1 ต.ค. เวลา 09:47 • ครอบครัว & เด็ก

**fawn**คือสภาวะการเอาตัวรอดของมนุษย์ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ"การเอาอกเอาใจเพื่อเอาตัวรอด"

สภาวะนี้มันไม่ได้แย่ซะทีเดียวนะ อย่างตอนที่แฟนโกรธเพราะเราผิดคำพูดกับเขา เราก็ใช้การเอาอกเอาใจเพื่อรักษาความสัมพันธ์ หรืออย่างที่ทำงานเราบังเอิญทำให้คนที่มีตำแหน่งสูงกว่าต้องเคลือบแคลงใจ เราก็ลุกลี้ลุกลนหาวิธีทำให้เขาพอใจโดยเร็ว เพื่อยังคงมีงานทำต่อไป
**แต่มันจะเป็นปัญหา​ก็ต่อเมื่อ**เธออยู่ในสภาวะนี้บ่อย ๆ จนรู้สึกเป็นปกติ เริ่มไม่กล้าปฎิเสธทุกคำขอ สุดท้ายหมดไฟในการใช้ชีวิต เพราะมัวแต่เอาอกเอาใจคนอื่นจึงไม่มีเวลาทำสิ่งที่สำคัญต่อตัวเองจริง ๆ รู้สึกชีวิตไม่มีความหมาย สูญเสียตัวตนที่แท้จริง
**มันดีนะในระยะสั้น** หากเธอใช้สภาวะนี้เพื่อความสัมพันธ์ยังคงรู้สึกปลอดภัย
**แต่มันแย่มากในระยะยาว** เธอจะถูกเอาเปรียบจากคนอื่น เธอเริ่มรู้สึกโกรธแต่ก็กักเก็บมันไว้เพราะไม่อยากทะเลาะ จนลงเอยด้วยการเป็นโรคเครียดเรื้อรังหรือซึมเศร้า
**fawn**แตกต่างจาก **people pleaser**
ตรงที่ fanw จะมีแนวโน้มมาจากปมวัยเด็กมากกว่า
การได้รับความรักอย่างมีเงื่อนไข ถูกตำหนิรุนแรงเกินเหตุ เช่น" ถ้าลูกเป็นเด็กดี ทำงานบ้าน สอบได้ที่1ตลอด แม่จะรักหนูมากๆเลยนะ" หรือ" ทำไมสอบไม่ได้ที่1 ไปไหนก็ไป! อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะไอ้เด็ก... ! " รากของ fawn คือการเอาตัวรอดจากภัยความรุนแรงทางความสัมพันธ์ ขณะที่ people pleaser กว้างกว่า อาจมาจากบุคลิกและนิสัยสังคม เมื่อต้องปฎิเสธหรือตั้งขอบเขต fawn จะเกิดร่วมกับอาการกลัวรุนแรง และย้อนไปหาประสบการณ์ในวัยเด็ก
**รู้ทันตัวเองหาก fawn กำลังทำงาน** อย่าพูดว่า"ได้" ถ้าไม่อยาก หรือ รู้สึกขอโทษบ่อยเกินไปไหม? หากมีคนมาขอให้ช่วยก็อย่าพึ่งรีบตอบ ค่อยๆฟังเสียงใจตัวเองว่า"โอเคไหม? หากจะช่วย" จัดการความรู้สึกผิดหากไม่ได้ช่วย ให้คิดซะว่าการที่เราไม่ช่วยคือการฝึกให้เขาแก้ปัญหาด้วยตัวเองและทำให้เขาเก่งขึ้น อารมณ์ประมาณพ่อที่แอบปล่อยมือจากจักรยานลูกตอนหัดขี่ใหม่ ๆ ฝึกปฏิเสธเล็ก ๆ ก่อนก็ได้ ค่อย ๆให้สมองมันเรียนรู้ว่า"ปฎิเสธก็ยังปลอดภัย"
ทั้งนี้แค่เธอรู้ทันตัวเองมันก็เปลี่ยนแปลงมหาศาลแล้ว อย่าลืมว่าเธอมีชีวิตได้ด้วยตัวเองนะ
#บทความ #fawn #รู้ทันตัวเอง
โฆษณา