ที่ปรึกษาปูตินออกสื่อเตือนผู้นำรัสเซีย เร่งใช้นิวเคลียร์ถล่มอังกฤษเพื่อยุติสงครามในยุโรป
วอนเรียก World War 3 กันเสียจริง เมื่อ เซอร์เก คารากานอฟ นักวิทยาศาสตร์การเมืองชื่อดัง ที่ปรึกษาใกล้ชิดคนหนึ่งของวลาดิมีร์ ปูติน ได้ไปออกสื่อรายการโทรทัศน์ของรัสเซีย และแสดงความเห็นว่า หากต้องการยุติสงครามความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐ-รัสเซีย การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ไปยังเมืองสำคัญสัก 2 เมืองในอังกฤษ เป็นยุทธวิธีเดียวที่จะยุติสงครามได้
เซอร์เก คารากานอฟ ศาสตราจารย์วัย 73 ปี ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภานโยบายด้านการต่างประเทศและการป้องกันประเทศ พ่วงตำแหน่งคณบดี คณะรัฐศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐศาสตร์โลกของสถาบัน Moscow's Higher School of Economics
และยังสวมหมวกเป็นที่ปรึกษาพิเศษให้กับประธานาธิบดีรัสเซียมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัย บอริส เยลซิน มาจนถึงวลาดิมีร์ ปูติน เป็นนักวิชาการผู้หนึ่งที่เชื่อในแนวทางการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่เผด็จศึกสงคราม จนได้รับฉายาว่าเป็น "ศาสตราจารย์แห่งวันสิ้นโลก"
และเมื่อไม่นานมานี้ เซอร์เก คารากานอฟ ก็ได้ไปออกรายการโทรทัศน์ ช่องสื่อของรัฐบาลรัสเซีย โดยศาสตราจารย์แห่งวันสิ้นโลก กล่าวว่า เขาจะถือว่า วลาดิมีร์ ปูติน ได้กระทำบาปอันน่าสะพรึงกลัวต่อรัสเซีย หากเขาไม่ยอมใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยุโรป
และถึงเวลาแล้วที่ควรคิดแผนการที่จะทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงในเมืองเป้าหมายสัก 2 แห่งในอังกฤษ โดยชี้ว่าระเบิดนิวเคลียร์จะเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์เพียงวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงสงครามกับสหรัฐได้
คำชี้แนะนี้ ได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้นิยมปูติน ที่ต้องการให้ผู้นำรัสเซียเพิ่มแรงกดดันในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อยุติสงครามในยูเครน และการเผชิญหน้ากับกลุ่มประเทศ NATO
หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เริ่มเปลี่ยนท่าทีต่อรัสเซีย และเห็นว่ายูเครมสามารถตีคืนดินแดนทั้งหมดที่ถูกยึดครองโดยรัสเซียตามพรมแดนที่เคยมีมาก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครน แถมมีห้อยท้ายเพิ่มว่า "หรืออาจจะยึดคืนมามากกว่านั้นก็ได้"
ศาสตราจารย์ คารากานอฟ ย้ำว่า อย่าไปเชื่อความเห็นหรูๆ ที่ว่าสงครามนิวเคลียร์จะไม่มีวันชนะ แล้วเราก็จะต้องตกอยู่ในวังวนของสงครามที่ยืดเยื้อ และบานปลาย กับพวกชาติยุโรปที่ยังคงมั่งคั่ง นั่นเป็นสิ่งต้องห้ามของพระเจ้า และคนของเราก็มีแต่จะเหนื่อยล้าในขณะนี่สงครามก็จะแพร่กระจายไม่ต่างจากโรคระบาดสู่มนุษยชาติ
เราต้องกำจัดการแพร่ระบาดในยุโรปนี้ให้หมดสิ้นไป และต้องพร้อมเสมอที่จะโจมตี อาจจะไม่จำเป็นต้องโจมตีด้วยนิวเคลียร์จริงๆก็ได้ แต่ต้องทำให้พวกเขารู้ว่าเราพร้อมยิงแน่
ด้าน วลาดิมีร์ โซโลฟยอฟ พิธีกร ก็สนับสนุนการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ก็ได้เสนอว่า 2 เมืองในอังกฤษที่ควรถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ คือ อ็อกซฟอร์ด และ เคมบริดจ์ เพื่อทำลายกลุ่มชนชั้นสูง และ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของชาวอังกฤษ
หลังจากที่รายการได้ออกอากาศไป สื่ออังกฤษเริ่มวิเคราะห์ถึงความเสียหายของเมืองอ็อกซฟอร์ด และ เคมบริดจ์ หากถูกรัสเซียยิงถล่มด้วยนิวเคลียร์ขึ้นมาจริงๆ
โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ NuclearSecrecy.com ที่เผยให้เห็นว่า ระเบิดนิวเคลียร์จะสร้างความหายนะให้กับเมืองดังกล่าวในรัศมีอย่างน้อย 2.9 กิโลเมตร และวิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จะถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง
และด้วยศักยภาพของขีปนาวุธรัสเซีย จะใช้เวลาเพียง 15 - 20 นาที ที่หัวรบนิวเคลียร์จะลงถึงเป้าหมายในพรมแดนอังกฤษ และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตราว 1 ล้านคน หลังจากการโจมตีเพียง 2 ชั่วโมง
แต่หากรัสเซียตัดสินใจยิงโจมตีที่ใจกลางกรุงลอนดอนเลย ความสูญเสียจะเพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 50 ล้านคน และผลจากสารกัมมันตรังสีตกค้างก็จะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ และระบบนิเวศน์ในสิ่งแวดล้อม ที่ไม่อาจประเมินได้อีก
ดูแล้วไม่น่าจะเชื่อว่านี่จะไม่ใช่จุดจบของสงคราม และการเผชิญหน้าของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างที่ท่านศาสตราจารย์ว่าไว้ได้เลย น่าจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหาสงครามโลกครั้งที่ 3 เสียมากกว่า ที่เกิดแต่กับยุโรป และ เจ๊งที่ยุโรป ไม่ต่างจากมหาสงครามครั้งก่อน แต่หลอนกว่าเดิม คือเป็นสงครามนิวเคลียร์เสียด้วย เป็นแนวคิดที่สมฉายา "ศาสตราจารย์แห่งวันสิ้นโลก" จริงๆ
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
