29 ก.ย. เวลา 00:32 • ประวัติศาสตร์

อุบัติเหตุเรือ MS Estonia จมในทะเลบอลติก ค.ศ. 1994: โศกนาฏกรรมทางทะเลที่โลกไม่ลืม

ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1994 โลกต้องสะเทือนใจกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อ เรือสำราญ MS Estonia จมลงกลางทะเลบอลติกระหว่างเดินทางจากเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ไปยังกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เหตุการณ์นี้คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 850 คน จากทั้งหมด 989 คนบนเรือ นับเป็นอุบัติเหตุทางทะเลที่ร้ายแรงที่สุดในยุโรปยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ลักษณะของเรือและเส้นทางเดินเรือ
MS Estonia เป็นเรือเฟอร์รีโดยสารที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1979 เดิมชื่อว่า Viking Sally ตัวเรือมีความยาวกว่า 155 เมตร ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสาร รถยนต์ และสินค้าบรรทุก เส้นทางเดินเรือระหว่างเอสโตเนียและสวีเดนถือเป็นเส้นทางยอดนิยม เพราะเชื่อมโยงยุโรปตะวันออกกับสแกนดิเนเวีย
ในคืนวันที่ 28 กันยายน เรือออกจากท่าเรือทาลลินน์พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือเกือบพันคน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเอสโตเนีย ฟินแลนด์ และสวีเดน บรรยากาศบนเรือเป็นไปอย่างปกติ จนกระทั่งคลื่นลมแรงในทะเลบอลติกเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
เหตุการณ์เรืออับปาง
เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 29 กันยายน เกิดความเสียหายกับ ประตูบานหน้า (bow visor) ของเรือ ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อทางขึ้น-ลงของรถยนต์ เมื่อโครงสร้างส่วนนี้พังทลาย น้ำทะเลจำนวนมหาศาลทะลักเข้าสู่ดาดฟ้ารถ ทำให้เรือเสียสมดุลและเอียงอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียง 30–40 นาที เรือ MS Estonia ก็จมลงสู่ก้นทะเลบอลติก โดยไม่มีเวลาเพียงพอให้ผู้โดยสารอพยพได้อย่างเป็นระบบ ความมืด ความหนาวเย็น และคลื่นลมแรงยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง หลายคนติดอยู่ภายในตัวเรือ ขณะที่ผู้ที่กระโดดลงทะเลก็เผชิญกับอุณหภูมิที่หนาวจัด
การกู้ภัยและผลลัพธ์
มีเพียง 137 คน ที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 850 คน ซึ่งส่วนใหญ่ศพยังคงอยู่ในตัวเรือใต้น้ำ เนื่องจากรัฐบาลสวีเดนและเอสโตเนียตัดสินใจไม่กู้ซากเรือขึ้นมา แต่เลือกสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกแทน
ผลกระทบและการสืบสวน
หลังอุบัติเหตุ คณะกรรมการนานาชาติได้ทำการสืบสวน และสรุปว่าความเสียหายของประตูบานหน้าคือสาเหตุหลัก อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสงสัยและทฤษฎีสมคบคิดตามมามากมาย เช่น การลักลอบขนยุทโธปกรณ์ หรือการระเบิด แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
มรดกทางความทรงจำ
โศกนาฏกรรม MS Estonia เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางทะเล นำไปสู่การปรับปรุงมาตรฐานเรือเฟอร์รีทั่วโลก เช่น การออกแบบประตูเรือให้แข็งแรงขึ้น และการเพิ่มมาตรการฝึกซ้อมอพยพผู้โดยสาร เหตุการณ์นี้ยังคงถูกจดจำในยุโรปเหนือว่าเป็นคืนที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย และกลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ทางทะเลที่สะเทือนใจที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
โฆษณา