2 ธ.ค. เวลา 03:00 • ไลฟ์สไตล์

สร้างระบบอัตโนมัติเพื่อเป็นเศรษฐีเงินล้าน

เดวิท บาค เล่าเรื่องราวสมัยที่เขายังเป็นหนุ่มที่ปรึกษาทางการเงินไฟแรง มีรายได้สูง แต่เงินเก็บในบัญชีกลับมีเพียงน้อยนิด จนวันหนึ่งที่เขาได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องการวางแผนการเงินและการลงทุน หลังจากนั้นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งดูเผินๆเป็นเพียงพนักงานธรรมดาๆ เงินเดือนกลางๆ ได้เข้ามาขอคำปรึกษาเรื่องการเกษียณ
เดวิทคิดไว้ล่วงหน้าว่าคงไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะทั้งคู่ดูไม่น่าจะมีสมบัติทรัพย์สินอะไรมากนัก แต่เมื่อเปิดงบการเงินดู เขากลับแทบไม่เชื่อสายตา สามีภรรยาคู่นี้มีเงินเก็บและทรัพย์สินรวมกันเกือบ 2 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่รายได้ก็ไม่ได้สูงไปกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป และไม่ได้รับมรดกใดๆ นั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เดวิทถามหาความลับของพวกเขา
และคำตอบที่ได้รับนั้นก็เรียบง่ายจนแทบไม่น่าเชื่อ
เก็บก่อนใช้ และทำให้เป็นอัตโนมัติ
คู่สามีภรรยานี้ไม่ได้อาศัยโชค หรือเลือกหุ้นเด่นๆ แต่พวกเขามีวินัยใน"การจ่ายให้ตัวเองก่อน" โดยหักเงินออมทันทีที่ได้เงินเดือนเข้าบัญชี แล้วจึงใช้เงินที่เหลือจากการออมเพื่อการใช้จ่าย นอกจากนี้ยังทำทุกอย่างให้เป็นระบบอัตโนมัติ โดยตั้งตัดโอนเงินเข้าลงทุนกองทุนเพื่อการเกษียณ แผน401(k) ไว้แบบอัตโนมัติเลยเพื่อรักษาวินัยในการลงทุน
ส่วนหนึ่งของหลักการประหยัดยังยึดโยงกับสิ่งที่เดวิท เรียกว่า "The Latte Factor" หรือ แฟกเตอร์กาแฟลาเต้ หมายถึงค่าใช้จ่ายเล็กๆ ที่ดูไม่มาก เช่น ค่ากาแฟวันละแก้ว เพียง 70 บาท/วัน หากถ้าประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ จะสะสมได้ถึงปีล่ะ 25,000 บาท ซึ่งถ้านำไปลงทุนให้ผลตอบแทนทบต้นจะกลายเป็นเงินหลักล้านได้ภายในเวลาสิบปี มันจึงไม่ใช่เรื่องของการหาเงินเพิ่ม แต่คือการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายเล็กๆ ที่ไม่จำเป็นให้กลายเป็นเงินลงทุนแทน
#การประยุกต์ในบริบทแบบไทยๆ
แนวคิดนี้ปรับใช้ได้ง่ายในประเทศไทย เพราะเรามีระบบหักเงินและลงทุนอัตโนมัติหลายทางเลือก เช่น
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ( PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือ แม้แต่การตั้งหักบัญชีอัตโนมัติที่แทบทุกธนาคารมีบริการหักบัญชีเพื่อฝากประจำหรือลงทุนกองทุนรวมทุกๆเดือนแบบ DCA ทั้งหมดนี้ช่วย “ล็อกวินัย” ให้ออมก่อนใช้ โดยไม่ต้องใช้ความตั้งใจในการทำซ้ำใหม่ในทุกๆเดือน
# DCA: วิธีลงทุนที่สอดคล้องกับระบบอัตโนมัติ
การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) คือการลงทุนเป็นงวดๆ เท่ากันทุกเดือนโดยไม่สนใจว่าตลาดขึ้นหรือลง วิธีนี้ช่วยเฉลี่ยต้นทุนให้อยู่ในระดับสมเหตุสมผล ลดความเสี่ยงจากการซื้อแพงในจังหวะเดียว และยังทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลกับการ “จับจังหวะตลาด” ที่มักนำไปสู่ความผิดพลาด
สิ่งสำคัญคือการเลือกสินทรัพย์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายและระยะเวลา:
  • 1.
    ​อายุยังน้อย / ลงทุนระยะยาว → เลือกสินทรัพย์ที่เน้นการเติบโต เช่นหุ้น, กองทุนหุ้น, กองทุนผสม
  • 2.
    ​ใกล้เกษียณ / ต้องการความมั่นคง → เลือกสินทรัพย์ที่เน้นรักษาเงินต้น เช่น พันธบัตร, ตราสารหนี้, กองทุนตลาดเงิน
  • 3.
    ​รักษาสมดุลระหว่างเสี่ยงและปลอดภัย → เลือกแผนการลงทุนที่ปรับสัดส่วนอัตโนมัติตามช่วงอายุ
บทเรียนจาก The Automatic Millionaire คือ ความมั่งคั่งไม่ได้เกิดจากรายได้สูงหรือการเลือกหุ้นแม่นยำ แต่จากวินัยเล็กๆ ที่ทำซ้ำทุกเดือน “เก็บก่อนใช้ และทำให้เป็นอัตโนมัติ” พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายเล็กๆ ที่ไม่จำเป็น (Latte Factor) แล้วนำไปลงทุนแบบ DCA ในสินทรัพย์ที่เหมาะสม เพียงเท่านี้เส้นทางสู่การเป็นเศรษฐีเงินล้านก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
โฆษณา