3 ต.ค. เวลา 08:00 • ธุรกิจ

คนรุ่นใหม่ชงเหล้าไม่เป็น 'ไทยเบฟ' ชงให้ ปั้น 'หงส์ทองกระป๋องพร้อมดื่ม' เตรียมเปิดตัวปลายไตรมาสนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉายา “ราชันย์น้ำเมา” ต้องยกให้กับอาณาจักรเครื่องดื่มและอาหารอย่าง “บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)” เพราะเป็นผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากในประเทศไทย ยิ่งกว่านั้นยังแผ่ขยายความยิ่งใหญ่สู่ระดับภูมิภาคอาเซียนที่ปีก่อนๆ รั้ง Top 10 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือ MarketCap มากสุด
ทว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอันดับอาจหล่นเล็กน้อย คงไว้ที่ 11 โดยปีล่าสุด 2567 มาร์เก็ตแคปมีมูลค่า 9,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีการลดลงของมูลค่าหุ้นจากปีก่อนหน้า (2566) มาร์เก็ตแคปมูลค่า 9,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนบรรดาพี่เบิ้มยังเป็นค่ายเครื่องดื่มแดนมังกร ชาติซามูไร และฮ่องกง
กลุ่มธุรกิจสุราเสาหลักสำคัญของไทยเบฟ เพราะในแง่ของความสามารถในการทำ “กำไร” ยังคงมากสุด โดยครึ่งปีแรก 2568(ปีงบประมาณ ต.ค.67-ก.ย.68) “สุรา” มีกำไรอยู่ที่ 11,601 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 65.3%
ส่วนยอดขายอยู่ที่ 64,520 ล้านบาท ส่วน 9 เดือน มียอดขาย 92,778 ล้านบาท ค่อนข้างทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย 0.02% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดย “ปริมาณขายรวมลดลง” 0.8% ขณะที่กำไรก่อนหักภาษี(EBITDA)อยู่ที่ 22,161 ล้านบาท ลดลง 5.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนเพื่อเสริมแกร่งตราสินค้าและสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งปีนี้ใช้ราว 2.1% ของยอดขาย จากปีก่อนหน้าใช้ 1.9%
ปี 69 กลุ่มสุราลงทุนเพิ่ม 2,000 ล้านบาท
ปลายปี 2567 ไทยเบฟมีการปรับทัพผู้บริหารใหม่ สับเปลี่ยนเก้าอี้ภายในองค์กร โดยกลุ่มสุรามี “โสภณ ราชรักษา” เป็นหัวเรือใหญ่ในตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มงานทรัพยากรบุคคลและสมรรถนะองค์กร อีกคนที่โยกจากกลุ่มเบียร์คือ “ทรงวิทย์ ศรีธรรม” กับตำแหน่งใหม่เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจสุรา ประเทศไทย
ทั้ง 2 มีภารกิจสำคัญคือรับนโยบาย “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” ในการผลักดันตลาดสุราให้ “บรรลุเป้าหมาย” ซึ่งมักจะโยนเป้าให้เพิ่มในงานแถลงแผนธุรกิจประจำปี จนถูกขุนพลข้างกายแซวว่า “แอร์ที่ว่าหนาว ยังไม่หนาวเท่ากับการนั่งเก้าอี้บนเวทีตรงนี้”(ประโยคจากโฆษิต สุขสิงห์ ผู้กุมบังเหียนธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์)
โฆษณา