Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทันโลกกับ Trader KP
•
ติดตาม
25 ก.ย. เวลา 08:00 • ไลฟ์สไตล์
📌ราคาของ 'หน้าตา' ใบแจ้งหนี้ที่เราทำเป็นมองไม่เห็น
ท่ามกลางเศรษฐกิจในประเทศที่ถดถอย ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เคยติดอยู่กับดักของภาพลักษณ์ กำลังเริ่มทบทวนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง โดยลดทอนความฟุ่มเฟือยลงเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนอีกจำนวนมากยังคงดำเนินชีวิตภายใต้อิทธิพลของค่านิยมดั้งเดิม ที่สถานะทางสังคมยังคงถูกผูกมัดไว้กับคำว่า "เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" อยู่
ค่านิยมนี้ไม่ใช่เพียงสุภาษิต แต่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่สร้างระบบเศรษฐกิจขนาดมหึมา และในขณะเดียวกัน ก็เป็นต้นเหตุของภาระหนี้สินที่น่ากังวล เราจะมาวิเคราะห์ ‘ต้นทุน’ ที่แท้จริงของการมีหน้า มีตา ในสังคม และลองคำนวณกันว่าหากเราลดทอนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลง เราจะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นได้มากน้อยเพียงใด
----------
🟢 ถ้า 'ยอมเสียหน้า' บ้างจะเป็นอย่างไร?
เรามาลองพิจารณาโดยลองตั้งสมมุติฐานว่าพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่มีรายได้ 45,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งไปกับค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาภาพลักษณ์ทางสังคม ว่าในแต่ละเดือนเขาต้องใช้จ่ายเท่าไรบ้าง
🚩 อาหารมื้อพิเศษและคาเฟ่ (เพื่อสร้างคอนเทนต์) - 6,000 บาท / เดือน
🚩 ช้อปปิ้งสินค้าตามกระแส (เสื้อผ้า / แกดเจ็ต) - 5,000 บาท / เดือน
🚩 กิจกรรมสังสรรค์ (เพื่อรักษาคอนเนคชัน) - 4,000 บาท / เดือน
🚩 บริการเสริมความงาม (ทำผม /ทำเล็บ) - 2,500 บาท / เดือน
รวมค่าใช้จ่ายเพื่อให้มีภาพลักษณ์โดยประมาณ 17,500 บาท / เดือน
(หมายเหตุ : ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงการประมาณการเพื่อสร้างแบบจำลองให้เห็นภาพ ไม่ได้อ้างอิงจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ)
เมื่อลองประมาณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ พบว่าเกือบ 40% ของรายได้ถูกใช้ไปกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?
----------
🟢 สถานการณ์ที่ 1 ลองลดค่าใช้จ่ายลง 50%
หากตัดสินใจลดค่าใช้จ่ายในกลุ่มนี้ลงครึ่งหนึ่งอย่างมีวินัย ผลลัพธ์ที่ได้คือ สามารถประหยัดเงินได้ 8,750 บาท / เดือน หรือคิดเป็นต่อปีประมาณ 105,000 บาท
เงินจำนวนนี้เทียบเท่ากับการมีเงินทุนสำหรับเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวม หรือเป็นเงินดาวน์สำหรับสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ได้เลย
----------
🟢 สถานการณ์ที่ 2 ปรับเปลี่ยนสู่การใช้จ่ายในแบบ Smart Spending
วิธีนี้แทนที่จะตัดออกทั้งหมด แต่เลือกเปลี่ยนวิธีการใช้จ่ายโดยไม่ต้องหักดิบ
🚩 อาหารมื้อพิเศษ : ลดเหลือ 2 ครั้ง และเปลี่ยนเป็นจัดกิจกรรมที่บ้านกับเพื่อน 2 ครั้ง จะประหยัดได้ประมาณ 3,000 บาท
🚩 การช้อปปิ้ง : ลองเปลี่ยนจากการซื้อของตามกระแส เป็นการลงทุนในสินค้าแบรนด์เนมมือสองคุณภาพดีทุก ๆ 2-3 เดือน จะประหยัดได้เฉลี่ย 2,500 บาท / เดือน
🚩 เข้าคาเฟ่ : ลแงลดความถี่ลงครึ่งหนึ่ง และลงทุนกับอุปกรณ์ชงกาแฟดี ๆ ไว้ที่ทำงาน จะช่วยประหยัดได้ประมาณ 1,000 บาท / เดือน
รวมเงินที่ประหยัดได้จากการปรับเปลี่ยน 6,500 บาท / เดือน คิดเป็นต่อปีประมาณ 78,000 บาท
เงินจำนวนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน หรือนำไปลงคอร์สเรียนเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคต
----------
🟢 จากปัญหาส่วนบุคคล สู่ความเปราะบางระดับประเทศ
เมื่อพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นในวงกว้าง ผลกระทบจึงขยายไปสู่ระดับมหภาค ปัจจุบันสัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยเคยสูงถึงระดับ 91% ของ GDP และที่น่ากังวลคือ 2 ใน 3 ของบัญชีหนี้ทั้งหมดเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ Non-productive Loan เช่น บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามหรืออินโดนีเซีย ซึ่งมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนเพียง 35-36% ของ GDP จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมี ‘ส่วนต่างหนี้ทางวัฒนธรรม’ หรือ Cultural Debt Premium ที่ต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่าอย่างชัดเจน
การเปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช่การละทิ้งการเข้าสังคม แต่คือการปรับเปลี่ยนมุมมองและนิยามของการ ‘มีหน้ามีตา’ ในสังคมเสียใหม่ โดยให้คุณค่ากับความมั่นคงทางการเงิน และสร้างความภาคภูมิใจจากสินทรัพย์ที่งอกเงย แทนที่จะเป็นภาพลักษณ์ที่ได้มาจากการก่อหนี้
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‘หน้าตา’ ที่แท้จริงและยั่งยืนที่สุด คือการมีอิสรภาพทางการเงินที่ปราศจากความกังวลเมื่อใบแจ้งหนี้มาถึง คุณเห็นด้วยหรือไม่?
#FollowTheMoney #หนี้ครัวเรือน #การเงิน #ออมเงิน #วางแผนการเงิน #อิสรภาพทางการเงิน
1 บันทึก
4
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย