พื้นผิวโลกดูโปร่งใส มีบางครั้งที่ฉันเห็น รอยคลื่นพลังงานของสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่เกิดขึ้น สะท้อนเป็นลวดลายสลับซ้อนคล้ายแสงริบหรี่ นักสำรวจเรียกสิ่งนี้ว่า “echoes of emergence” ร่องรอยการเกิดขึ้นของสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
บทเรียนของ First World ชัดเจนและลึกซึ้ง: การเกิดของชีวิตเริ่มต้นจากการเรียนรู้ มนุษย์ยังไม่รู้จักตัวเอง ต้องเรียนรู้ที่จะเคารพพลังงานรอบตัว รู้จักความสัมพันธ์ระหว่างตนกับสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะมีพลังในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงโลก
บทเรียนของ Second World ชัดเจน: การอยู่ร่วมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เพียงการนมัสการหรือเคารพอย่างเดียว แต่เป็นการ เข้าใจบทบาทของตัวเองในจักรวาล การรู้จักตัวเองในระบบสั่นสะเทือนหลายชั้นของชีวิตและพลังงาน
บันทึกของฉันต่อ Second World ไม่เพียงด้วยสายตา แต่ด้วย การสัมผัสพลังงานและ pattern ของจักรวาล ทุกสิ่งสอนให้รู้ว่า การอยู่รอดและเติบโตต้องมีความเข้าใจลึกซึ้งใน ความสัมพันธ์และสมดุล ของโลก
.
3. Third World – โลกแห่งบททดสอบ
บันทึกเมื่อก้าวเข้าสู่ Third World และพบว่าโลกนี้เต็มไปด้วย ความซับซ้อนที่เข้มข้น ภูเขาสูงชัน แม่น้ำไหลเชี่ยว ป่าเขียวชอุ่ม และสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือน เกิดจากพลังจักรวาลบริสุทธิ์และแปลกประหลาด
สำหรับฉัน การยืนอยู่ใกล้ Mt. Taylor คือการ สังเกตจังหวะชีพจรจักรวาลในเชิงปฏิบัติ ทุกเสียงลม น้ำไหล และแรงสั่นสะเทือนในดินราวกับ บทสอนที่เชื่อมมนุษย์กับพลังการรักษาและสมดุลของชีวิต
.
3.ตะวันตก: San Francisco Peaks / สีเหลือง/หอยมุก : เสาหลักแห่งการปกป้องและความอุดมสมบูรณ์
ฉันยืนอยู่ใต้ San Francisco Peaks ทางทิศตะวันตก ภูเขานี้เปล่ง คลื่นพลังงานสีเหลืองหอยมุก ออกมาเป็นลวดลายเหมือน เส้นใยแสงแผ่กระจายจากยอดเขา ทุกการสั่นสะเทือนของลมและเสียงธรรมชาติรอบตัวเหมือนถูก ซิงโครไนซ์กับพลังของภูเขา
ความหมายเชิงสัญลักษณ์: San Francisco Peaks แทน การปกป้องและความอุดมสมบูรณ์ พลังงานจากยอดเขาเสริมสร้างความมั่นคงของชุมชน และทำให้ระบบนิเวศและการเกษตรสอดคล้องกับจักรวาล
สำหรับฉัน การอยู่ใกล้ San Francisco Peaks คือการ สัมผัสความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนและจักรวาล รู้สึกว่าชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลของ พลังสมดุลจักรวาลที่ภูเขานี้ส่งต่อให้ทุกชีวิตรอบตัว