22 ก.ย. เวลา 13:03 • ไลฟ์สไตล์

เขียนช้า คิดลึก: พลังที่โลกดิจิทัลลืมไป

ท่ามกลางโลกแห่งเทคโนโลยีอย่างทุกวันนี้ ทำให้เราฉลาดขึ้นจริง ๆ หรือ ผมกำลังตั้งคำถามว่าเครื่องทางดิจิตอลทำให้เราเก่งขึ้นจริงหรือเปล่า แต่สำหรับผมแล้วนั้น ซึ่งกำลังเป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลับมองว่าความสามารถสำคัญที่สมองต้องใช้อย่างการคิดลึก ๆ กำลังถูกบั่นทอน
เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ อย่างสูงมักจะยึดกับทักษะที่หลายคนคิดว่า "ล้าสมัยไปแล้ว" นั่นคือการเขียนด้วยมือครับ และการเขียนด้วยมือจะช่วยกระตุ้นความคิด ประมอลผล รวมถึงความจำที่เครื่องมือทางดิจิตอลมักทำไม่ได้
ทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น?
  • ปัญหาและบริบททางสังคมที่แท้จริง
หลังจากศตวรรษที่ 20 มีปรากฎการณ์ “Flynn Effect” ที่ค่า IQ เฉลี่ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พอไปถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ค่า IQ เฉลี่ยในหลาย ๆ ประเทศกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด
มีรายงานจากสังคมสงคราะห์ของอเมริกา บ่งชี้ว่าในปี 2023 ประสิทธิภาพทางสติปัญญาลดลงตั้งแต่ปลายยุค 1990 รวมถึงบางประเทศในยุโรปอีกด้วย
งานวิจัยจากนอร์เวย์ (ที่มีตัวอย่างมากกว่า 730,000 คน) ชี้ว่า “ปัจจัยแวดล้อม” เป็นสาเหตุ ซึ่งแปลว่าเป็นสิ่งที่สังคม/พฤติกรรมของเราทำได้หรือเปลี่ยนแปลงได้
  • ตัวอย่างในเชิงพฤติกรรมที่คิดว่าใคร ๆ ก็ทำได้
ผมมีเรื่องจพเล่าให้ฟังครับ ถ้าเราได้เจอกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสายงานของเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน แพทย์ ซีอีโอ คนเหล่านี้มักจะเขียนด้วยมือลงในสมุดจดเป็นประจำ
แล้วพวกเขาเหล่านั้นเขียนอะไรกันบ้าง เช่น เขียนเป้าหมายรายไตรมาสด้วยปากกาและกระดาษ, ร่างอีเมลสำคัญด้วยมือก่อนจะพิมพ์, จดในการปรึกษาผู้ป่วย, จด Morning Pages ตอนเช้า ฯลฯ.
“การเขียนด้วยมือ” ดูเหมือนสร้างสภาวะความคิดที่ต่างออกไปครับ เพราะมันจะทำให้เราได้คิดนานกว่า ลึกกว่าและแน่นอนมากกว่า
  • งานวิจัยที่รองรับเรื่องการเขียบนด้วยมือ
1. การถดถอยของ IQ / Reverse Flynn Effect: คือปรากฏการณ์ที่คะแนน IQ โดยเฉลี่ยของคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มลดลง แทนที่จะเพิ่มขึ้นเหมือนในอดีต (Flynn Effect)
Flynn Effect (ศตวรรษที่ 20): IQ เฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 3 จุดต่อทศวรรษ สาเหตุหลักมาจากโภชนาการ การศึกษา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
Reverse Flynn Effect (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา): หลายประเทศในยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย เริ่มพบว่าคะแนน IQ รุ่นใหม่ ลดลง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
สาเหตุที่คาดว่าเกี่ยวข้อง
การศึกษาที่เน้นท่องจำมากกว่าการคิดวิเคราะห์
เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียที่ทำให้สมาธิลดลง
สิ่งแวดล้อม (สารพิษ มลภาวะ) ที่ส่งผลต่อพัฒนาการสมอง
โภชนาการหรือปัจจัยทางสุขภาพบางอย่าง
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร (เช่น อัตราการเกิดที่ต่างกันในกลุ่มประชากร)
2. การศึกษาด้านการจดบันทึก/การเขียนด้วยมือ — งานคลาสสิกเช่น Mueller & Oppenheimer (2014) พบว่า การจดแบบ longhand ช่วยให้ผู้จดสังเคราะห์และเข้าใจเชิงแนวคิดได้ดีกว่าคนที่พิมพ์บนแล็ปท็อป
ผลคือการเขียนด้วยมือ “บังคับ” ให้ประมวลผลข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น. นอกจากนี้ งาน fMRI ที่ Indiana University แสดงว่าเด็กที่ฝึกเขียนตัวอักษรด้วยมือจะมีการเปิดใช้งานวงจรสมองที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน/เขียน มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฝึกด้วยมือ
  • ทำไมการเขียนด้วยมือถึงช่วยในการคิดเชิงเหตุผล
1. การเขียนช้า = ได้ประมอลผลเชิงลึก - แน่นอนครับการเขียนด้วยมือนั้นช้าการพิมพ์มาก ๆ ทำให้ผู้เขียนเองต้องเลือกสิ่งสำคัญที่ต้องเขียนลงไป จึงเกิดการสังเคราะห์ในทันที
2. ทำให้สมองเชื่องกับภาษาที่กำลังเขียน - การขยับมือขยับนิ้ว ช่วยกระตุ่นการทำงานระหว่างสมองกับภาษา ซึ่งช่วยให้ระบบประสาทมีความคิดที่ลึกกว่าเดิม
3. หมึกและกระดาษจะอยู่ถาวร - สิ่งที่เราเขียนด้วยมือนั้น ยากที่จบมันทิ้งไปได้ทันที จึงทำให้ผู้เขียนใส่ใจทุกครั้งเวลาเขียน
  • นิสัยเฉพาะที่คนประสบความสำเร็จใช้
Morning Pages - (stream-of-consciousness) เขียนให้ยาว 3 หน้าเพื่อเคลียร์ความคิดตอนเช้า.
Problem-Solving Sessions บนกระดาษ - เขียนปัญหาไว้บนหัวกระดาษ แล้วไล่ใส่ข้อเท็จจริง สมมติฐาน และทางออก จนเห็นสามารถหาทางแก้ปัญหาเหล่านั้นได้
Goal-setting & Planning - เขียนเป้าหมายแล้วทบทวนเป็นรอบ ๆ
Decision Journal - จดเหตุผล การคาดการณ์ และผลลัพธ์ของการตัดสินใจ เพื่อให้ตัวเองกลับมาย้อนอ่านและเรียนรู้
  • 7-Day Handwriting Challenge Checklist
(ทำวันละ 15–30 นาที ก็พอ)
***Day 1 – Morning Pages
เขียน 3 หน้าเต็มด้วยมือ (เขียนอะไรก็ได้ ไหลตามความคิด ไม่ต้องแก้ไข)
เป้าหมาย: เคลียร์สมองให้โล่ง
***Day 2 – To-Do List ด้วยมือ
เขียนงานที่ต้องทำวันนี้ลงกระดาษ (ไม่ใช้แอป)
หลังจบวัน ขีดฆ่างานที่เสร็จ แล้วทบทวนสิ่งที่ค้าง
***Day 3 – Idea Dump
เขียนหัวข้อหรือปัญหาที่คุณอยากแก้ แล้วเขียนวิธีแก้ที่คิดได้ให้มากที่สุด
ไม่ต้องห่วงถูกผิด เป้าหมายคือ “ปลดล็อกความคิด”
***Day 4 – Decision Journal (การตัดสินใจ)
เขียนการตัดสินใจสำคัญ 1 เรื่อง
ให้เขียนว่า : ทำไมเลือกแบบนี้? คาดหวังผลลัพธ์อะไร? จะรู้อะไรใหม่จากการตัดสินใจครั้งนี้? เข้าไปด้วย
***Day 5 – Learning Notes
เลือกบทความ / Podcast / วิดีโอ 1 เรื่องที่ได้เรียนรู้
จดด้วยมือเป็น Mind Map หรือ bullet point เพื่อสรุปแก่นสำคัญ
***Day 6 – Gratitude List
เขียนสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ 5 อย่างในวันนี้
เน้นความรู้สึกเล็ก ๆ เช่น ขอบคุณกาแฟร้อน ๆ ตอนเช้า
***Day 7 – Review & Reflect
เปิดสมุดย้อนอ่าน 6 วันแรก
สังเกต: อารมณ์ดีขึ้นไหม? คิดชัดขึ้นตรงไหน?
เขียนบันทึกสั้น ๆ: “ฉันได้เรียนรู้อะไรจากการเขียนด้วยมือในสัปดาห์นี้?”
+-+หลังครบ 7 วัน คุณสามารถเลือกวิธีที่ชอบที่สุดมาทำต่อเนื่อง เช่น Morning Pages ทุกเช้า หรือ Decision Journal ทุกครั้งที่มีเรื่องใหญ่ต้องเลือก
  • เครื่องมือดิจิตัลทำให้งานของเราเร็วก็จริงครับ แต่กำลังลดพื้นที่ที่สมองต้องใช้ในการคิดอย่างมากผู้ประสบความสำเร็จหลายคนจึงกลับมาใช้ การเขียนด้วยมือ เพื่อบังคับให้สมองสังเคราะห์ สร้างความจำ และคิดเชิงระบบได้ดีกว่าครับ
โฆษณา