29 ก.ย. เวลา 07:22 • ไลฟ์สไตล์

📌แกะสูตรออมเงิน ‘น้องคอปเตอร์’ นักลงทุนวัย 15 ปี ที่เอาค่าขนมสร้างพอร์ตหลักแสน

คุณยังคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องซับซ้อนและไกลตัวของผู้ใหญ่หรือไม่ ถ้าใช่... ลองมาดูเรื่องราวของ ‘น้องคอปเตอร์’ ทฤษฎี ปันนวน เด็กหนุ่มวัย 15 ปี จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ที่เปลี่ยนเงินค่าขนมเดือนละ 3,000 บาท มาสร้างพอร์ตการลงทุนมูลค่าหลักแสนได้สำเร็จ ด้วยแนวคิดและวินัยที่น่าทึ่ง โดยมีวอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นบุคคลต้นแบบ และความฝันที่ชัดเจนของตัวเองเป็นแรงผลักดัน
1
----------
🟢 เส้นทางที่เริ่มต้นด้วยเงินค่าขนม 800 บาท
ครอบครัวของน้องคอปเตอร์ทำธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าและไม่ได้เป็นสายนักลงทุน ความสนใจในเรื่องนี้จึงมาจากตัวของน้องคอปเตอร์ล้วน ๆ โดยมีวอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นไอดอลผู้จุดประกาย ซึ่งทำให้เขาเริ่มศึกษาการลงทุนอย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 3
เงินลงทุนก้อนแรกของน้องคอปเตอร์คือ 3,500 บาท ซึ่งมาจากการเก็บออมเดือนละ 800 บาท จากค่าขนมที่ได้เดือนละ 3,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนราว 20-30% ของรายรับทั้งหมด
ในช่วงแรก ทางบ้านไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนัก เขาต้องขอให้คุณแม่ช่วยเปิดพอร์ตลงทุนในชื่อของท่าน เพราะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งสร้างความกังวลให้ผู้ปกครองว่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกลวง และยังมีความเชื่อดั้งเดิมว่า "หุ้นมีแต่คนรวยที่เล่นกัน"
แต่สุดท้ายน้องคอปเตอร์ก็สามารถโน้มน้าวคุณพ่อคุณแม่ได้สำเร็จ โดยค่อย ๆ อธิบายเหตุผลว่า การลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แต่คือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในบริษัท
----------
🟢 แนวคิดทางการเงินที่โตเกินวัย ‘มูลค่าของสิ่งของเท่ากับชั่วโมงทำงาน’
วิธีคิดนี้น้องได้อธิบายว่า หากต้องการซื้อของราคา 500 บาท และสมมติว่าเขาสามารถทำงานได้ชั่วโมงละ 50 บาท นั่นหมายความว่าต้องใช้เวลาทำงานถึง 10 ชั่วโมงเพื่อแลกกับของชิ้นนั้น เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ถ้าสิ่งของนั้นไม่จำเป็น เขาก็จะเลือกที่จะไม่ซื้อทันที
ดังนั้นจึงทำให้น้องคอปเตอร์สามารถเก็บเงิน 800 บาทต่อเดือนมาลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้
1
----------
🟢 พลังของเวลา และการเติบโตจากความผิดพลาด
ปัจจุบันพอร์ตของน้องคอปเตอร์มีมูลค่าหลักแสนบาท จากต้นทุนราว 60,000-70,000 บาท พอร์ตนี้สร้างกำไรไปแล้วกว่า 30,000 บาท โดยมีสัดส่วนเป็นหุ้น 95% และ Bitcoin 5% ซึ่งน้องคอปเตอร์บอกว่ายังลงทุนใน Bitcoin น้อยเพราะยังศึกษาไม่มากพอ
1
----------
🟢 กลยุทธ์หลักของเขาประกอบด้วยแนวคิดที่น่าสนใจดังนี้
🚩ข้อได้เปรียบสำคัญที่สุดคือเวลา : เพราะน้องคอปเตอร์เข้าใจในพลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) อย่างลึกซึ้ง การเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 15 ทำให้เขามีเวลาให้เงินทำงานและเติบโตได้ยาวนานกว่าคนอื่นหลายสิบปี
🚩เขามุ่งมั่นเป็นการลงทุนระยะยาว : โดยตั้งเป้าลงทุน 10 ปีขึ้นไป เขาเคยผ่านช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก แต่ก็เลือกที่จะไม่ขาย เพราะเชื่อมั่นในเป้าหมายระยะยาว และมองว่าการเทรดระยะสั้นหรือเฝ้ากราฟนั้น ‘ปวดหัว’ และไม่เหมาะกับนักเรียนที่ต้องโฟกัสกับการเรียน
🚩เขาเรียนรู้จากความผิดพลาด : ในช่วงแรกน้องคอปเตอร์เคยลองเล่น ‘หุ้นซิ่ง’ และขาดทุนหนักมาก่อน ประสบการณ์ครั้งนั้นสอนให้เขาเปลี่ยนมาเน้นการลงทุนในบริษัทใหญ่ที่มั่นคงในดัชนี S&P 500 และวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอย่างละเอียด ทั้งงบการเงิน รายได้ กำไร และหนี้สิน
🚩เขาเลือกหุ้นที่เข้าใจและมองเห็นอนาคต : สำหรับหุ้นเด่นในพอร์ตของเขาคือ Nvidia (ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 80%), Tesla และ Counter (MSTY) ซึ่งสะท้อนมุมมองที่เชื่อว่า AI คือเมกะเทรนด์ที่จะมาแรงในอีก 10-20 ปีข้างหน้า
----------
🟢 เป้าหมายที่ชัดเจน และคำแนะนำจากใจ
น้องคอปเตอร์ไม่ได้ลงทุนอย่างไร้จุดหมาย เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการมี Passive Income เดือนละ 50,000 บาท ตอนอายุ 45 ปี ซึ่งเขาคำนวณไว้แล้วว่าต้องมีพอร์ตลงทุนประมาณ 10-12 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งเป้าที่จะเป็น "ที่ปรึกษาและครีเอเตอร์ด้านการเงินการลงทุน" ในอนาคตด้วย
โดยสำหรับเพื่อน ๆ และผู้ใหญ่ที่ยังลังเลเรื่องการลงทุน เขาได้ให้คำแนะนำที่เรียบง่ายแต่น่าสนใจไว้ดังนี้
🚩สำหรับวัยรุ่น เขาแนะนำว่า : "อยากจะให้ทุกคน เริ่มต้นด้วยเงินน้อย ๆ ก่อน ที่ไม่กระทบการเรียนและการใช้ชีวิตครับ"
🚩สำหรับผู้ใหญ่ เขาแนะนำว่า : "อยากจะให้ทุกคน เริ่มลงทุนในสินทรัพย์ที่เราเข้าใจ อาจจะไม่ใช่หุ้นก็ได้ อาจจะเป็นทองคำ ตราสารหนี้ อะไรพวกนี้ก็ได้ครับ"
1
เรื่องราวของน้องคอปเตอร์เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ‘เวลา’ และ ‘วินัย’ คือสองเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างความมั่งคั่ง ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ มีเงินเริ่มต้นมากน้อยแค่ไหน ขอเพียงแค่มีความเข้าใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจน และเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้ ความสำเร็จทางการเงินก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินฝันอีกต่อไป
คุณคิดอย่างไรกับเรื่องของน้องคอปเตอร์ คอมเมนต์มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลย
#FollowTheMoney #น้องคอปเตอร์ #การเงิน #ออมเงิน #วางแผนการเงิน #อิสรภาพทางการเงิน #ลงทุนหุ้น
โฆษณา