เมื่อวาน เวลา 01:42 • ความคิดเห็น
การ "ยึดมั่น" ดีไหมครับ ?
คำถามนี้ถูกลบ
เรื่องหนื่ีง ที่เราฝึกหัด ปฏิบัติธรรม นำกายบิดามารดาที่จิตอาศัย มานั่ง พับเพียบ บอกตัวเอง กายนิ่ง จิตเฉย ..ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร จิตภาวนาพุทโธขึ้นมา ไม่นึกคิดอะไร เมื่อกายนิ่ง จิตนิ่ง หากมีเวทนา อะไรเกิดขึ้น มดกัดยุงกัด นั่นก็คือ อารมณ์ ..ก็ไม่ต้องไปยึด เจ็บปวดก็อดทนไว้ ให้ภาวนาพุทโธ ทำกายให้นิ่ง จิตเฉย..ปล่อยวางไปด้วยความขันติของจิตตัวเอง พอฝึกหัดทำมากเข้า ..จิตก็จะตื่นขึ้นมาทำงาน ..ไม่ไปหลงใหลเชื่อ อารมณ์ จะรู้จักกรรมขึ้นมา รู้จักบุญกุศล
เรื่องกายนิ่ง จิตเฉย ..พระอานนท์ เล่าว่า พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ ทำให้ดู ..พอพระพุทธเจ้า ท่านเปล่งวาจา ว่ากายนิ่ง . พระวรกายท่านแข็งเป็นเสา เป็นก้อนหินไปเลย พระอานนท์ก็ได้ดู สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านทำให้ดู แล้วท่านก็ไปฝึดหัด จนกายนิ่ง จิตนิ่งได้
เมื่อพระอานนท์ทำได้ พระพุทธเจ้าก็ชวนพระอานนท์ ขึ้นไปดูนางฟ้า แล้วพระอานนท์ ก็บรรลุธรรม ที่ชั้นดาวดึงส์ .. ท่านบอกว่า ให้ฝึกหัดไป แล้วจะมาเล่าเรื่อง การทำกายให้เป็นแก้ว นั่นท่านทำอย่างไร . นี่ที่เล่ามาอย่าเชื่อ ต้องไปลงมือฝึกหัด ทำขึ้นมา .นั่นแหละ คือ ธรรมขององค์พระสัมสัมพุทธเจ้า
อย่าไปแค่รู้ธรรม เป็นแค่รู้จดจำ มีอะไรก็..พูดได้ ..ปล่อยวางๆ อยู่ร่ำไป แต่กายที่จิตอาศัยมีแต่อารมณ์ปรุวแต่ง เมื่อไม่ลงมือทำขึ้นมา .มันไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการรู้แบบนั้น รู้แล้ว ก็ลงมือ ลงแรง นั่งพับเพียบ ปฏิบัติธรรมภาวนาขึ้นมา ..เราจะค่อย..รู้จักจิตของตัวเอง รู้จักสร้างจิต ให้มีธรรม .ที่ช่วยหนุนนำ ให้การเกิดแก่เจ็บตายน้อยลงไป
เรื่องราวของความยึดถือ จิตของคนเรานั้น อารมณ์อยู่เหนือจิต จิตอยู่ในอำนาจ เชื่ออารมณ์ .เราไม่สามารถ แยกจิต ออกจากอารมณ์ได้ แล้วในอารมณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไปดึงไปสร้าง ตัวกระทำขึ้นมา ดึงจิต ดูดจิต ให้ทำไปตาม สิ่งที่เค้าเรียกว่า อารมณ์กรรมตัวกระทำ แล้วทั้งชีวิตจิตที่อาศัยกาย ก็ใช้ในสิ่งที่ว่า ปรุงแต่งอารมณ์กรรมตัวกระทำ ที่เกิดขึ้น ไปตลอดชีวิต
เบื้องหลังของอารมณ์นั้นก็คือ กรรม ..การที่จะปลดเปลื้องอารมณ์กรรม ออกไปจากกาย ที่จิตอาศัย ยึดกักขังในกาย นั่น กายนั้นถูกปรุงแต่งตลอดเวลา การจะทำให้จิตที่อาศัยกาย ไม่ไปยึด ..ก็อาศัยรอยทั้งสี่ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่งกายนิ่ง จิตนิ่ง
..สิ่งที่ทำให้จิตไม่นิ่ง ก็คือ อารมณ์ที่จิตนั้นยึดถืออยู่ ต้องนั่งพับเพียบน่ะ เมื่อไปนำกายมานั่งในรอยทั้งสี่ ต้องนอบน้อม . อย่าไปนึกคิดอะไร นั่งพับเพียบ กายตรง เป็นหุ่น ไม่มีอารมณ์ .กายนิ่ง จิตนิ่ง ทำให้ได้ ..ไม่ยากเลย ง่ายนิดเดียวเอง นอกนั่นยากหมด .เพราะจิตมันยึดอารมณ์ปรุงแต่ง ก็ต้องขยันหมั่นเพียร ทำกายนิ่ง จิตเฉย ทำไปเรื่อยๆ จิตก็จะเข้มแข็งขึ้นมา .ฝึกหัดทำ.. ทำไปเพื่อปลดเปลื้อง อารมณ์กรรม ตัวกระทำ
มีพระที่ท่านทำได้ ท่านยืนสมาธิ กายนิ่ง จิตนิ่ง มือประสานที่เหนือ สะดือ ยืนครั้งหนึ่ง จากหกโมงเย็น ไปออกอีกทีตอนเที่ยงคืน ท่านเล่าให้ฟังว่า ฉันจะยืนเป็นวันก็ได้ แต่เกรงใจ เพื่อนที่ปฏิบัติธรรม ..แล้วท่านก็บอกว่า ฉันฝึกมาไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว แล้วเราก็ได้เรียนรู้จากท่าน ในเรื่องราวที่ท่านทำให้ดู เป็นตัวอย่าง .ในเรื่องของกายที่เจ็บป่วย เรื่องราวขันติบารมี แม้การผ่าตัด เพิ่งดามเหล็กที่กระดูกสันหลัง ผ่าตัดได้วันเดียว ท่านก็ลุกขึ้นมา ฉันข้าว ทำให้เราดู นั่นคือ ผู้ที่ทำได้ .ปลดเปลื้องอารมณ์ตัวกระทำได้
ครั้งหนึ่ง พยาบาลสองคนวุ่นวาย ใส่หูฟัง ตรวจชีพจร พูดว่า หัวใจไม่เต้นๆ บังเอิญ เราเดินมาทร่เตียงท่านพอดี เห็นกิริยาที่นอน มือที่ท่าวาง .. เราก็บอกให้พยาบาล ถอยออกไป .อย่าไปรบกวนท่าน ..เวลาเข้าสมาธิลึก ลมหายใจ ก็เบาบางมาก เหมือนหยุด แต่ไม่หยุด ท่านเคยบอกว่า วิธีตรวจสอบ ก็ให้ใช้สำลี ตรวจสอบ ดูลมที่เข้าออก สำลีจะไหวนิดๆ
เมื่อท่านมรณะภาพ เราก็ว่าไม่ยึด มีพระที่ท่านเก็บอัฐิธาตุของท่าน ส่งมาให้เรา เราก็นำม่าใส่ผอบวาง ไว้หน้าพระ พอผ่านไปสองสามปี ในผอบนั้น เมื่อเปิดมาดู กลายเป็นสำลี ก็ยังนึกว่าใครเอาสำลีมาใส่ ก็ค่อยดู .ว่าใช่ อัฐิที่เก็บไว้มั้ย ก็สังเกตดู .ร่องรอยที่พอจำได้ ก็อัฐิของหลวงตา ..เป็นสำลีไปแล้ว นั่นก็เรื่องราวหนึ่ง ที่เค้าเรียกว่า ฟอกกาย หอกจิต ปฏิบัติธรรมไปตามรอยของพระศาสดา
ที่เค้า ทำกัน ..เค้าก็ทำไปจนเห็น รู้จักอารมณ์ รู้จักตัวกระทำ . ว่าสิ่งเหล่านี้ มันทำให้เกิดกรรมขึ้นมาอย่างไร ที่ว่า ปล่อยวาง พูดง่ายมากๆ แต่ทำยาก ..ลองทำดู นั่งกายนิ่ง จิตนิ่ง ..แล้วก็สำรวจตรวจสอบตัวเอง ..
เรื่อวของสมาธิ กายนิ่ง จิตนิ่ง มองดู คล้ายสมาธิฤาษี ..ที่ต้องการ อยากได้ อิทธิฤทธิ์ อะไรต่างๆ แต่สมาธิขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่น เป็นที่คัดเอ้าท์ กรรม อะไรเกิดมาก็ไม่ยึด มีแต่ ตัดให้ขาด สิ่งที่เกิดขึ้นมา นั่นคือ กรรม หากไปนึดก็ต้อง มาเกิดแก่เจ็บตายอีก .มีแต่ทำกาย จิตให้บริสุทธิ์ขึ้นมา
หากจะว่า ทุกข์ ทุกข์ก็ให้ถึงที่สุดของทุกข์ เหมือที่พระกัสสปะ ท่านทำมา จนทุกข์นัน ไม่เกิดขึ้นมาอีก กายก็นิ่ง จิตก็นิ่ง เหมือนวัตถุสิ่งของ ตั้งอยู่..เป็นเรื่องของผู้ที่มีปัญญาธรรม จึงสามารถกระทำได้ ส่วนสมาธิฤาษี .นั่น ไม่สามรถรู้จักอารมณ์กรรมตัวกระทำได้ ไม่สามารถปลดเปลื้องอารมณ์ได้ ..
เรื่องความยึดถือ หลวงตาที่นับถือ เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ท่านก็ชี้ ให้ดูคนป่วย เตียงนั้นเตียงนี้ สีเวรกรรม ที่เกิดแสดงออกมา มีอยู่เตียงหนึ่ว เปเจ้าคณะตำบล ถือศีลเคร่งครัดมาก ผู้หญิงถูกเนื้อต้องตัว ไม่ได้ ..ก็เข้ามาโรงพยาบาล นอนป่วย .ปัสสาวะไม่ได้ คราวนี้ใครช่วยละ บุรุษพยาบาลไม่มีเสียด้วย โอ้ย ..ถึงคราวผู้หญิง ถูกเนื้อต้องตัว ..ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวเปล่า .เค้าจับตรงนั้น ดึงออกมา ก็เสียบสายยาง เข้าไป .. โอ้ว ..ที่ว่ายึดถือมานาน ..หมดกันคราวนี้ ..
โฆษณา