25 ก.ย. เวลา 16:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 8 กันยายน เกิดเหมืองถล่มใน Grasberg Block Cave ในอินโดนีเซีย

จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน มีวัสดุเปียกปริมาณประมาณ 800,000 เมตริกตันไหลทะลักเข้าสู่เหมืองอย่างกะทันหัน และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านหลายระดับ รวมถึงชั้นที่มีคนงานกำลังทำงานอยู่ และยังมีผู้สูญหายอีก 5 คน
ลองนึกภาพ Grasberg เป็นเสมือนเมืองใต้ดินขนาดใหญ่ มีพนักงาน 28,000 คน มีอุโมงค์ยาว 250 กิโลเมตร ครอบคลุมหลายสิบชั้น ในแต่ละปีมีอุโมงค์ใหม่เพิ่มขึ้น 35-40 กิโลเมตร ซึ่งมีความยาวใกล้เคียงกับอุโมงค์ Gotthard Base Tunnel ในสวิตเซอร์แลนด์ (57 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในโลก ใจกลางของ Grasberg คือถ้ำ Grasberg Block Cave (GBC) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของปริมาณสำรองและผลผลิตของบริษัท PT Freeport Indonesia เลยทีเดียว
เหมืองแห่งนี้ใช้กระบวนการขุดที่เรียกว่า Block Cave เป็นวิธีการทำเหมืองใต้ดินแบบหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อให้หินแร่พังทลายลงมาเองโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงและการแตกตัวตามธรรมชาติของหิน
1
หลักการของ Block Cave
- ช่างเหมืองจะขุด "undercut" ใต้ชั้นสินแร่ (เหมือนการเจาะฐานรากใต้ตึก)
- จากนั้นหินด้านบนที่เต็มไปด้วยสินแร่จะค่อยๆ พังทลายลงมาตามแรงโน้มถ่วง
- คนงานก็จะขนหินที่ตกลงมาออกไปบดและแยกแร่ตามปกติ
- มันเหมือนกับการทำให้ภูเขา “ถล่มตัวเองลงมาเป็นก้อนๆ” เพื่อสะดวกต่อการขนออก
มันทำให้การขุดทำได้ง่าย ต้นทุนต่ำ เปลืองระเบิดค่อนข้างน้อย แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เว้นก็แต่ถ้าปริมาณของสินแร่มันต่ำ จึงต้องขุดดิน/หินจำนวนมากๆ
แต่ปัญหาคือมันไม่เหมาะกับที่ที่มีฝนมากๆ เพราะถ้าทำ block caving ในที่ฝนชุกแล้วไม่เตรียมระบบจัดการน้ำที่ดี ก็เหมือนขุดบ้านใต้สระว่ายน้ำแล้วหวังว่าฝาผนังมันจะไม่รั่ว/พังลงมาเอง
ทั้งนี้ การผลิตที่ Grasberg ซึ่งเป็นเหมืองทองแดงที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ถูกระงับหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อวานนี้ หุ้นของ Freeport ร่วงลงถึง 10.4% ในนิวยอร์ก ขณะที่คู่แข่งอย่าง Glencore PLC (+3%), Teck Resources (+5%) และ Antofagasta (+7.4%) ต่างก็พุ่งสูงขึ้น ท่ามกลางราคาทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังข่าวออก
แต่วันนี้ราคาทองแดงได้ปรับตัวกลับลงมาแล้วนิดหน่อย หลังจากตลาดคลายความกังวลลง
โฆษณา