Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนไว้ให้เธอ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
24 ก.ย. เวลา 02:48 • ความคิดเห็น
เด็กขุดบ่อน้ำ
“มีเด็กเณรอยู่สองวัด ภูเขาฝั่งซ้าย ภูเขาฝั่งขวา ทุกๆ วันพวกเขาต้องลงมาตักน้ำที่ข้างล่างภูเขาเพื่อประทังชีวิต ทุกๆวันที่มาตักน้ำก็จะคุยกันจนเป็นเพื่อนสนิทกัน
ระยะเวลาผ่านไปสามปี วันนึงเด็กเณรภูเขาอีกฝั่งนึงไม่ลงมาเหมือนเคย เพื่อนก็กังวลมากว่ากลัวจะเป็นอะไร หลังจากตักน้ำเสร็จเขาก็เลยไปเยี่ยมเพื่อนที่เขาอีกฝั่งนึง พอไปถึงก็เห็นเพื่อนเขานอนเล่นอาบแดดูหนังสือพิมพ์อย่างสบายใจ ก็เลยถามว่านึกว่ามึงตายไปแล้ว ไม่ลงมาตักน้ำ ถ้าไม่ลงมาจะเอาน้ำที่ไหนกิน เพื่อนบอกว่า ทุกๆ วันที่ตักน้ำเสร็จ ก็เริ่มขุดบ่อน้ำของตัวเอง ปีที่หนึ่งไม่เจออะไรเลย ท้อมาก ปีที่สองก็ไม่เจอ ปีนี้ขุดบ่อน้ำจนเจอน้ำแล้ว เลยไม่ต้องไปตักอีกต่อไป
นิทานนี้บอกเราว่า ต้นทุนชีวิตคนคล้ายกัน ต้องทำงานประจำคือการตักน้ำ จึงจะประคองชีวิตได้ แต่ความแตกต่างของคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่แปดชั่วโมงที่คุณไปตักน้ำ แต่อยู่ที่หลังจากตักน้ำ คุณทำเชี่ยอะไรอยู่ ….
1
เพราะฉะนั้ัน คุณไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้อง all in ต้องลาออกจากงาน อาจจะหิวตายเพราะไม่มีน้ำกิน แต่ที่สำคัญคือหลังจากคุณตักน้ำเสร็จแล้ว คุณต้องสร้างที่มีคุณค่า ค้นหาสิ่งนั้น และทำให้คุณใช้มันในระยะยาวได้ครับ… “
เป็นเรื่องราวที่คมสันต์ แซ่ลี แห่ง Flash Express เล่าบนเวทีสัมมนาแห่งหนึ่ง สะท้อนถึงวิธีคิดที่ทำให้เด็กดอย ยากจน แทบไม่มีโอกาสอย่างคมสันต์หลุดออกมาจากความสิ้นไร้ไม้ตอกตรงนั้นได้ ผมได้คลิปนี้จากคุณภาวิทย์ CEO Grammy ที่ได้ยินแล้วอยากส่งให้ลูกตัวเองฟัง ผมเองก็เช่นกัน เพราะเราผู้ผ่านด่านชีวิตมาหลายรอบ เห็นผู้คนมามากมาย หลายครั้่งจุดต่างของคนที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน เริ่มต้นเหมือนๆ กัน นั่งติดๆ กัน มันอยู่ตรงหลังการตักน้ำมาแล้วทั้งวันจริงๆ
1
เรื่องราวของคุณสุทธิชัย หยุ่นที่เก่งภาษาอังกฤษจากการเอาวันหยุดเรียนไปอาสาพาฝรั่งทัวร์ที่หาดใหญ่ ไม่เอาค่าจ้างและขอได้หัดภาษาอังกฤษจนเก่ง ก็เป็นวิถีเดียวกับแจ๊ก หม่า อาสาพาฝรั่งเที่ยวที่หางโจวเพราะรู้ว่าภาษาจะพาตัวเองออกจากกับดักความยากจนได้ในสมัยนั้น ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนหนึ่งที่เก่งมากๆคนหนึ่งที่สอบชิงทุนไปต่างประเทศ เปลี่ยนชีวิตจากเด็กยากจนได้ก็เพราะใช้เวลาในรถเมล์ตอนไปเรียนนิด้า ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษให้ได้วันละหลายคำอยู่สองปี จนเก่งกว่าคนอื่น ทำคะแนนได้ดีกว่าคนอื่นในชั้นเดียวกัน
ซีอีโอเกษียณที่อเมริกาคนหนึ่งเคยเล่าถึงเทคนิคที่ทำให้เขาไต่เต้าจากระดับล่างสุดจนกลายเป็นซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีพนักงานสี่หมื่นคนได้ ก็ด้วยทุกครั้งที่ทำงานจบ เขาจะเดินไปถามนายว่า… นายครับ ผมทำงานเสร็จแล้ว มีอะไรให้ทำอีกมั้ย… ในขณะที่คนอื่นกลับบ้าน
สิ่งที่เขาได้คือนายเห็นว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ หลายครั้งก็ไม่มีอะไรให้ทำ บางทีก็มี นายก็รู้สึกดีกับเขา แถมเขาบอกว่างานที่นายให้ทำคืองานนาย เขาก็เลยได้เรียนงานที่ยากเกินระดับ พอได้โปรโมทก็ทำได้โดยง่าย และพอมีนายของนายมาถามว่ามีดาวรุ่งแถวนี้มั้ย เพราะมีงานพิเศษอยากให้ทำ ชื่อของเขาก็เป็นชื่อแรกเสมอ ในฐานะมือขวานาย
จอห์น อมาเอชี่ (John Amaechi) ผู้เป็นโค้ชผู้นำระดับโลกและนักจิตวิทยา เคยเป็นนักบาส NBA มาก่อน เขาบอกว่าช่วงเป็นนักบาสก็มีเวลาว่างอยู่ บนเครื่องบินเดินทางบ้าง ช่วงพักฟื้นบ้าง ก็เอาเวลานั้นไปเรียนจิตวิทยา ว่างก็อ่านหนังสือจนกลายเป็นอาชีพที่ดีกว่าเดิมเข้าไปอีกหลังอาชีพนักบาส เหมือนกับเรื่องราวของคมสัน
คุณจอห์นเล่าไว้ว่า เขาเรียนรู้จากตอนพยายามเป็นนักบาส nba ว่าคนเราชอบมองแต่ความสำเร็จ มองมูฟสวยๆ ชอตสามแต้มระดับคนยืนฮือฮา แต่ความเป็นจริงแล้ว นักบาสที่เก่งกว่าคนอื่นต้องใช้เวลาที่นักบาสคนอื่นไม่ทำ ซ้อมมูฟ ซ้อมเลี้่ยงแบบน่าเบื่อเป็นชั่วโมง จับบอล หมุนตัว ส่งลูกซ้ำๆ พอมัดรวมกันก็จะกลายเป็นทักษะที่เด่นกว่าคนอื่นได้
คุณจอห์นมี mindset ว่าคนเรามักจะทำแค่ 70% ก็หยุด แต่ถ้าเราผลักตัวเองอีกนิดจากสิ่งที่ต้องทำประจำมันจะพาเราไปไกลกว่าเดิมได้
ช่วงเวลาโควิดก็น่าสนใจ แทบทุกคนมีเวลาว่างเป็นปีเหมือนกัน บางคนจบโควิดแล้วอ้วนกว่าเดิม บางคนก็เหมือนเดิม ผมเองโชคดีเกิดจากหัดเขียนหนังสือในช่วงเวลาที่่ว่างนั้น ตั้งแต่ยังเขียนไม่คล่อง ว่างก็เป็นเขียน เขียนมันตั้งแต่บทความในเพจ เขียนข่าวพีอาร์ ข่าวประกาศโควิดภายในที่ทำงานตัวเอง เขียนสาส์นซีอีโอ เขียนชี้แจง ขอโทษลูกค้า อาสาเขียนมันหมดเท่าที่จะมีคนขอให้ช่วยเขียน
ทำวันละนิดตอนว่าง พอรวมๆกันวันละหน่อย ออกจากโควิดก็เลยกลายเป็นอาวุธใหม่ กลายเป็นทักษะประจำตัวที่คนคล้ายผมไม่มี กลายเป็นจุดเด่นที่ทำมาหากินได้เยอะอยู่ในช่วงที่ผ่านมา
ที่ทั้งผมและคุณภาวิทย์อยากส่งให้ลูกฟังคมสันต์กันก็คงเป็นตามประสาพ่อที่อยากให้เขาผลักตัวเองอีกนิดในวัยที่ยังเพิ่งเริ่มต้น ว่างก็สะสมพลังงาน สะสมทักษะที่ดีทีละหน่อย เมื่อเทียบกับการปล่อยตัวไหลไปตามอัลกอริทึ่มของติ๊กต่อก ยูทู้ป เน็ตฟลิกซ์ เพราะความต่างวันละนิดนั้นนอกจากจะนำมาซึ่งทักษะที่อาจจะทำให้เขามีจุดเด่นกว่าคนใกล้กันแล้ว
ความเข้าใจเรื่องวินัย และนิสัยของความสม่ำเสมอที่พอทำไประยะหนึ่งแล้ว จะกลายเป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่ใช้กับแทบจะทุกเรื่องในชีวิตได้
มนุษย์พ่อก็เป็นแบบนี้แหละครับ…
7 บันทึก
22
7
7
22
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย