3 ต.ค. เวลา 01:54 • ประวัติศาสตร์

การรวมเยอรมนี (German Reunification), ค.ศ. 1990

วันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1990 ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่ หลังจากประเทศถูกแบ่งแยกออกเป็นเยอรมนีตะวันตกและเยอรมนีตะวันออกเป็นเวลากว่า 45 ปี เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือสงครามเย็นที่ยาวนาน
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 4 เขตยึดครองโดยสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต ต่อมาเขตยึดครองของฝ่ายตะวันตกได้รวมตัวกันเป็นสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือ “เยอรมนีตะวันตก” ในปี 1949 ส่วนเขตยึดครองของโซเวียตก็กลายเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี หรือ “เยอรมนีตะวันออก” ภายใต้ระบอบสังคมนิยม การแบ่งแยกนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกสร้างขึ้นในปี 1961 เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเยอรมนีตะวันออกหลบหนีไปยังฝั่งตะวันตก
ตลอดระยะเวลาสงครามเย็น การแบ่งแยกนี้ไม่เพียงแต่แยกประชาชนออกจากกัน แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันทางอุดมการณ์ระหว่างโลกเสรีนิยมประชาธิปไตยกับคอมมิวนิสต์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 1980 ระบบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกเริ่มสั่นคลอน ภายใต้แรงกดดันจากปัญหาเศรษฐกิจและความต้องการเสรีภาพที่เพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชน การปฏิรูปที่เกิดขึ้นในสหภาพโซเวียตภายใต้การนำของมิคาอิล กอร์บาชอฟ ยิ่งทำให้ประเทศพันธมิตรในยุโรปตะวันออกอ่อนแอลง
กระแสการประท้วงและการเรียกร้องเสรีภาพในเยอรมนีตะวันออกทวีความรุนแรงขึ้นตลอดปี 1989 จนในที่สุด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 กำแพงเบอร์ลินก็พังทลายลง เหตุการณ์นี้เป็นภาพจำอันทรงพลังของการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเยอรมนีกำลังจะกลับมารวมกันอีกครั้ง
การรวมชาติเยอรมนีไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากการเจรจาทางการเมืองอย่างเข้มข้น ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ มหาอำนาจทั้งสี่ที่เคยยึดครองเยอรมนีต้องให้การรับรอง โดยมีข้อตกลงที่เรียกว่า “สนธิสัญญาสองบวกสี่” (Two Plus Four Agreement) ลงนามในเดือนกันยายน 1990 ระหว่างเยอรมนีตะวันออก เยอรมนีตะวันตก และมหาอำนาจทั้งสี่ ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต ซึ่งเปิดทางให้เยอรมนีกลายเป็นรัฐอิสระที่รวมเป็นหนึ่งเดียว
วันที่ 3 ตุลาคม 1990 เยอรมนีตะวันออกได้ถูกผนวกรวมเข้ากับเยอรมนีตะวันตกอย่างเป็นทางการ กลายเป็น “สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี” ที่มีเบอร์ลินเป็นเมืองหลวงอีกครั้ง วันนั้นจึงถูกกำหนดให้เป็น “วันเอกภาพแห่งชาติ” (Tag der Deutschen Einheit) และเป็นวันชาติของเยอรมนีมาจนถึงปัจจุบัน
การรวมชาติครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่ทำให้ชาวเยอรมันได้กลับมาอยู่ร่วมกัน แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการเมืองของยุโรปโดยรวม เยอรมนีกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสหภาพยุโรป และเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านจากความขัดแย้งสู่ความเป็นเอกภาพอย่างสันติ
ดังนั้น เหตุการณ์การรวมชาติเยอรมนีในปี 1990 จึงไม่ใช่เพียงเรื่องราวของประเทศใดประเทศหนึ่ง หากแต่เป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงพลังของประชาชน ความเป็นไปได้ของการปรองดอง และความสำคัญของเสรีภาพในโลกสมัยใหม่
โฆษณา