22 ก.ย. เวลา 09:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รายงานภาวะตลาดประจำสัปดาห์ 15 – 19 ก.ย. 2568

ภาพรวม
  • Fed ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00 - 4.25% เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
  • BOJ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ตามคาด
  • BOE คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.00% ตามคาด
  • การพบปะระหว่าง สี จิ้นผิง และทรัมป์ มีความคืบหน้าในหลายประเด็นสำคัญ
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงต่อเนื่อง
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกโดยรวมปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P 500 +1.6% ขณะที่ Nasdaq และ Russell 2000 +2% หลังจากที่ Fed มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย อีก 2 ครั้งในปีนี้ รวมถึง 1 ครั้งในปี 2026 และอีก 1 ครั้งในปี 2027
  • เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง แม้เงินเฟ้ออาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษีก็ตาม ทั้งนี้ Fed ให้น้ำหนักต่อตลาดแรงงานมากกว่าเงินเฟ้อ พร้อมย้ำว่าการดำเนินนโยบายการเงินจะพิจารณาตามการประชุมในแต่ละครั้ง และขึ้นอยู่กับข้อมูล (Data Dependent) โดยอิงข้อมูลด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อเป็นปัจจัยหลัก
  • ประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
• GDP: ปีนี้ปรับขึ้นจาก 1.4% สู่ 1.6% และปี 2026 ปรับขึ้นจาก 1.6% สู่ 1.8%
• เงินเฟ้อ Core PCE (ไม่รวมอาหารและพลังงาน): ปีนี้คงไว้ที่ 3.1%, ปี 2026 ปรับขึ้นจาก 2.4% สู่ 2.6% และปี 2027 คงไว้ที่ 2.1%
• อัตราการว่างงาน: ปีนี้คงไว้ที่ 4.5% และปี 2026 ปรับลดลงจาก 4.5% สู่ 4.4%
  • ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
• BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณเข้มงวดกว่าที่ตลาดประเมิน ส่งให้เงินเยนแข็งค่าและกดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น
• ประกาศแผนขายกองทุน ETF มูลค่าราว 3.3 แสนล้านเยน/ปี และ J-REIT มูลค่า 5 พันล้านเยน/ปี (ตามมูลค่าตามบัญชี) โดยเป็นการดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจกระทบตลาดหุ้นระยะสั้น
• ผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อุเอดะ ระบุว่ายังต้องติดตามข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนตุลาคมลดลง
• Goldman Sachs ประเมินว่า BOJ จะยังคงนโยบายไปอีกระยะ และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า หากเห็นสัญญาณที่ชัดเจนจากการปรับขึ้นค่าจ้างในการเจรจา Shunto Wage Negotiation และผลกระทบจากมาตรการภาษี
  • ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)
• BOE มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.00% ตามคาด โดยมี 2 เสียงโหวตลดดอกเบี้ย 0.25%
• ชะลอจังหวะการลดงบดุลธนาคารกลาง (QT) และส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมติดตามตัวเลขเงินเฟ้อและความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
• Goldman Sachs ประเมินว่า BOE ไม่น่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเงินเฟ้ออังกฤษยังสูงที่ 3.8% ในเดือนสิงหาคม (สูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2024) แต่หากตัวเลขชะลอตัว อาจมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ในเดือนธันวาคม
  • จีน
• หุ้นเทคจีนสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้น หนุนจากความคาดหวังการลงทุนด้าน AI ของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่
• Bloomberg คาดว่าในปี 2025 บริษัทเทคจีนรายใหญ่ (เช่น Alibaba, Tencent, Baidu, JD.com) จะลงทุนรวมกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 13,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023
• ตัวเลขเศรษฐกิจ (Retail Sales, Industrial Production, Fixed Asset Investment) ออกมาต่ำกว่าคาด และภาคอสังหาริมทรัพย์ยังอ่อนแอ ตลาดคาดว่ารัฐบาลจีนอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เพื่อให้ GDP ปีนี้บรรลุตามเป้าหมาย และคาดว่ามาตรการจะเป็นแบบเจาะจงในบางกลุ่มเศรษฐกิจ
  • ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
• การพบปะระหว่าง สี จิ้นผิง และทรัมป์ มีความคืบหน้าในหลายประเด็นสำคัญ เช่น การค้า สถานการณ์สงครามรัสเซีย–ยูเครน และข้อตกลงเกี่ยวกับ TikTok ทั้งสองฝ่ายเตรียมพบกันที่ประชุม APEC ที่เกาหลีใต้ในเดือนหน้า และมีแผนเยือนจีน–สหรัฐฯ ในอนาคต
• คาดว่าจีนจะใช้กรณี NVIDIA เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง ทั้งการกล่าวหาฝ่าฝืนข้อตกลง Mellanox ปี 2020 และสั่งให้บริษัทเทคใหญ่หยุดทดสอบ/ยกเลิกสั่งซื้อชิปบางรุ่น ตลาดมองว่าเป็นความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ และเพิ่มอำนาจต่อรองกับสหรัฐฯ
  • ตราสารหนี้ไทย
• ช่วงสองสัปดาห์ก่อนจนถึงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวสูงขึ้น หลังจากลดลงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากแรงขายทำกำไร แต่ต่อมาผลตอบแทนก็ปรับลดลงอีกครั้ง
• อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยปัจจุบัน 1.5% มีมุมมองว่ายังมีโอกาสลดได้อีก 2–3 ครั้งในปีหน้า อาจต่ำสุด 0.75% เพราะเศรษฐกิจยังไม่เข้มแข็งและเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย จึงไม่กระทบการลงทุนพันธบัตรระยะกลาง–ยาว เนื่องจากดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับลดต่อเนื่อง
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา