6 ต.ค. เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

📌 หลักการ 'แทงสวน' เพื่อพลิกเกมทำกำไรในวันที่ตลาดพัง!

ตอนนี้ตลาดหุ้นกำลังทำ All-Time Highs หลายคนกำลังบอกคุณว่าตลาดไม่มีทางลง ทุกคนรอบตัวคุณกำลังรวยจากหุ้น AI และความรู้สึก FOMO (กลัวตกรถ) มันรุนแรงจนแทบจะทำให้คุณเอาเงินเก็บทั้งชีวิตไปโยนใส่ตลาด นี่คือภาพของภาวะกระทิงที่สมบูรณ์แบบที่สุด และในมุมมองของนักลงทุนสวนกระแส (Contrarian) มันคือสัญญาณเตือนภัยที่ดังที่สุดเช่นกัน
Tom Nash นักวิเคราะห์ผู้ไม่เคยเกรงกลัวในการพูดความจริง ได้ส่งคำเตือนเร่งด่วนออกมาว่า เขาไม่ใช่ผู้ทำนายอนาคต แต่ในฐานะผู้อ่านประวัติศาสตร์ เขาชี้ให้เห็นว่า ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และทางรอดเดียวของผู้ที่ไม่อยากถูกทิ้งให้ต้องติดดอย คือการมีวินัยที่จะคิดและทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าทำ
----------
🟢 บทเรียนง่าย ๆ จากคนเลี้ยงหมู
เพื่อที่จะเข้าใจสภาวะตลาดที่ซับซ้อนในปัจจุบัน Nash ชวนเราย้อนกลับไปยังเรื่องเล่าจากปี 1978 ของเกษตรกรผู้หนึ่งชื่อว่า Mr. Wulmarmac เขาเป็นบุคคลที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับวอลล์สตรีทเลย แต่กลับเป็นเจ้าของสถิติที่ไม่เคยขาดทุนในตลาดหุ้นเลยแม้แต่ปีเดียว เมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับอันน่าทึ่งของเขา คำตอบที่ได้รับกลับเรียบง่ายจนน่าตกใจ มันไม่ใช่สูตรการลงทุนที่ซับซ้อน แต่เป็นปรัชญาที่หยั่งรากลึกในหลักการของการทำสวนทางกับอารมณ์ของผู้คน
"ความลับทั้งหมดของเขาคือ เขาซื้อบริษัทที่ดีในตลาดที่แย่ เมื่อทุกคนกำลังขาย และขายเมื่อทุกคนกำลังตื่นเต้นและเกิดภาวะ FOMO (Fear of Missing Out) เมื่อทุกคนกำลังซื้อของในราคาที่สูงลิ่ว และสื่อต่าง ๆ พากันตะโกนว่าตลาดหุ้นไม่มีทางลงไปได้ เขาทำตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตลาดโดยสิ้นเชิง" Nash เล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำแนะนำ แต่คือหลักการของแนวคิดสวนกระแสที่สมบูรณ์แบบ มันเผยให้เห็นว่าหัวใจของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการคาดการณ์ แต่อยู่ที่ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเอง และกล้าที่จะเดินออกจากฝูงชนในจังหวะที่สำคัญที่สุด นั่นคือซื้อเมื่อคนอื่นกลัว และขายเมื่อคนอื่นโลภ
----------
🟢 สัญญาณเตือนในปี 2025 จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
ด้วยวิธีคิดนี้ Nash ชี้ให้เห็นถึง "เสียงกระซิบ" จากข้อมูลในอดีตที่กำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนนี้ เขาย้ำว่านี่ไม่ใช่การการันตีว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่มันคือตัวชี้วัดที่นักลงทุนผู้มีสติจะเพิกเฉยไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเลขหนึ่งมีความคล้ายคลึงกับอดีตอย่างน่าขนลุก
"ครั้งที่เราขึ้นไปเหนือระดับ 40 (ในอัตราส่วน Shiller P/E) ก็คือช่วงวิกฤตดอทคอม ดังนั้น ในประวัติศาสตร์ มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่เราขึ้นไปเหนือ 40 คือช่วงวิกฤตดอทคอมและครั้งนี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้รับประกันว่าเรากำลังจะเจอกับวิกฤตดอทคอมอีกครั้ง แต่มันเป็นตัวชี้วัดที่ควรให้ความสนใจ"
คำพูดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง มันคือการเทียบเคียงสภาวะตลาดปัจจุบันกับหนึ่งในช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในประวัติศาสตร์การลงทุน Nash ไม่ได้กำลังสร้างความตื่นตระหนก แต่กำลังเตือนเราให้ฉุกคิดและตั้งคำถามต่อความเชื่อมั่นที่ว่า "ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม" จริงหรือ?
การที่ตลาดมีราคาแพงถึงระดับนี้ บ่งชี้ว่าความคาดหวังในอนาคตได้ถูกดึงมาใช้จนเกือบหมดแล้ว และช่องว่างสำหรับความผิดพลาดนั้นเหลือน้อยเต็มที
----------
🟢 ตลาดพังคือเรื่องปกติ ไม่ใช่ข้อผิดพลาด
ความกลัวว่าตลาดจะพัง คือตัวการสำคัญที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ตัดสินใจพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ Tom Nash ได้เสนอแนวคิดที่ทรงพลังเพื่อชวนให้เรามองคำว่า 'วิกฤต' ในมุมใหม่ทั้งหมดว่า
"ตลาดล่มเป็นเรื่องปกติเพราะมันคือ 'คุณสมบัติ' ของตลาด ไม่ใช่ 'ข้อผิดพลาด' ของระบบ มันไม่ได้หมายความว่าตลาดกำลังพังทลาย การล่มของตลาดเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง และมันจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก"
การเปลี่ยนวิธีคิดในเรื่องนี้สำคัญมาก มันทำให้เราเลิกมองว่า 'วิกฤต' เป็นเรื่องน่ากลัว แต่เริ่มมองว่ามันเป็นแค่วงจรปกติของตลาดที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เหมือนฤดูกาล พอเราเข้าใจแบบนี้ เราจะไม่เห็นว่ามันเป็นภัยคุกคาม แต่จะเห็นเป็น 'โอกาส' ที่จะได้ซื้อของดีในราคาถูกตอนที่คนอื่นกำลังกลัว
----------
🟢 การลงทุนสวนกระแส คือการตัดสินใจโดยใช้วินัย ไม่ใช่อารมณ์
เมื่อเข้าใจหลักการทั้งหมดแล้ว คำถามต่อมาคือ เราจะนำมันมาปฏิบัติจริงได้อย่างไร? Nash ได้เสนอระบบการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ถูกออกแบบมาเพื่อบังคับให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติ เป็นระบบที่สร้างวินัยให้เราทำสวนทางกับอารมณ์ของตัวเองและของตลาด
ระบบดังกล่าวไม่ได้ซับซ้อน มันคือการลงทุนอย่างสม่ำเสมอในสภาวะปกติ และเพิ่มการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ (เช่น จาก 50% เป็น 150% ของเงินลงทุนปกติ) ในช่วงเวลาที่ตลาดปรับฐานลงอย่างรุนแรง (เช่น -20%) แต่สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่าระบบนี้จะได้ผลในระยะยาว มาจากสถิติที่ไม่เคยโกหกใคร
"สถิติในอดีตได้พิสูจน์ความจริงข้อนี้ว่าในแต่ละปี ตลาดหุ้นมีโอกาสถึง 75% ที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก พอเราขยายเวลาออกไปมองในรอบ 10 ปี โอกาสนั้นก็เพิ่มสูงขึ้นเป็น 90% และที่สำคัญที่สุดคือ ในทุก ๆ ช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรือคิดเป็น 100% เต็ม ซึ่งทั้งหมดนี้ยืนยันหลักการง่าย ๆ ว่า ยิ่งคุณอดทนอยู่ในตลาดได้นานพอ โอกาสทำกำไรก็จะยิ่งเข้าใกล้คำว่าแน่นอนมากขึ้นเท่านั้น"
ตัวเลขเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้เราทำตามแผนต่อไปได้แม้ในยามวิกฤต เพราะมันคือข้อพิสูจน์ว่า ไม่ว่าตลาดจะตกต่ำแค่ไหน สุดท้ายมันจะฟื้นตัวกลับมาได้เสมอ และสิ่งที่ Tom Nash เตือน ไม่ได้หมายความว่าให้คุณเทขายทุกอย่างหนีตลาด แต่เขาบอกให้คุณมี 'แผนการ' ที่ดีและ 'วิธีคิด' ที่ถูกต้องเพื่อรับมือกับมัน เพราะความรวยในระยะยาวไม่ได้มาจากการซื้อตามคนอื่นตอนตลาดดี ๆ แต่มาจากการกล้าซื้อสวนคนอื่นในตอนที่ตลาดกำลังย่ำแย่ที่สุด
----------
หากคุณยังรู้สึกว่ามีคำถามที่ต้องการคำตอบที่ลึกกว่านี้ หรืออยากสัมผัสวิธีคิดของ Tom Nash แบบสด ๆ เพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนครั้งใหญ่ Tom Nash จะมาร่วมแชร์มุมมองแบบเจาะลึก ผ่าน Live Call ส่งตรงถึงประเทศไทยในงาน FollowTheFuture2025 งานรวมตัวนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญแห่งปี จัดที่ True Digital Park Grand Hall ในวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 9:00 - 19:00 น.
คลิกดูรายละเอียดในคอมเมนต์ได้เลย!👇
#FollowTheMoney #TomNash #การลงทุนสวนกระแส #ตลาดหุ้น #จิตวิทยาการลงทุน #FollowTheFuture2025
โฆษณา