ขอยาด มองต่างมุม
เพื่อคำว่า"ท้าทาย"
ให้เห็นเป็นรูปธรรม
ไม่สวยป้ายยา
นโยบายของ รมต. ศุภจี
ที่แถลงในสภาฯ มีหลาย
ประเด็นน่าสนใจ
แต่จุดอ่อนก็โผล่ให้เห็น
ชัดอยู่เหมือนกันการประกาศ
ว่าจะทำให้เห็นผลภายใน
เวลาอันสั้นเพียง 4 เดือน
แม้จะสร้างแรงกดดันและ
ทำให้ดูจริงจังแต่ก็ทำให้
เสี่ยงกลายเป็นการแก้ปัญหา
เฉพาะหน้าไม่ใช่การปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ยั่งยืน
ทั้งตัวนโยบายเองกระจาย
ไปหลายด้านมากตั้งแต่ค่า
ครองชีพเกษตรส่งออกการ
ค้าระหว่างประเทศจนถึง
การนำ AI มาใช้ตรวจสอบสินค้า
เมื่อไม่มีการลำดับความสำคัญ
ที่ชัดเจนก็อาจทำให้ทรัพยากร
ถูกดึงไปหลายทางจนทำได้
ไม่สุดสักด้าน
การใช้ AI เป็นไม้เด็ดก็ยังมี
ความเสี่ยงเพราะหากไม่มี
ระบบข้อมูลคุณภาพสูง
บุคลากรที่เข้าใจจริงหรือ
มาตรการป้องกันความ
ผิดพลาดและความโปร่งใส
ก็อาจกลายเป็นแค่เครื่องมือประชาสัมพันธ์ไม่ได้ช่วย
ป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพ
อย่างแท้จริง
ส่วนมาตรการชะลอการ
ขายพืชผลหรืออุดหนุน
ต้นทุนเกษตรแม้จะช่วย
บรรเทาเฉพาะหน้าแต่
ถ้าตลาดโลกตกต่ำกว่า
ที่คาดหรือกลไกกำจัด
สต๊อกไม่ดีพอก็อาจกลาย
เป็นภาระงบประมาณมหาศาล
เรื่องการเร่งทำ FTA หรือ
ข้อตกลงทางการค้าเช่นกัน
หากเปิดเสรีโดยไม่เตรียม
มาตรการปกป้องธุรกิจในประเทศ
SME และอุตสาหกรรม
เปราะบางอาจรับแรง
กระแทกไม่ไหวการเร่งรัด
ขั้นตอนสอบสวนกรณีทุ่ม
ตลาดให้สั้นลงแม้ดูคล่องตัว
แต่ก็เสี่ยงว่าความละเอียด
รอบคอบ อย่างไรก่ะดีได้ฟัง
คนใหม่ๆพูดบ้างสีสรรก่ะยัง
ทำให้รู้สึกอยากให้กำลังใจนะ
ด้วยความเคารพครับ
ท่านประธานฯ
Pataก่ะแค่หางอึ่งอ่ะ!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
