจ่งแจ้งอยู่หลายครา เธอเลือกที่จะเชื่อมั่นต่ออนาคต มากกว่าอดีตอันหอมหวาน
สวนทางกับแฮซอง เขายังคงยึดมั่นและสุขสมกับช่วงเวลาปัจจุบัน ก็ที่เป็นอยู่ ก็ดีอยู่แล้วนี่หน่า…
หลังจบบทสนทนา พวกเขาทั้งคู่เดินกลับบ้านด้วยกันหลังเลิกเรียน ซึ่งเป็นกิจวัตรปกติในทุกๆวัน ต่างกันตรงที่วันนี้คือวันสุดท้ายก่อนที่ครอบครัวนา-ยองจะย้ายไปต่างประเทศ ‘นา-ยองเคลื่อนไปข้างหน้า แต่แฮซองถอยร่นกลับเข้าสู่ความทรงจำ’
🟢นักลงทุนในหุ้นบางคนเชื่อเรื่องการศึกษาวิเคราะห์ประวัติศาสตร์และให้น้ำหนักเรื่องราวในอดีต ด้วยเหตุผลว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้ว มักจะเกิดซ้ำรอย อีกทั้งสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วคือเครื่องยืนยันความเป็นไปได้จริง ‘มันปลอดภัยและสมเหตุสมผลมากกว่า’ ที่จะนำอดีตมาวิเคราะห์และตัดสินใจเรื่องการลงทุน ในเมื่อไม่มีใครสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำ การพึ่งพาอนาคตมากเกินไปคงไม่ต่างอะไรกับการพนัน หรือการโยนเหรียญหัวก้อย
ขณะที่นักลงทุนในหุ้นบางคนเชื่อเรื่องการวิเคราะห์คาดการณ์อนาคต และให้น้ำหนักกับเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยเหตุผลว่า สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเกิดซ้ำอีกในอนาคต ไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าอนาคตจะเป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา พวกเขาเลือกที่จะหลงลืมอดีตไปเสีย แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำ ‘แต่การเฝ้ามองเพียงกระจกหลังนั้นไม่สมเหตุสมผลเสียเลย’ ที่จะใช้ตัดสินใจเรื่องการลงทุน
อนาคตคือความเสี่ยง ซึ่งความเสี่ยงมีทั้งเสี่ยงที่จะผิด และเสี่ยงที่จะถูก การลงทุนให้ประสบความสำเร็จคือการบริหารความเสี่ยงในอนาคตต่างหากล่ะ ไม่ใช่การหลีกหนีมันแล้วจ่อมจมอยู่กับอดีต
🎬12 ปีผ่านไป ‘แฮซอง’ และ ‘นา-ยอง’ ช่วงวัยหนุ่มสาว กลับมาพบกันอีกครั้งผ่านโลกออนไลน์ไร้การสัมผัสเชิงกายภาพ แฮซองเป็นพนักงานประจำอยู่ในเกาหลีใต้ พร้อมแบกรับความรู้สึกว่าตนเองนั้นแสนธรรมดาสามัญ ไม่มีสิ่งใดพิเศษโดดเด่น ขณะที่นา-ยอง ได้เป็นนักเขียนสมใจปรารถนาอยู่ในนิวยอร์ก ยังคงมีความฝันใฝ่สดใหม่และไล่ตามมันอยู่เสมอ
🔹แฮซอง: เธอยังอยากได้รางวัลโนเบลอยู่หรือเปล่า?
🔹นา-ยอง: อืม ตอนนี้ฉันอยากได้รางวัลพูลิตเซอร์ล่ะ...
เขายังคงยึดติดอยู่กับอดีต ส่วนเธอยังคงเคลื่อนที่ต่อไป ความสัมพันธ์ทางไกลครั้งใหม่ต่างเส้นเวลาดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง นา-ยอง กล่าวกับ แฮซอง ว่าเธออยากยุติความสัมพันธ์ทางไกลไว้เพียงเท่านี้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ เหตุเพราะความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอติดบ่วงอยู่กับความทรงจำในอดีต ที่มิอาจพัฒนาให้เป็นรูปร่างชัดเจนได้เลยในอนาคต อีกทั้ง ‘อดีต’ มักเยื้องกรายเข้าสู่หัวใจและคอยฉุดรั้งเธอจนหลงลืมความใฝ่ฝันใน ‘อนาคต’
แฮซอง คงเหมือนเฉกเช่นนักลงทุนในหุ้นที่มุ่งเน้นและหมกมุ่นอยู่กับข้อมูลในอดีต หลงลืมว่าการลงทุนคือการมองไปข้างหน้า
นา-ยอง คงเปรียบเหมือนนักลงทุนขั้วตรงข้าม เธอมุ่งเน้นและหมกมุ่นอยู่กับความน่าจะเป็นในอนาคต เปิดรับความเสี่ยงอย่างเต็มที่ จนหลงลืมเรื่องราวพื้นฐานสำคัญในโลกการลงทุน นั่นคือ ความเข้าใจต่อข้อมูลในอดีตที่ส่งอิทธิพลต่อการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล
🟢นักลงทุนต่างขั้วยังคงค้นหาสูตรสำเร็จในตลาดหุ้น และหาคำตอบต่อคำถามที่ว่าการสร้างความมั่งคั่งในตลาดหุ้นนั้นพึ่งพา ‘อดีต’ หรือ ‘อนาคต’ มากน้อยไปกว่ากัน พวกเขายังคงไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน...
🎬อีก 12 ปีต่อมา ‘แฮซอง’ และ ‘นา-ยอง’ ได้พบกันอีกครั้งในนิวยอร์ก ขณะที่ นา-ยอง แต่งงานกับหนุ่มอเมริกันผ่านมาหลายปีแล้ว แฮซองคงกลับมาตามหาความทรงจำที่หายไป ขณะที่นา-ยอง ยอมรับอดีตและก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ฉากที่ตัวละครหลักในเรื่องกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสในบาร์ริมทางยามค่ำคืนนั้นมอบความรู้สึกอันหลากหลาย ความรัก ความค้างคา ความถวิลหา หรือ ความเสียดาย...
🎬ณ ฉากสุดท้าย ท่ามกลางความมืดสลัวดึกสงัด ถึงเวลาที่ทั้งสองต้องแยกย้าย นา-ยอง เดินไปส่ง แฮซอง ที่กำลังเรียกรถโดยสารกลับโรงแรม และเดินทางกลับเกาหลีใต้ในเช้าวันรุ่งขึ้น
🔹แฮซอง: ถ้าชาติหน้าเราได้พบเจอกันอีกครั้ง บทสรุปมันจะแตกต่างออกไปไหม?
🔹นา-ยอง: ฉันไม่รู้
🔹แฮซอง: ถ้าอย่างนั้น แล้วเจอกันใหม่นะ
🔹นา-ยอง: อืม
นา-ยองไม่ได้หมายความว่าเธอไม่รู้อะไรเลย แต่เธอเลือกที่จะยอมรับว่าบางสิ่งในชีวิตนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุม และไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเสมอไป ซึ่งเธอไม่ได้พยายามหาคำตอบ เพียงแค่ยอมรับความจริง และปล่อยให้อนาคตดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น
🎬ฉากสะท้านอารมณ์คงเป็นเมื่อ แฮซอง ลับสายตาไป / นา-ยอง เดินทอดน่องกลับไปยังทิศทางที่เพิ่งจากมา ขณะที่ ‘อาร์เธอร์’ สามีของเธอนั่งรออยู่บนบันไดขั้นเล็กๆหน้าอพาร์ทเม้นท์ เขาค่อยๆลุกขึ้น นา-ยองโผเข้ากอดสามีของเธอแล้วปล่อยโฮออกมา ก่อนที่ฉากจะตัดหายไป
🟢สิ่งที่นักลงทุนในหุ้นซึ่งยึดติดกับ ‘อดีต’ หรือนักลงทุนขั้วตรงข้ามที่หลงใหลต่อ ‘อนาคต’ อาจหลงลืมไปชั่วขณะคือเรื่องราวของ ‘โชคชะตา’
โชคชะตาอาจเป็นส่วนผสมสำคัญในปริมาณที่มากจนน่าตกใจเลยทีเดียวต่อการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น ทางออกของสองนักลงทุนต่างขั้วอาจเป็นเรื่องของ ‘ความสมดุล’ และเปิดพื้นที่ให้โชคชะตาได้เคลื่อนตัวอย่างลื่นไหลระหว่างอดีต ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคตที่มิอาจควบคุมได้
🟢นักลงทุนหลายคน รวมถึงตัวผมเอง ต่างดำดิ่งไปกับโลกแห่งการลงทุนเสมือนผืนมหาสมุทรที่ไม่อาจคาดคะเนความตื้นลึก ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารอันล้นเกินมากมายจนสร้างความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกที่เราไม่อาจเป็นคนเก่งหรือคนฉลาดได้เลย เสมือนมีบางสิ่งคอยกดทับเราอยู่ตลอดเวลา ความพยายามของเราไม่เคยได้รับการตอบสนองอย่างเป็นรูปธรรม เพราะโลกแห่งการลงทุนหรือโลกทุนนิยมไม่เคยมีพื้นที่ว่างให้แก่อารมณ์ความรู้สึกแบบ ‘ปัจเจกบุคคล’
🎬พ่อและแม่ของนา-ยอง ซึ่งถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในช่วงต้นของภาพยนตร์ หลังจากดำเนินเรื่องไปจนถึงช่วงเวลาที่ครอบครัวกำลังจะย้ายออกจากเกาหลีใต้ พวกเขากลับไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยจนกระทั่งจบเรื่อง ผู้ชมไม่มีวันได้รับรู้เลยว่าชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างไร ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะกำลังตอกย้ำเราอีกครั้งว่าชีวิตและอนาคตเป็นสิ่งที่คาดหวังได้ หากแต่ควบคุมได้ยากยิ่ง พื้นที่ว่างขนาดมหึมาระหว่างปัจจุบันและอนาคตคือการไหลเวียนของโชคชะตา
🎬ในภาพยนตร์มีการกล่าวถึงคำว่า ‘อินยอน (In-yeon)’ หลายครั้ง ซึ่งแปลความหมายอย่างตรงตัวได้ว่า ‘โชคชะตา’ อินยอนในความเชื่อของคนเกาหลีใต้นั้นมีความเข้มข้นหลายระดับ แต่หากจะให้กล่าวโดยสรุปก็คือ แนวคิดเรื่องการที่คนเราได้มาพบ ได้พูดคุย ได้รู้จัก ได้รัก ได้ชอบ หรือแม้กระทั่งได้บังเอิญเดินสวนทางและสบตากัน ล้วนเกิดขึ้นจากอินยอนที่สะสมขึ้นมาระหว่างกันตั้งแต่ชาติปางก่อน
🟢ชีวิตนักลงทุนในตลาดหุ้นอาจต้องพึ่งพา ‘อินยอน’ หรือ ‘โชคชะตา’ ไม่น้อยไปกว่าความรู้ในอดีตและความสามารถในการคาดการณ์อนาคต ทางออกก็อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าคงไม่มีใครถูก หรือผิด สิ่งสำคัญคงอยู่ที่การปรุงส่วนผสมชีวิตนักลงทุนให้กลมกล่อมและลงตัวมากที่สุดในแบบฉบับของตัวเราเอง ขั้นตอนสุดท้ายอย่าลืมหลงเหลือพื้นที่ว่างให้กับ ‘โชคชะตา’ ไว้เสียบ้าง
มีความสุขกับชีวิตปัจจุบันอย่างสมดุล เมื่อลงทุนผิดพลาด จงเสียใจ เรียนรู้ ยอมรับ และก้าวเดินต่อไป ตระหนักเสมอว่าอนาคตเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยากยิ่ง มีตัวแปรมากมายที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ณ ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตนักลงทุน จงเข้าใจ ยอมรับ และยินดีไปกับทุกช่วงชีวิตนักลงทุนของเราเอง
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
Past Lives
Director: Celine Song, 2023
หุ้น
การลงทุน
ภาพยนตร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย