2 ต.ค. เวลา 13:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Chainsaw Man - The Movie: Reze Arc ความหมายที่แท้จริงของ "หนูนา" และ "หนูเมือง"

"มันส์พะย่ะค่ะ ดุเดือด เลือดพล่านสุดๆ"
อะดรีนาลินสูบฉีดไม่หยุด
เหมือนติดเครื่องเปิดเลื่อย
แล้วเร่งระดับความแรง พุ่งไปไม่มีผ่อน
กับ "Chainsaw Man - The Movie: Reze Arc"
ที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน เว้าวอน หล่อหลอม
วิญญาณให้ซาบซ่านไปกับกลิ่นอายรัก
เคล้าเล่ห์กล บนความสัมพันธ์อันยากจะบรรยาย
กลายเป็นการจุดชนวนไฟสงคราม
ซึ่งถ้าจะยกให้อนิเมะเรื่องใด
เป็น "ที่สุด" แห่งปี นอกจาก
ดาบพิฆาตอสูรปราสาทไร้ขอบเขต
ก็ต้องยกให้ Chainsaw Man ภาคนี้
ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเทียบเคียงเลย
นอกจากแอคชันสุดมันส์ตระการตา
ที่ช่วยเพิ่มดีกรีดราม่าเร้าอารมณ์
ผสมกับ Effect เทคโนโลยีมากมาย
โดยเฉพาะฉากต่อสู้ของ
มนุษย์ปีศาจระเบิดอย่างเรเซ่
ที่โชว์ทั้งเรือนร่างอันเซ็กซี่ ชวนใจบาง
และโชว์ศิลปะแห่งการใช้ระเบิด
ได้อย่างงดงามเหลือเกิน
นอกจากเดอิดาระของแสงอุษาในนารูโตะ
ก็มีแต่เรเซ่นี่แหละที่ใช้ระเบิดได้งาม
ตูมตามทรงพลังขนาดนี้
ทำเอาทั้งพลังและเลือดในตัว
ไหลพุ่งพล่านทะยานกลับไปมา
สิ่งสำคัญที่มากกว่าคือบทเนื้อเรื่อง
ที่สอดแทรกประเด็นต่างๆ
เข้าไว้ด้วยกันอย่างดี
และยิ่งมาทบทวนวิเคราะห์ดูอีกที
กลับยิ่งค้นพบอะไรอีกมากเลยทีเดียว
โดยเฉพาะประเด็นนิทาน “หนูนา VS หนูเมือง”
ซึ่งเรเซ่และปีศาจเทวดาได้หยิบมาพูด
รวมกันคือได้ยินเรื่องนี้หลายรอบ
จนแอบสะกิดใจว่าอาจารย์
“Tatsuki Fujimoto” ผู้แต่ง
ต้องการสื่อแก่นสำคัญบางอย่างออกมาแน่
เลยอยากชวนเหล่ามนุษย์ปีศาจทุกคน
หน่วยปราบปีศาจพิเศษทุกนาย
หรือจะเป็นปีศาจแต่กำเนิดก็ดี
มาซดเลือดเติมพลัง
เตรียมอินไปด้วยกันอีกที
พร้อมหาคำตอบที่แท้จริง
ว่าหนูนากับหนูเมืองคืออะไรยังไง
เตือนอีกที! สำหรับคนที่ดูหนังจบแล้วเท่านั้น
หากไม่ระวัง อาจถูกเรเซ่กรีดกระชากหัวใจไป
โอยยยย โคตรชอบเลยภาคนี้เลยโว้ยยยย!!
(จริงมากครับ ท่านเลื่อยยนต์ ย้ากกก🌊🦈 )
.
.
.
อย่างที่รู้กันดีตามชื่อภาคว่า
นี่คือการเล่าเรื่องราวของเรเซ่เป็นแกน
ในบทบาทมนุษย์ปีศาจและนักฆ่า
อดีตเด็กกำพร้าที่ฝ่ายโซเวียต
เก็บมาฝึกและส่งไปทำภารกิจ
โดยพุ่งเป้ามาที่หัวใจเลื่อยยนต์ของเด็นจิ
ที่สามารถลบตัวตนของปีศาจได้
หากถูกเขากินเข้าไป จนกลายเป็น
ผู้เล่นตัวแปรสำคัญที่ทุกฝ่ายจับจ้อง
หมายยึดครอง เพื่อหวังเป็น
ผู้วางกฎเกณฑ์ใหม่ๆ กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
ในจักรวาลแห่งมนุษย์ ปีศาจ และสงคราม
เกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน
ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญแบบตั้งใจ
และเต็มไปด้วยปรัชญาแนวคิด
สะท้อนมุมชีวิตจริงได้เช่นกัน
เช่นนั้นนิทานเรื่องหนูนา-หนูเมือง
มันคือการขยายความหมาย
ของตัวละครเรเซ่กับเด็นจิอย่างแยบยล
และตรงไปตรงมาในเวลาเดียวกัน
🐭 เรื่องย่อในนิทานคือ
หนูนาที่อาศัยอยู่ชนบท
ได้เชิญหนูเมืองมากินข้าวของตัวเอง
แม้จะเป็นอาหารธรรมดา ไม่หรูหรา
แต่ก็ปลอดภัยและสงบสุขในพื้นที่ตน
ส่วนหนูเมืองพาหนูนาไปลองกินอาหาร
ที่แสนอร่อยติดแกลมในเมือง
แต่ต้องแลกด้วยความเสี่ยง
อันตราย และความกลัวอยู่ร่ำไป
จุดนี้ “เรเซ่” จึงเปรียบเสมือนหนูนา
เธอถูกเลี้ยงและฝึกมาในพื้นที่ปิดกั้น
ของรัฐบาลรัสเซีย ร่วมกับบรรดา
เด็กกำพร้าด้วยกัน
เธอและเด็กเหล่านั้นต่างกินของไม่ดีนัก
อยู่แบบเป็นรูปแบบ ตามโปรแกรมฝึก
แต่ “ปลอดภัย” ในโลกที่ถูกควบคุมไว้
เธอเคยชินกับการอยู่ในกรอบ
แม้มันไม่ใช่ชีวิตที่มีความสุขจริง ๆ
ส่วนเด็นจิเองก็เคยเป็นหนูนา
และได้จับพลัดจับผลูมาเป็น “หนูเมือง”
ที่ยากจนข้นแค้น อดมื้อกินมื้อ
รับงานปราบปีศาจรับเงินไปวันๆ
มีเพียง “โปจิตะ” เท่านั้นที่เข้าใจ
ทำให้ชีวิตนั้นมีความหมาย เป็นเซฟโซนที่
ปลอดภัยของกันและกัน
แต่พอได้พลังและหัวใจเลื่อยยนต์
จากเพื่อนซี้ตัวน้อยมา
เขาเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกในเมือง
ที่เต็มไปด้วยความศิวิไลย
แม้จะเป็นชีวิตธรรมดาทั่วไปของคนเมือง
แต่สำหรับเด็นจิมันคือสวรรค์บนดิน
ที่เขาโหยหามานาน และไม่อยากทิ้งมันไป
ทั้งอาหารดีๆ ถึงไม่ต้องหรูทุกมื้อ
แค่ไม่ต้องคุ้นเศษอาหารตามถนนกิน
และยิ่งได้ลิ้มลองอาหารดีๆ มากมาย
ก็เกิดเป็นความสุขเล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่
และไม่เคยคิดฝันว่าจะได้สัมผัสมาก่อน
(รวมถึงหน่มน้มอันเด้งดึ๋งเช่นกัน ฮ่าา)
แต่ทั้งหมดต้องแลกกับ การทำงานเสี่ยงตาE
การถูกใช้เป็นเครื่องมือทั้งที่รู้และไม่รู้ตัว
รวมถึงความรุนแรง ป่าเถื่อน ระหว่างปีศาจ
และมนุษย์ด้วยกันที่น่ากลัวยิ่งกว่า
เด็นจิเป็นเหมือน “หนูที่ได้ของอร่อย”
แต่ทุกคำที่กินคือแลกชีวิตเป็นเดิมพัน
หนูทั้งสองแบบจึงสะท้อนโลกของทั้งคู่ตรงที่
💜 เรเซ่มองเด็นจิ = ชีวิตในเมืองที่น่าหลงใหล หวือหวา น่าลอง ได้รับเครดิตและถูกยอมรับในการทำงาน แต่กลับเต็มไปด้วยความท้าทายและอันตราย
❤️ เด็นจิมองเรเซ่ = ความสงบสุขแบชีวิตวัยรุ่นธรรมดา ทั้งการนั่งพักจิบกาแฟ การไป รร. มีแฟน เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้สัมผัสจริงๆ
คล้ายเป็นการบอกโดนนัยว่า
“ทั้งคู่ต่างอยากลองเป็นอีกฝ่าย”
แต่สุดท้ายก็ ไม่มีใครก้าวข้ามเส้นชะตาของตัวเองได้
เรเซ่อยากชวนเด็นจิหนีไปไกลแสนไกล
ไปใช้ชีวิต กินกาแฟ กินข้าวแกงบ้านๆ ด้วยกัน
ส่วนเด็นจิอยากให้เรเซ่ได้ลิ้มรสความฝัน
ได้สัมผัสโลกการทำงานที่มี Career Path
มีความก้าวหน้า มีเป้าหมายชัดเจนขึ้นมา
ได้มีอะไรหวือหวาให้ทำในแบบชาวเมือง
หนังเลือกใช้ นิทานหนูกับหนูนา
เพื่อเป็นสัญลักษณ์เชิงนามธรรมว่า
เรเซ่ = ความปลอดภัยที่ไร้อิสระ
เด็นจิ = อิสรภาพที่แลกมาด้วยความเสี่ยงและความตาE
เรเซ่อยากหลุดจากกรอบล่องหน
ที่กักขัง กำหนดทิศทางเธอมาทั้งชีวิต
จนไม่อาจเลือกอะไรเองได้นอกจากภารกิจ
เด็นจิยังอยากพิสูจน์ตัวเองที่นี่
เพราะเพิ่งถูกยอมรับเป็นครั้งแรก
ว่าตัวเองเป็นคนมีคุณค่าให้เรียกใช้
แม้ความใสซื่อ บื้อๆ ของเด็นจิ
ตามประสาเด็กหนุ่มที่ยังไม่เจนโลก
ไม่เคยมีประสบการณ์รักใดๆ มาก่อน
โดยเฉพาะกับเพื่อนต่างเพศ
จึงเป็นคนที่ง่ายต่อการถูกหลอก
และเรเซ่ที่เป็นสายลับมืออาชีพเอง
ก็ศึกษาเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี
จึงเข้าหา เล่นละคร พร้อมหว่านเสน่ห์
อันซาบซ่าน แพรวพราว ราวกับดอกไม้ฤดูฝน
ที่เปียกปอนและเย้ายวนเสียจน
อยากจะพุ่งฝ่าพายุเข้าไปเด็ดดม
มาชื่นชมในแจกันของตัวเอง
เธอจึงเป็นทั้งดอกไม้ที่น่าค้นหาเข้าใกล้
และ “ระเบิด” ที่ปะทุเข้ากลางหัวใจ
ทำให้ทั้งใจและร่างกายเด็นจิ
มันขยับไปเอง อยากจะลองเข้าไป
สัมผัสความสัมพันธ์ที่เขาไม่เคยมี
แม้แต่มากิมะเองก็ยังให้ไม่ได้
ด้วยบทบาทหน้าที่และตัวตนอันลึกลับ
ที่ยังไม่ใช่ชีวิตสดใสสไตล์วัยรุ่นแบบเรเซ่
ขณะเดียวกันตลอดชีวิตเรเซ่
ที่ถูกฝึกให้เป็นอาวุธสังหาร
ไม่เคยมีเสรีภาพในความรักหรือร่างกาย
การที่เธอได้มาอยู่กับเด็นจิ
จึงไม่ใช่แค่ภารกิจหลอก
ขโมยหัวใจเลื่อยยนต์เสียทีเดียว
แต่ยังแฝงว่าเธอกำลัง “อยากลอง”
ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ธรรมดาและหวือหวา
ไปกับใครสักคนจริงๆ
เพราะลึกๆ ในใจก็สับสนว่า
สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นหน้าที่หรือหัวใจตัวเอง
เหมือน “ทั้งล่า ทั้งรัก” เด็นจิไปพร้อมกัน
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อยๆ ระเบิดอยู่ในใจ
จากโมเมนต์เปลือยกาย สุดท้ายก็แอบ “เปลือยใจ”
ต่างมอบความรักให้กันจากใจจริง
แม้จะต้องห้ำหั่นเอาชีวิตกันด้วยภารกิจ
แต่เพราะยังมีเยื่อใยตรงนี้อยู่
จึงมิอาจเอาชีวิตอีกฝ่าย
อนิจจา ช่างน่าเสียดาย
ในยามที่ทั้งคู่ต่างรู้ใจตัวเองมากพอ
โชคชะตากลับเล่นตลกเหมือนนรกบนดินแทน
เหมือนมากิมะแอบมาพรากทุกอย่างไป
ชนิดที่ไม่เปิดโอกาสให้ร่ำลาเตรียมใจ
ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมตรงหน้า
กลับให้ความรู้สึกแสนนาน
ความรักของทั้งคู่จึงเปรียบเสมือน “เส้นขนาน”
เป็นดั่งนิทานที่ไม่มีทางสมบูรณ์ บรรจบกัน
เพราะหนูทั้งสองตัว อยู่กันคนละโลก คนละมุมมอง
อยากอยู่ด้วยกันแต่ก็ยังมีเหตุผลของตน
และเงื่อนไขความโหดร้ายของโลก
ที่ทำให้มิอาจอยู่ด้วยกัน
คนบางคนอาจผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
แค่เพียงชั่วคราว แต่กลับ
ฝากเรื่องราว ฝากความทรงจำเอาไว้
ติดตรงในใจเป็นนิรันดร์
ช่อดอกไม้ในอ้อมกอดช่อนั้น
จะยังเป็นของเธอเสมอ
แม้เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วก็ตาม
ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้
สระว่ายน้ำที่ รร. แห่งนั้น
และงานเทศกาลดอกไม้ไฟ
ที่เคยวิ่งเล่นสนุกไปด้วยกัน
จะเป็นเลื่อยยนต์สับเข้ากลางใจ
เป็นระเบิดที่ก้องดังอยู่ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง
ขอบคุณเธอนะเรเซ่ ที่ทำให้รู้ว่าฉันเองก็มีหัวใจ,,,
โฆษณา