24 ก.ย. เวลา 12:30 • ข่าวรอบโลก

ไต้ฝุ่น "รากาซา" ขึ้นฝั่งจีนตอนใต้ ยอดตายไต้หวันเพิ่มเป็น 15 ศพ

ไต้ฝุ่น "รากาซา" ได้ขึ้นฝั่งเกาะไห่หลิง ใกล้เมืองหยางเจียง ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ โดยมีความเร็วลมสูงสุดที่พัดขึ้นฝั่งใกล้ศูนย์กลางราว 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่สำนักงานควบคุมและบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งแห่งรัฐของจีน เปิดเผยว่ามีประชาชนมากกว่า 1.89 ล้านคนในมณฑลกวางตุ้งที่ถูกอพยพเพื่อความปลอดภัย
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงระบุว่า พายุรากาซาได้อ่อนกำลังลงจากระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น เป็นพายุไต้ฝุ่นรุนแรงแล้ว แต่ยังคงมีอันตรายจากลมกระโชกแรงถึงลมพายุที่รุนแรง ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของฮ่องกง โดยพบผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 62 คน
ส่วนที่ไต้หวัน สำนักงานดับเพลิงรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 15 รายในเมืองฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวัน และมีผู้สูญหายอีก 17 ราย หลังจากที่ระดับน้ำในทะเลสาบสันดอนหม่าไท่อัน บนภูเขาล้นแนวกั้นและเข้าท่วมเมืองในช่วงที่พายุไต้ฝุ่นรากาซา พัดผ่าน ส่งมวลน้ำปริมาณมหาศาลเข้าท่วมเมืองกวงฟู่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายทั้งหมดอยู่ในเมืองกวงฟู่ ซึ่งกระแสน้ำได้พัดสะพานข้ามแม่น้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งพังทลายลง
ข้อมูลของรัฐบาลไต้หวันระบุว่า ประชาชนประมาณ 5,200 คน หรือประมาณ 60% ของประชากรเมืองกวงฟู่ ได้ขึ้นไปหลบภัยที่ชั้นสูงของบ้านเรือนของตนเอง ขณะที่ส่วนใหญ่ที่เหลือได้ออกไปพักอยู่กับครอบครัว รัฐบาลประเมินว่าทะเลสาบสันดอนกั้นดังกล่าวมีปริมาณน้ำ 15.4 ล้านตัน ซึ่งสามารถเติมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกได้ประมาณ 36,000 สระ นักธรณีวิทยาบางคนบรรยายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น "คลื่นสึนามิจากภูเขา"
ทะเลสาบสันดอนหม่าไท่อัน เกิดขึ้นหลังจากเกิดดินถล่มครั้งใหญ่จากพายุไต้ฝุ่นวิภาในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดได้เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบาก
แม้ว่าระดับน้ำท่วมในเมืองจะลดลงแล้ว แต่ยังคงมีโคลนหนาและเศษซากจำนวนมากหลงเหลืออยู่ และทีมค้นหายังคงลงพื้นที่ค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ภัยพิบัติครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางทั่วไต้หวัน โดยหลายคนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวเมืองฮวาเหลียน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เต็มไปด้วยข้อความสนับสนุน การบริจาค และการเรียกร้องให้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคมากขึ้น.
ที่มา BBC
โฆษณา