6 ต.ค. เวลา 16:56 • ความคิดเห็น
คำถามเข้าใจยาก
ลองตอบตามความเข้าใจคำถามละกัน
-----โดยสรุป ------
มนุษย์มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้สัญชาตญาณ​สัตว์ที่มีอยู่ใมนุษย์​แสดงออกต่อกันจนเกินขอบเขต
ไม่เช่นนั้นถ้าไม่สูญพันธุ์​ ชุมชนก็แตกแยกกระจัดกระจาย
-----โดยขยายความ----
ธรรมชาติมนุษย์​ถูกสร้างมาให้มีหน้าที่
ถ้ามนุษย์​อยู่คนเดียวได้
ก็ไม่ต้องจัดสรรอะไร
ถ้ามนุษย์อยู่กับคนอื่นโดยไม่ยุ่งกับใครได้
ก็ไม่ต้องจัดสรรอะไรกับใคร
แต่ธรรมชาติไม่ได้สร้างมนุษย์
มาให้โดดเดี่ยว
มนุษย์​มากกว่าหนึ่ง
เมื่อมาอยู่ร่วมกัน
จะเกิดความรู้สึก
ถึงการถูกแบ่งทรัพยากรเสมอ
อากาศ น้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย
ทัศนียภาพ บรรยากาศ
ความคิด ความรู้สึกอันตราย/ปลอดภัย etc
ทำให้เกิดอารมณ์​ความชอบไม่ชอบโกรธเกลียดรักโลภโกรธหลง
อยากเบียดเบียนทางดีและ
ร้ายต่อกันตามมา
ตามธรรมชาติ
ตามเหตุผลที่สร้างขึ้นภายหลัง
จึงต้องมีศิลปในการจัดสรร
จัดการความสัมพันธ์​ของมนุษย​์
เพื่อการขยายพันธุ์​และ
ป้องกันการสูญพันธุ์​
ตามสัญชาติญาณสัตว์
จารีตระเบียบประเพณี
ค่านิยมความเชื่อลัทธิ
ศาสนาตามแต่ละสังคม
ชุมชนจะกำหนด
ก็เกิดขึ้นตามมาเป็นธรรมดา
เป็นธรรมชาติ เป็นของกลาง
เปิดโอกาสให้มนุษย์​ที่มี
ความสามารถในการสื่อสาร
นำของกลางนี้ไปใช้บริหาร
ความสัมพันธ์​ในชุมชน
จะเรียกมนุษย์​กลุ่มนี้ว่า
ผู้นำจิตวิญญาณ​ เจ้าลัทธิ
ศาสดา กษัตริย์​ หัวหน้าเผ่า
พ่อมด พ่อหมอ ท่านผู้นำ
ก็แค่ชื่อเรียก มนุษย์​กลุ่มนี้
ก็มีหน้าที่บริหารจัดการ
เพื่อรักษาสภาพชุมชุน
คนในชุมชนก็ย่อมมีหน้าที่ปฏิบัติตาม
ไม่ก็ต้องออกจากชุมชนเดิม
ไปสร้างชุมชนใหม่
หรือแสวงหาชุมชนอื่น
ตามแต่ที่ตนชอบใจ
ถ้าต่างไม่ทำหน้าที่ของตน
ชุมชนก็ตั้งอยู่ไม่นาน
เพราะความโกลาหล
แตกแยกตามใจตัว
ตามสัญชาตญาณ​สัตว์
ในแต่ละคนจะแสดงออกมา
1
โฆษณา