26 ก.ย. เวลา 04:40 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Oslo | 9.5/10

โพสต์ก่อนพูดถึง The Oslo Accords ทำให้นึกได้ว่ามีหนังเรื่องหนึ่งเล่าเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือเรื่อง Oslo สำหรับคอหนังการเมือง ขอแนะนำ)
อ้างถึง…
หลังจากยิวหกล้านคนถูกนาซีฆ่าตาย ชาติตะวันตกที่ชนะสงครามก็หาที่อยู่ให้ชาวยิว
ก็คือแผ่นดินปาเลสไตน์
ตั้งแต่วันแรกที่อพยพไปอยู่ที่นั่นจนวันนี้ ยิวรบกับเพื่อนบ้านมาตลอด ศัตรูคู่แค้นสำคัญเจ้าหนึ่งคือชาวปาเลสไตน์ ซึ่งต่อมารวมกลุ่มเป็นองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Palestine Liberation Organization - PLO)
ทั้งสองฝ่ายก็เหมือนตระกูล Capulet กับ Montague ในเรื่อง Romeo and Juliet ของเชกสเปียร์
1
เจอหน้ากันก็ต้องฆ่ากัน ปลูกฝังความเกลียดจากรุ่นสู่รุ่น
จนกระทั่งโอกาสที่ประหลาดเกิดขึ้นในปี 1993 เจ้าหน้าที่ทูตกระทรวงการต่างประเทศของนอร์เวย์คนหนึ่งชื่อ Mona Juul กับ Terje Rød-Larsen สามี มองเห็นแสงสว่างริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์ ทั้งสองหาทางโน้มน้าวใจเบื้องบน ให้อนุมัติโครงการประหลาดที่ยากกว่า Mission Impossible นั่นคือชวนยิวและ PLO มาคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ โดยไปคุยกันในบ้านพักแห่งหนึ่ง ไกลจากตัวเมือง
เวลานั้นทั้งอิสราเอลและ PLO ลงโทษเจ้าหน้าที่ซึ่งไปคุยกับอีกฝ่ายอย่างหนัก ถือว่าเป็นคนทรยศ
ผลของการคุยกันคือการทะเลาะกัน แต่มันก็เป็นจุดกำเนิดของ 'มิตรภาพ' แสนประหลาดระหว่างศัตรูคู่อาฆาต และนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่โลกตะลึง
นี่ก็คือสาระของหนังเรื่องนี้
Oslo
Oslo เป็นชื่อเมืองหลวงนอร์เวย์ ฉากของหนังเรื่องนี้ การคุยกันครั้งนี้จึงเรียกว่า The Oslo Process เป็นผลให้เกิด The Oslo Accords
นี่เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ท่อนหนึ่ง หากพิจารณาจากองค์ประกอบหนังแล้ว มันมีโอกาสเป็นหนังน่าเบื่อถึง 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ตรงกันข้าม ผู้สร้างสามารถจับกุมเรา (ในที่นี้คือผม) อยู่ตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย
หนังสนุกกว่าที่คิด ทั้งที่ทั้งเรื่องมีแต่บทคุยและฉากไม่กี่ฉาก
ถือว่าเก่งมากที่ทำได้ขนาดนี้ (คะแนนสำนักอื่นๆ ค่อนข้างต่ำ แสดงว่ารสนิยมการดูหนังของเราต่างกันมาก)
9.5/10
ฉายทาง HBO Max
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
โฆษณา