27 ก.ย. เวลา 14:35 • นิยาย เรื่องสั้น

เกมส์มรดก ตอน1 เงาของพ่อ

จุดเริ่มต้นของเกม
"สวัสดีครับ ผมทนายธรรศกร ภาดากร เป็นทนายน้องใหม่ไฟแรงของ สำนักงานกฎหมายชูศักดิ์อินเตอร์ลอว์... แน่นอนครับ ทนายชูศักดิ์ คือพ่อของผมเอง"
น้ำเสียงของผมอาจฟังดูมั่นใจ แต่มันคือการประกาศก้องถึงมรดกที่ทั้งภาคภูมิใจและหนักอึ้ง พ่อของผม—ทนายชูศักดิ์—ไม่ได้ทิ้งเพียงชื่อเสียงและสำนักงานกฎหมายเก่าแก่ไว้ให้ แต่ยังทิ้ง หุ้นส่วน ผู้ทรงอิทธิพลไว้ด้วยครึ่งหนึ่ง หุ้นส่วนที่ผมเรียกว่า คุณอา ท่านเป็นเศรษฐีใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และโภคภัณฑ์ นั่นทำให้ผมไม่ได้เป็นเพียงทายาท แต่เป็นผู้ที่ต้องร่วมเต้นรำกับเสือในกรงเดียวกัน นี่แหละคือจุดเริ่มต้น... ของทุกสิ่ง
ผมพยายามโน้มน้าวให้คุณอาขายหุ้นมานานเท่าที่ผมจะนับได้ เพราะผมต้องการบริหารสำนักงานนี้คนเดียวอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัว แต่เพราะผมไม่อยากให้ตระกูลภาดากรต้องแปดเปื้อน ลูกชายคนเล็กของคุณอาคือตัวปัญหา เขาพัวพันกับคดีสีเทาที่พร้อมจะกัดกินภาพลักษณ์ของ "ชูศักดิ์อินเตอร์ลอว์" ให้พังทลาย และที่น่าเจ็บใจกว่าคือ—คดีนั้นถูกโยนมาให้ผมรับผิดชอบ! ผมจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อ ปลดพันธนาการ นี้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
ความยุติธรรมในมือทนาย
คนส่วนใหญ่มักถามว่าความยุติธรรมคืออะไร? มันคือสิ่งที่คุณมองเห็นภายใต้ตัวบทกฎหมายของไทย ซึ่งเป็น Civil Law ที่ผสมผสานกับ Common Law จนนักกฎหมายต้องงมหาช่องโหว่ในทุกฎีกาและทุกมาตรา สำหรับผมแล้ว ความยุติธรรมไม่ใช่สูตรตายตัว
ถ้าเป็น คดีอาญา การลากคนผิดมารับโทษตามกฎหมายคือความยุติธรรม แต่กับ คดีแพ่ง บางเรื่อง การพาคู่ความทั้งสองฝ่ายมานั่งลงต่อรองและประนีประนอมยอมความได้ต่างหากคือความยุติธรรมที่แท้จริง มันคือการหาจุดร่วมที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถก้าวเดินต่อไปได้โดยไม่เสียเวลาและพลังงานไปกับการต่อสู้ในศาล ลูกความแฮปปี้ ทนายก็แฮปปี้ และผมก็ได้เงิน... แค่นั้นแหละ
คำขอจากผู้คุมเกม
การประชุมคดีประจำวันเพิ่งสิ้นสุดลง ความเคร่งเครียดถูกแทนที่ด้วยความมึนงงเล็กน้อย แต่แล้วประตูก็เปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของ คุณอำนวย ประธานใหญ่ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บงการของสำนักงานนี้ ท่านเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ดูเป็นกันเองจนน่าขนลุก
“เป็นไงวันนี้คดียุ้งเลยสิ หลานอา” คุณอำนวยทักทาย
ผมหันไปเผชิญหน้ากับท่านทันที “แรกๆ ผมก็ไม่เหนื่อยหรอกครับ แต่พอคุณอามา ผมรู้สึกเหนื่อยทันทีเลย กลัวคุณอาจะหางานมาให้ผมเพิ่มน่ะสิ” ผมตอบกลับไปอย่างไม่เกรงใจ
คุณอำนวยหัวเราะในลำคอ พร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆ ราวกับผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก “ไม่เอาหน่าา หลานอาจะกระแทกแดกดันอาไปถึงเมื่อไหร่”
“จนกว่าคุณอาจะยอมขายหุ้นให้ผม ผมพูดจริงนะครับอา ผมสามารถดูแลสำนักงานกฎหมายแทนพ่อของผมได้แล้ว” ผมย้ำจุดยืนของตัวเองอย่างหนักแน่น
สีหน้าของคุณอำนวยแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “เธอมัน หัวดื้อ เหมือนพ่อเธอไม่มีผิด โลกธุรกิจมันไม่ง่าย แล้วลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่ก็มาจากธุรกิจของอา ถ้าอาขายหุ้น มันก็เท่ากับอาล้มเลิกความฝันที่สร้างมากับพ่อเธอเลยนะ เอาหน่า เจ้าทัศ แกคือหลานอา ยังไงอาไม่ทิ้งแกไว้หรอก” ท่านพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว พร้อมหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมา “อามีเรื่องอยากให้เจ้าทัศช่วยหน่อย”
ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูทันที หน้าจอแสดงภาพกราฟิกธุรกิจใหม่ของท่าน
“พรุ่งนี้จะมีการไลฟ์สดธุรกิจใหม่ของอา แกก็รู้ใช่ไหมเจ้าทัศว่าอามีข่าวลืออะไร อาอยากให้เธอใช้ทีมทนายสอดส่องไลฟ์ ถ้ามีใครคอมเมนต์ซี้ซั้วที่พอจะเข้าข้อกฎหมาย หมิ่นประมาท ได้ แคปเตรียมฟ้องพวกมันทันที แล้วกดรีพอร์ตให้หมดเลยนะ อามีเรื่องรบกวนเท่านี้แหละ”
คุณอำนวยพูดจบก็รีบลุกขึ้นเดินทางกลับทันที ทิ้งคำพูดที่ดูอบอุ่นแต่แฝงไปด้วยคำสั่งไว้เบื้องหลัง “อาไปก่อนนะหลานรัก”
คำเตือนจากทนายธรรศกร
คุณผู้อ่านคิดยังไงบ้างครับ? อาของผมน่าปวดหัวใช่ไหม? ตามเก็บคอมเมนต์หมิ่นประมาท... เฮ้อ...
คนทั่วไปไม่รู้หรอกว่าตามกฎหมาย มาตรา 328 ต่อให้สิ่งที่พูดเป็น ความจริง แต่ถ้าทำให้คนอื่นเสียหาย ก็ยังผิดอยู่นะครับ! อย่าไปคอมเมนต์ใครซี้ซั้ว! ยิ่งเป็นความจริง... ยิ่งหมิ่นประมาท คุณเข้าใจคำนี้ไหมครับ?
ขอบเขตของการแสดงความคิดเห็นที่สุจริตจริง ๆ คือต้องเป็นไปตาม มาตรา 329 คือการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือการตั้งข้อสงสัยที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในทุกกรณี
ถ้าหากคุณพบว่าใครพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย หรือการฟอกเงิน สิ่งที่คุณควรทำคือ รวบรวมหลักฐานและส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่การนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะในบางแง่มุม คุณอาจกลายเป็นจำเลยตามมาตรา 328 ก็เป็นได้
ทนายธรรศกรเตือนแล้วนะครับ...
รอบหน้ามาตามติดชีวิตของทนายธรรศกรกันต่อ ว่าเขาจะ เล่นเกมชิงหุ้น เพื่อปลดแอกตัวเองและสำนักงานกฎหมายอย่างไร!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา