7 ต.ค. เวลา 11:36 • ข่าวรอบโลก

⚔️ “สงครามคลื่นไกล” - ทรัมป์ไฟเขียว Tomahawk ให้ยูเครน

“Long-Range Decision: Trump Says Yes To Tomahawks For Ukraine”
🌍 บทเปิดฉาก - ลมหายใจใหม่ของสงครามเก่า
ค่ำคืนวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2025 ทำเนียบขาวกลับมาเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนทางการทูตอีกครั้ง เมื่อ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า “เขาได้ตัดสินใจส่งมิสไซล์ Tomahawk ให้ยูเครนแล้ว”
แม้เขาจะย้ำว่า “ไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลาย” แต่การตัดสินใจนี้ถือเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ “สงครามระยะไกล” ที่อาจเปลี่ยนทั้งยุทธศาสตร์ในสนามรบ และภูมิการเมืองของโลกไปพร้อมกัน
💣 เส้นบางๆ ระหว่างการป้องกันกับการยั่วยุ
Tomahawk คือมิสไซล์พิสัยไกลที่มีระยะยิงกว่า 2,500 กิโลเมตร หรือพอจะ “แตะถึงมอสโก” ได้ในทางเทคนิค มันจึงไม่ใช่แค่การช่วยเหลือทางทหารธรรมดา แต่คือ “สัญญาณเตือน” ว่าสหรัฐฯ พร้อมจะยกระดับเกม
ขณะเดียวกัน Vladimir Putin ผู้นำรัสเซีย ออกมาเตือนทันทีว่า “หากยูเครนใช้ Tomahawk กับเป้าหมายพลเรือน การตอบโต้ของรัสเซียจะ ‘รุนแรงและไม่จำกัด’” พร้อมตั้งคำถามว่า “ใครคือคนยิงจริง — ยูเครน หรือกองกำลังอเมริกันที่อยู่แนวหน้า”
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่การส่งอาวุธ แต่คือการส่ง “ข้อความ” ทางภูมิรัฐศาสตร์ว่า สหรัฐฯ จะไม่ถอย
⚙️ มิติทางเศรษฐกิจโลก - เส้นเลือดพลังงานและโลจิสติกส์เริ่มสั่น
ทุกครั้งที่ข่าวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียปะทุ ตลาดพลังงานคือแนวหน้าที่สั่นสะเทือนก่อนใคร ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI มักจะปรับขึ้นทันทีจากความกังวลด้านอุปทาน ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า เพราะนักลงทุนหันหาสินทรัพย์ปลอดภัย
โลกเริ่มเห็นสัญญาณการ “หันเหห่วงโซ่พลังงาน” อีกครั้ง เมื่อยุโรปอาจกลับมาเร่งซื้อ LNG จากสหรัฐฯ และตะวันออกกลาง ซึ่งทำให้ต้นทุนพลังงานในเอเชีย รวมถึงไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะสั้น
1
🇹🇭 Ripple Effect ถึงไทย - แรงสะเทือนจากขีปนาวุธ
แม้ไทยจะอยู่ห่างจากสมรภูมิหลายพันกิโลเมตร แต่แรงสั่นจาก “สงครามเชิงสัญลักษณ์” ครั้งนี้สะท้อนถึง 3 ด้านสำคัญ
🔹 ด้านเศรษฐกิจมหภาค
ราคาน้ำมันที่ผันผวนจะดันต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งในประเทศให้สูงขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทอาจอ่อนลงตามแรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
🔹 ด้านการลงทุนและตลาดทุน
นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีสัดส่วนพลังงานและอุตสาหกรรมสูง
🔹 ด้านความมั่นคงและการทูต
ไทยในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจทั้งกับสหรัฐฯ และจีน อาจต้องรักษาสมดุลระหว่าง 2 ขั้วมหาอำนาจมากขึ้น
📈 ผลต่อหุ้นไทย - สัญญาณหลายทิศใน SET และ mai
เมื่อสงครามเริ่มสั่นสะเทือนผ่านราคาพลังงาน โลจิสติกส์ และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ตลาดหุ้นไทยจึงมี “ผู้ได้” และ “ผู้เสีย” ในเวลาเดียวกัน
✨ หุ้นที่อาจได้แรงบวกระยะสั้น
⚡ PTT (ปตท.) และ PTTEP (ปตท.สผ.) - ได้แรงหนุนโดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น
🚢 PRM (พริมา มารีน) และ BANPU (บ้านปู) - อานิสงส์จากค่าระวางและความต้องการพลังงานทดแทนเพิ่ม
🛡 AOT (ท่าอากาศยานไทย) และ BA (การบินกรุงเทพ) - อาจได้รับแรงเก็งกำไรจากแนวโน้มการฟื้นตัวของการเดินทางในภูมิภาคที่ต้องการเส้นทางปลอดภัย
🌧 หุ้นที่อาจถูกกดดัน
🏭 SCGP (เอสซีจี แพคเกจจิ้ง) และ TOP (ไทยออยล์) - ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นอาจกดกำไรขั้นต้น
🚚 DMT (ทางยกระดับดอนเมือง) - หากราคาพลังงานสูงต่อเนื่อง อาจกระทบการเดินทางของผู้ใช้ทางด่วนและปริมาณรถผ่านทาง
📦 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) และ III (ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์) - อาจเผชิญต้นทุนขนส่งระหว่างประเทศที่สูงขึ้นจากความไม่แน่นอนของเส้นทางเดินเรือ
🔮 มุมมองระยะยาว - จุดเริ่มต้นของ “สงครามเทคโนโลยีทางทหาร”
การตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้อาจเป็นเพียง “ตอนแรก” ของซีรีส์ยุทธศาสตร์ใหม่ ที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคของ “AI-Driven Warfare” หรือสงครามที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตั้งแต่ระบบป้องกันอัตโนมัติ ไปจนถึงโดรนยุทธวิธีที่เรียนรู้เองได้
ประเทศในเอเชีย รวมถึงไทย จึงควรเริ่มเตรียมรับมือกับ “การเปลี่ยนผ่านทางทหารและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี” ที่จะซึมเข้าสู่ภาคพลังงาน โลจิสติกส์และอุตสาหกรรมผลิตอาวุธในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
💬 WorldScope Viewpoint
โลกกำลังเดินเข้าสู่จุดที่ “อาวุธระยะไกล” อาจกำหนด “เศรษฐกิจระยะสั้น” และ “สมดุลโลกระยะยาว” ในเวลาเดียวกัน
คุณคิดอย่างไรกับการตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้ - เป็นจุดเริ่มของความมั่นคง หรือชนวนของความปั่นป่วนรอบใหม่?
ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองของคุณกับเราในซีรีส์ WorldScope กันนะคะ 🌏
🔖 Hashtags
#WorldScope #ArmedWorldOrder #Tomahawk #UkraineConflict #USPolicy #Russia #Geopolitics #SecurityDynamics #EnergyRisk #ThaiMarkets #StockAtlas #GlobMaps
🧷 Reference: News Arena India - Trump Says He Has Decided To Send Tomahawks To Ukraine

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา