7 ต.ค. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Easy Reading : เปรียบเทียบกองทุน ThaiESG ตราสารหนี้ น่าสนใจ (ต.ค. 2025)

ปลายปีแล้ว เพื่อนๆที่กำลังหากองทุนลดหย่อนภาษี และอยากลงทุนในตราสารหนี้ไทย Mr. เต่า เลือกกองทุน “ThaiESG ตราสารหนี้” ที่น่าสนใจมาฝาก สามารถเลือกลงทุนได้ตามนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ลงทุนตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเงินต้นได้ ผมเขียนบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ ความเสี่ยงจากการลงทุนตราสารหนี้ อยากให้เพื่อนๆได้อ่าน ใครสนใจ คลิกตามนี้ได้ครับ www.facebook.com/share/p/175yEeH3YK/
หลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษี ThaiESG ปี 2025 เป็นยังไง ?
กองทุนรวม ThaiESG ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการลงทุนหุ้น ตราสารหนี้ หรือกองทุนผสม สามารถลดหย่อนภาษีได้ “ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท” และจะต้อง “ถือลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี” ซึ่งมาตรการนี้ จะให้สิทธิพิเศษสำหรับการลงทุนระหว่างปี 2024-2026 เท่านั้น
รายละเอียดพร้อม เงินพร้อม ไปดูกองทุนฯที่น่าสนใจกัน !!!
*Mr. เต่า คัดเลือกกองทุน โดยใช้เกณฑ์ คือ
1. กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังอย่างน้อย 1 ปี และมีขนาดกองทุนไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท
2. สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวเป็นบวก และมีค่าผลตอบแทนต่อความเสี่ยงสูง (Risk-Reward) สูง
3. นโยบายไม่จ่ายเงินปันผล เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ
การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า Mr. แนะนำว่า “ควรพิจารณาจาก Risk-Reward” หรือผลตอบแทนเทียบเคียงกับความเสี่ยง รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายในการซื้อและการบริหารด้วยว่า ซื้อกองนี้แล้วคุ้มหรือไม่ ผมเรียงลำดับกองทุนตาม Risk-Reward ไว้ให้แล้วในภาพนะครับ
ทั้งนี้ ผมเพิ่มข้อมูลแสดง Risk-Reward หรือ ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง ไว้ด้านท้ายของตาราง โดย “กองทุนที่มีค่าผลตอบแทนต่อความเสี่ยงมาก หมายความว่า กองทุนนั้นให้ผลตอบแทนต่อความผันผวนจากการลงทุนที่ดีกว่า” ทำให้กองทุนนั้นน่าสนใจกว่ากองอื่นโดยเปรียบเทียบครับ
Mr. เต่า แนะนำยังไง ?
จากตาราง Mr. เต่า แนะนำกองทุน 3 อันดับแรก เพราะค่า “ผลตอบแทนต่อความผันผวน” ค่อนข้างสูง และความผันผวนในช่วง 1 ปีต่ำกว่าอีก 2 กองครับ โดยสามารถเลือกกองทุนที่เพื่อนๆซื้อได้สะดวกที่สุด ได้เลยครับ
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดการลงทุน ผมแนะนำว่าการ “ทยอยลงทุน” มากกว่า “ลงทุนก้อนเดียว” เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า การลงทุนจะปรับตัวยังไงในระยะสั้น มันอาจขึ้นต่อ หรือลงไปอีกก็ได้
ดังนั้น การลงทุนแบบ ”ถัวเฉลี่ยต้นทุน Dollar Cost Average (DCA) ” หรือการลงทุนเท่าๆกันทุกงวด (เหมือนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่เราให้นายจ้างหักทุกเดือน) จึงเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะจะช่วยให้การลงทุนมีความ “ยืดหยุ่นต่อทุกสถานการณ์” และทำให้เราได้ “ต้นทุนเฉลี่ย” ของการลงทุนที่พอดี
แต่สำหรับเพื่อนๆที่มีเวลาติดตามการลงทุน อาจใช้การจับจังหวะตลาด ลงทุนเป็นก้อนก็ได้ อันนี้แล้วแต่ชอบนะ แต่ก็ต้องทำใจว่า เราไม่มีทางจับจังหวะตลาดได้ถูกต้อง 100% เหมือนกันนะครับ
ลองเอากลยุทธ์ DCA ไปใช้กันได้ครับ
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
Source: FIN App, Finnomena, WealthMagik.com และเพจเต่าน้อยลงทุน, ข้อมูล ณ วันที่ 2 ต.ค. 2025
“ทางเลือกลดหย่อนภาษี 2568 ลงทุนแบบไหนได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง” – Setinvestnow.com
โฆษณา