ยาแก้ไขปนเปื้อน คร่า 150 ชีวิตเด็กใน 3 ประเทศ
มีรายงานว่าพบเด็กอายุราว 2-5 ปี ในประเทศอินโดนีเซียและแกมเบีย ป่วยด้วยอาการประหลาด เด็กๆมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง ปัสสาวะน้อยลง เซื่องซึม หมดสติ และค่อยๆเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า มีเด็กถึง 150 คนเสียชีวิตจากการได้รับสารปนเปื้อนในยาแก้ไข้ นอกจากนี้ในอินเดีย ก็พบเด็กอีก 12 ราย เสียชีวิตจากการปนเปื้อนของสารชนิดเดียวกัน ในยาแก้ไขสำหรับเด็ก
สารดังกล่าวมีชื่อว่า "Diethylene Glycol (DEG)"
Diethylene Glycol หรือ DEG เป็นสารอินทรีย์ชนิด glycols ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรม เช่น antifreeze, สี, พลาสติก ฯลฯ เมื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย DEG จะถูกแปรสภาพ (metabolize) ไปเป็นสารที่เป็นพิษต่อไตและระบบการเผาผลาญ และทำให้เกิดภาวะเมตาบอลิก อะซิโดสิส (metabolic acidosis), oliguria → anuria, และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทและไต
DEG ถูกเปลี่ยนในตับโดยเอนไซม์ alcohol dehydrogenase (ADH) เป็น 2-hydroxyethoxyacetic acid (HEAA) และ diglycolic acid สารเหล่านี้เป็นพิษต่อ ท่อไต (renal tubules) ทำให้เกิดภาวะ acute tubular necrosis (ATN) ทำให้เกิด ภาวะไตวายเฉียบพลัน (acute kidney injury) และ เมตาบอลิกแอซิโดสิส (metabolic acidosis) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
แล้วจะใส่เข้าไปทำไม
สารดังกล่าวอาจปนเปื้อนได้ในกระบวนการผลิต หรือการขาดมาตรฐานในการจัดการสารเคมีในโรงงาน
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ DEG มีโครงสร้างและหน้าที่คล้ายกับ propylene glycol ซึ่งเป็นสารที่ถูกเติมลงไปในยาน้ำเพื่อทำหน้าที่เป็นสารกันเสียหรือ Preservative
ถึงแม้ในระยะหลังจะมีการรณรงค์ให้เลิกใช้ propylene glycol เนื่องจากความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แต่โดยรวมแล้ว propylene glycol มีความปลอดภัยมากกว่า DEG และมีราคาสูงกว่ามาก
ทำให้เป็นช่องว่างให้บริษัทยาบางบริษัทที่อาจจะมีความ "มักง่าย" นำ DEG มาผสมแทนเพื่อทำหน้าที่เดียวกันและลดต้นทุน โดยปราศจากการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่ได้รับสารนี้เข้าไป
มีรายงานว่าเด็ก ประมาณ 66 คน เสียชีวิตในแกมเบีย ด้วยภาวะไตวายเฉียบพลัน หลังจากได้รับยาไซรัปที่ปนเปื้อนสาร DEG / EG ซึ่งได้รับการยืนยันโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และแหล่งทางวิชาการหลายแห่ง ส่วนในอินโดนีเซีย มีเด็กไม่น้อยกว่า 90 รายได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนดังกล่าว
และล่าสุด ในรัฐ Madhya Pradesh ของอินเดีย มีเด็กหลายรายเสียชีวิตด้วยภาวะไตวาย (kidney failure) หลังได้รับการรักษาโดยใช้ยาไซรัป (cough syrup) แบรนด์ “Coldrif” ที่ผลิตโดยบริษัท Sresan Pharma ในรัฐ Tamil Nadu ซึ่งสารที่ปนเปื้อนก็เป็นชนิดเดียวกันกับที่พบในอินโดนีเซียและแกมเบีย
จากรายงานพบว่า เปอร์เซ็นต์ปริมาณ DEG ที่ตรวจพบคือ 48.6% (ซึ่งสูงมาก) ในล็อต SR-13 ของ Coldrif จนในหลายรัฐ เช่น Madhya Pradesh, Tamil Nadu, Kerala ได้สั่งแบนการจำหน่าย Coldrif ทันที และสั่งยึดหรือระงับสต็อก พร้อมสั่งให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์อื่นของผู้ผลิตเดียวกัน
แน่นอนว่าผู้ที่เกี่ยวข้องถูกจับกุมและดำเนินคดี นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลาง อินเดีย ได้ออกคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสั่งจ่ายหรือจ่ายยาแก้ไอ-หวัด (cough/cold) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และใช้ด้วยความระมัดระวังในเด็กที่อายุมากกว่านั้นอีกด้วย
ในไทยเองสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Thai FDA) ได้ทำการสุ่มตัวอย่างยาซีรัปสำหรับเด็กที่นำเข้าจากต่างประเทศ (เช่น อินเดีย / อินโดนีเซีย) มาตรวจสอบว่า มี DEG หรือ EG ซึ่งยังไม่พบการปนเปื้อนที่เป็นอันตรายในตัวอย่างที่ทดสอบจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์ Vigilance Health Products Vigilance Center (HPVC) ของยาที่มีการจำหน่ายในประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียน ถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ว่าการปล่อยให้สารปนเปื้อนที่มีอันตรายตกไปถึงผู้ป่วย จะสร้างความเจ็บป่วยและความเสียหาย ซึ่งยากที่จะประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงต้องร่วมมือกัน ตั้งแต่หน่วยงานของรัฐ จนถึงประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น
อ้างอิง
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
