23 ก.ย. เวลา 06:40 • สุขภาพ

Photosensitivity จาก tetracyclines/retinoids: การป้องกันและการให้คำแนะนำผู้ป่วย

บทคัดย่อ
Drug-induced photosensitivity (DIP) เป็น adverse drug reaction ที่มีลักษณะเฉพาะ คือผื่นเกิดเฉพาะบริเวณที่สัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตหรือแสงแดด กลไกหลักแบ่งเป็น phototoxic ซึ่งพบได้บ่อยกว่า และ photoallergic ซึ่งพบได้น้อยกว่า ยาที่เกี่ยวข้องในบริบทนี้ ได้แก่ tetracyclines (โดยเฉพาะ doxycycline) และ retinoids
ทั้งชนิด systemic (เช่น isotretinoin, acitretin) และ topical (เช่น tretinoin) ซึ่งล้วนมีศักยภาพกระตุ้น DIP ได้ การสั่งใช้ยากลุ่มนี้จึงควรดำเนินควบคู่กับมาตรการ photoprotection อย่างเคร่งครัด รวมถึงการให้คำแนะนำผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความเสี่ยงของผื่นไหม้แดดรุนแรง, post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) และการหยุดยาก่อนเวลาอันควรโดยไม่จำเป็น
คำนิยามและลักษณะทางคลินิก
- Phototoxicity เป็นปฏิกิริยาแบบ non-immunologic ที่ขึ้นกับขนาดของทั้งตัวยาและปริมาณรังสีที่สัมผัส (dose-dependent) มักเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมงหลังได้รับแสง ลักษณะทางคลินิกคล้าย sunburn โดยจำกัดอยู่เฉพาะบริเวณที่สัมผัสแสงแดด มักมีขอบเขตชัดเจน เช่น ตามแนวเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวไว้
- Photoallergy เป็นปฏิกิริยาแบบ delayed-type hypersensitivity (type IV) ซึ่งต้องอาศัยการกระตุ้นหลายครั้งก่อนเกิดอาการ ผื่นมักเริ่มภายใน 24–72 ชั่วโมงหลังสัมผัสแสง มีลักษณะ eczematous และสามารถลุกลามไปนอกบริเวณที่สัมผัสแสงได้
ช่วงคลื่นของแสงที่กระตุ้นได้บ่อยคือ UVA (315–400 nm) อย่างไรก็ตาม ยาบางชนิดอาจตอบสนองต่อ UVB หรือแม้แต่ visible light ร่วมด้วย
ยาที่เกี่ยวข้อง
1) Tetracyclines
หลักฐานทางคลินิกและกลไก
Doxycycline เป็น tetracycline ที่มีรายงาน phototoxicity อย่างชัดเจน โดยความรุนแรงขึ้นกับทั้งขนาดยาที่ใช้และปริมาณรังสีที่สัมผัส (dose- and radiation-dependent effect) ขณะที่ minocycline และ sarecycline มีแนวโน้มก่อปฏิกิริยาได้น้อยกว่า หลักฐานสนับสนุนครอบคลุมทั้งระดับ in vitro, in vivo และ systematic review ตั้งแต่ยุคการศึกษาคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลจากฉลากยา :
Doxycycline มีคำเตือนชัดเจนว่า “photosensitivity หลีกเลี่ยงหรือจำกัดการสัมผัสแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต”
2) Retinoids
● Systemic retinoids
Isotretinoin : แม้กลไก photosensitizing โดยตรงจะไม่เด่นชัดเท่า tetracyclines แต่ฉลากยาระบุให้ “หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดหรือรังสี UV ให้มากที่สุด” พร้อมแนะนำมาตรการ photoprotection อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิด pseudotumor cerebri โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ tetracyclines จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงใช้ร่วมกัน
Acitretin : มีคำเตือนเรื่อง photosensitivity เช่นเดียวกัน และเหลียกเลี่ยงการใช้ร่วมกับ tetracyclines ด้วยเหตุผลด้านความเสี่ยงของ intracranial hypertension
● Topical retinoids
Tretinoin : แม้จะไม่ก่อให้เกิด phototoxicity แบบจำเพาะเสมอไป แต่ฉลากยาระบุชัดให้หลีกเลี่ยงแสงแดด/เครื่องฉายรังสี UV และใช้ sunscreen หรือเสื้อผ้าที่ป้องกันแสง” ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจกระตุ้นภาวะ photosensitivity-like หรือผิวหนังไวต่อการระคายเคือง (irritant-prone state) ได้ในบางราย
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิด Drug-Induced Photosensitivity
- ปริมาณยาและความเข้มของรังสี UV
ความเสี่ยงของ phototoxicity เพิ่มขึ้นตามขนาดยาที่ใช้ ความแรงของรังสีที่ได้รับ และโดยเฉพาะช่วงคลื่น UVA (315–400 nm) ซึ่งสามารถทะลุผ่านกระจกได้ จึงมีความเสี่ยงแม้อยู่ภายในอาคารหรือรถยนต์
- ลักษณะผิว (Skin phototype)
กลุ่มผิวขาว (Fitzpatrick I–III) มีความไวต่อ phototoxic reactions สูงกว่า ขณะที่ผู้ที่มีผิวคล้ำ (Fitzpatrick IV–VI) มักเกิด post-inflammatory hyperpigmentation (PIH) รุนแรงมากกว่า แม้อาการอักเสบอาจน้อยกว่า
- พฤติกรรมการสัมผัสแสงแดด
ปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมได้แก่การมีกิจกรรมกลางแจ้ง (อาชีพ ท่องเที่ยว กีฬา), การอยู่ในพื้นที่ที่มีความสูงหรือละติจูดสูง, สภาพแวดล้อมที่มีพื้นผิวสะท้อนแสง (เช่น น้ำ หิมะ ทราย) และการสัมผัสแสงผ่านกระจก (โดยเฉพาะในรถหรืออาคาร ซึ่งยังปล่อยให้ UVA ผ่านได้)
- ยาร่วมที่มีฤทธิ์ photosensitizing
การใช้ยาร่วมที่มีศักยภาพกระตุ้น photosensitivity เช่น thiazide diuretics, NSAIDs, amiodarone และยาอื่น ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงแบบ synergistic
การป้องกัน (Prevention) และแนวทางให้คำแนะนำผู้ป่วย
เป้าหมายการดูแล
- ลดปริมาณรังสี UV ที่สัมผัสผิวหนัง
- พิจารณาทางเลือกของยาที่มีความเสี่ยงต่อ photosensitivity น้อยกว่า
- ลดการระคายเคืองของผิวหนังจากการใช้ retinoids
1) ก่อนเริ่มใช้ยา
ประเมินความเสี่ยงเฉพาะบุคคล
- ประวัติกิจกรรมหรืออาชีพที่สัมผัสแสงแดดสูง เช่น ทำงานกลางแจ้ง นักกีฬา ท่องเที่ยวทางทะเล/หิมะ
- ลักษณะผิว: ผิวคล้ำ (Fitzpatrick IV–VI) มีความเสี่ยงสูงต่อ post-inflammatory hyperpigmentation (PIH)
- เคยมีประวัติ drug-induced photosensitivity (DIP) มาก่อน
ปรับเลือกยาหากมีทางเลือกอื่น
- หากคาดว่าผู้ป่วยต้องสัมผัสแสงแดดมาก และมีทางเลือกการรักษาอื่นที่เหมาะสม :
พิจารณาเปลี่ยนจาก doxycycline ไปใช้ tetracycline ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น minocycline หรือ sarecycline หรือพิจารณาเปลี่ยนกลุ่มยา ขึ้นกับข้อบ่งใช้
- หลีกเลี่ยงการใช้ isotretinoin ร่วมกับ tetracyclines เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงต่อ pseudotumor cerebri
2) ขณะใช้ยา
A. มาตรการ Photoprotection อย่างครบถ้วน
- ครีมกันแดด : ใช้ชนิด broad-spectrum (UVA/UVB) ที่มี SPF ≥30 (หรือ ≥50 ในกรณีแสงจัด/กลางแจ้งนาน)
- ทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที
- ปริมาณเฉลี่ย: ~1 ออนซ์ (ประมาณ 1 ช็อตแก้ว) สำหรับผิวทั้งตัว
- ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือถี่กว่านั้นหากมีการเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
- ริมฝีปาก : ใช้ lip balm ที่มี SPF
- เสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกัน
สวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดดชนิด UV400 และหลบเลี่ยงแสงแดดช่วง 10:00–14:00 น.
- กระจกไม่ได้ป้องกัน UVA : แนะนำติดฟิล์มกันรังสี UVA หากขับรถหรือนั่งริมหน้าต่างเป็นเวลานาน
- ผู้ที่มีผิวคล้ำหรือเป็นฝ้า/กระ : ควรใช้ tinted sunscreen ที่มี iron oxides เพื่อลดการกระตุ้นจาก visible light ซึ่งมีบทบาทต่อ PIH
B. เทคนิคการใช้ยาและการดูแลผิวร่วม
- ใช้ moisturizer ที่อ่อนโยน ร่วมกับ retinoids เพื่อลดการระคายเคือง
- เริ่มต้นด้วยการใช้วันเว้นวัน
- ทาก่อนนอนเพื่อเลี่ยงแสง
- หลีกเลี่ยงหัตถการผิวหนัง เช่น waxing หรือเลเซอร์ ระหว่างใช้ isotretinoin และควรเว้นอย่างน้อย 6 เดือนก่อนทำหัตถการใด ๆ ตามฉลากยา
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อย เช่น
dry skin, cheilitis, dry eyes ระหว่างใช้ isotretinoin
- แนะนำใช้ lip balm ที่มี SPF และ artificial tears ตามความจำเป็น
C. ตัวอย่างข้อความให้คำแนะนำผู้ป่วย
- “ยานี้ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดได้ง่าย—ให้ทาครีมกันแดดแบบ broad-spectrum ที่มี SPF 30–50 ให้ทั่วตัว (ปริมาณประมาณ 1 ช็อตแก้ว) ก่อนออกแดด และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง”
- “พยายามอยู่ในที่ร่มช่วงแดดจัด (10 โมงถึงบ่าย 2), สวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดด”
- “ถ้าต้องนั่งริมหน้าต่างหรือขับรถนาน ๆ อย่าลืมว่ารังสี UVA ผ่านกระจกได้”
- “หากผิวเข้มหรือกังวลเรื่องรอยดำ ให้ใช้ครีมกันแดดชนิด tinted ที่มี iron oxides”
- “หากรู้สึกแสบร้อนหรือผิวแดงจัด ให้หลบแดดทันที ประคบเย็น ทา moisturizer และติดต่อแพทย์”
โฆษณา