[WorldScope] 🏆 ทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ - สะท้อนความไม่แน่นอนทั่วโลก จุดเปลี่ยนศรัทธาเศรษฐกิจโลก Gold Surges Past $4,000 An Ounce As Uncertainty Fuels Rally

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

WorldScope

•

8 ต.ค. เวลา 06:27 • ข่าวรอบโลก

🏆 ทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ - สะท้อนความไม่แน่นอนทั่วโลก จุดเปลี่ยนศรัทธาเศรษฐกิจโลก

Gold Surges Past $4,000 An Ounce As Uncertainty Fuels Rally

💫 เมื่อ “ความกลัว” กลายเป็นแรงขับเคลื่อนการลงทุน

ราคาทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกเร่งหาที่หลบภัยจากพายุเศรษฐกิจและการเมืองที่กำลังก่อตัวรอบโลก ตั้งแต่ความขัดแย้งทางการค้า การชะงักของข้อมูลเศรษฐกิจ ไปจนถึงภาวะ “Government Shutdown” ในสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2

ทองคำกลับมามีบทบาทสำคัญในฐานะ “Safe Haven” หรือทรัพย์สินที่คงมูลค่าได้แม้เศรษฐกิจสั่นคลอน คล้ายภาพซ้ำของยุค 1970s ที่ทองคำกลายเป็นสัญลักษณ์ของความกลัวต่อเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการเมือง

🔥 แรงผลักจากทำเนียบขาว - ทรัมป์ จุดไฟทองคำ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือปัจจัยเร่งที่ทำให้ทองคำกลับมาร้อนแรง หลังประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสั่นคลอนเสถียรภาพการค้าโลก ขณะเดียวกันเขายังออกโรงกดดันธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด และพยายามปลดผู้ว่าการ Fed บางรายออกจากตำแหน่ง

คำถามใหญ่คือ - “ทองคำกำลังสะท้อนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ หรือกำลังสะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อผู้นำโลก?”

ตลาดดูเหมือนเลือกคำตอบข้อหลัง เพราะการไหลเข้าของเงินทุนกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ใน Gold ETFs ปีนี้ บ่งชี้ว่านักลงทุนกำลัง “หนีจากระบบ” มากกว่า “ลงทุนในระบบ”

📈 แรงซื้อจากคนธรรมดา - เมื่อทองไม่ใช่ของคนรวยเท่านั้น

สิ่งที่ทำให้การพุ่งขึ้นของทองคำครั้งนี้ต่างจากรอบก่อน คือ “นักลงทุนรายย่อย” ที่เข้ามามีบทบาทอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงกองทุนหรือธนาคารขนาดใหญ่ แต่รวมถึงคนทั่วไปที่มองว่าทองคือที่พักใจในยุคที่หุ้นและเงินตราแกว่งแรง

Gregor Gregersen จาก Silver Bullion เผยว่าจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปีเดียว โดยส่วนใหญ่ถือทองระยะยาวเฉลี่ยมากกว่า 4 ปี เขาเชื่อว่าราคาทองจะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่ออีกอย่างน้อย 5 ปี

⚖️ เมื่อทองคำคือกระจกสะท้อน “ความเชื่อมั่นในระบบโลก”

ทองคำไม่ใช่แค่เครื่องมือการลงทุน แต่เป็น “ตัววัดความเชื่อมั่นของมนุษย์ต่อโลก” ในยามที่ตลาดเงิน ตลาดหุ้น และรัฐบาลต่างๆ ไม่อาจสร้างความมั่นใจได้อีกต่อไป

ราคาทองที่ทะลุ 4,000 ดอลลาร์อาจไม่ใช่เพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่คือ “สัญญาณทางจิตวิทยา” ของการสูญเสียความไว้วางใจในระบบเดิม

อย่างไรก็ตาม หากการปิดหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ สิ้นสุดเร็วกว่าที่ตลาดคาด ราคาทองอาจย่อตัวลงชั่วคราว เพราะความกลัวในตลาดจะคลายตัว

💰 Ripple Effect สะเทือนถึงไทย - ใครได้ ใครเสีย?

🔸 ทองคำไทย

ความร้อนแรงของราคาทองคำทะยานเกิน 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลก และส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจในไทยอย่าง MTC (เมืองไทย แคปปิตอล) ที่มีสินเชื่อค้ำด้วยทองคำ ขณะเดียวกัน KGI (หลักทรัพย์ เคจีไอ) ได้แรงหนุนจากการเก็งกำไรในกองทุนและอนุพันธ์ทองคำ ส่วน TIPH (ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) อาจได้รับผลดีทางอ้อมจากกระแสความต้องการประกันและการออมระยะยาวที่เพิ่มขึ้นในภาวะเศรษฐกิจผันผวน

🔸 กลุ่มค้าปลีกเครื่องประดับ

ราคาทองคำที่พุ่งสูงต่อเนื่องส่งผลบวกต่อกลุ่มค้าปลีกเครื่องประดับ โดยเฉพาะ PDJ (แพรนด้า จิวเวลรี่) ผู้ส่งออกทองและเงินรายใหญ่ ซึ่งแม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่มูลค่าสินค้าคงคลังทองคำเพิ่มขึ้นทันที หนุนฐานะทางการเงินให้แข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกัน SABINA (ซาบีน่า) ได้อานิสงส์จากกระแส “Luxury Spending” ที่กลับมาคึกคัก เพราะเมื่อราคาทองพุ่ง มูลค่าทรัพย์สินผู้บริโภคมีกำลังซื้อก็เพิ่มขึ้น ทำให้การใช้จ่ายในสินค้าหรูและจิวเวลรี่เติบโตอีกระลอก

🔸 กลุ่มธนาคารและสินเชื่อ

ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอาจทำให้เม็ดเงินไหลออกจากหุ้นและฝากธนาคารไปอยู่ในทองคำ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสภาพคล่องในตลาดทุนชั่วคราว แต่ในระยะกลางธนาคารพาณิชย์อย่าง KBANK (ธนาคารกสิกรไทย) และ SCB (เอสซีบี เอกซ์) อาจใช้โอกาสนี้เพิ่มผลิตภัณฑ์อิงทอง เช่น กองทุนทองคำหรือสินเชื่อจำนำทอง เพื่อดึงลูกค้ากลับมา

🔸 หุ้นเหมืองแร่และโลหะมีค่า

แรงซื้อทองคำที่พุ่งสูงส่งแรงกระเพื่อมสู่หุ้นกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ TYCN (ไทยคูน เวิลด์ไวด์ กรุ๊ป), TMT (ทีเอ็มที สตีล) และ MCS (เอ็ม.ซี.เอส.สตีล) ที่อยู่ในห่วงโซ่เหล็กและวัสดุอุตสาหกรรม ซึ่งมักได้แรงเก็งกำไรตามราคาทอง เงิน และทองแดงที่ขยับขึ้นพร้อมกัน ขณะเดียวกัน BANPU (บ้านปู) ก็ได้แรงหนุนทางจิตวิทยาจากกระแส “Commodity Rally” แม้ไม่เกี่ยวทองโดยตรงแต่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับวัฏจักรเงินเฟ้อ

🌏 มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในภาพใหญ่

การที่ทองคำพุ่งสูงมากสะท้อนว่าตลาดโลกกำลัง “ตั้งรับ” มากกว่าจะ “รุก” ซึ่งหมายความว่าความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลกเริ่มสั่นคลอน สำหรับไทยสิ่งที่ต้องระวังคือการไหลออกของเงินทุนต่างชาติจากตลาดหุ้นไปสู่ทองคำหรือสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยที่เน้นระยะยาวสามารถทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีในช่วงที่ราคาปรับตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ท่องเที่ยว และขนส่ง ที่ยังมีกำไรต่อเนื่องและได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน

💡 บทส่งท้าย: เมื่อทองคำเปล่งประกายในยามโลกมืด

ทองคำในปีนี้อาจไม่ได้สะท้อนเพียง “มูลค่า” แต่คือ “ความรู้สึก” ของมนุษย์ต่อความไม่แน่นอนที่ปกคลุมโลก หากทองคำคือกระจกสะท้อนความกลัว ก็อาจถึงเวลาที่เราต้องถามตัวเองว่า…สิ่งที่เรากลัวจริงๆ คือ “เศรษฐกิจถดถอย” หรือ “ความจริงของระบบที่เปราะบาง” กันแน่

✨ แล้วคุณล่ะ…มองการพุ่งขึ้นของทองคำครั้งนี้ว่าเป็น “สัญญาณเตือน” หรือ “โอกาสทอง” ของยุคใหม่?

มาแบ่งมุมมองกันในคอมเมนต์ด้านล่างกันนะคะ ว่าทองคำ 4,000 ดอลลาร์ครั้งนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหนในสายตาของคุณ

🏷️ Hashtags:

#WorldScope #ศึกโลกเศรษฐกิจ #Gold #SafeHaven #GovernmentShutdownUS #Tariffs #Fed #ETF #Inflation #GlobalMarkets #Macro #StockAtlas #GlobMaps

🔗 Reference: BBC News

https://www.bbc.com/news/articles/c8ex3wgjlexo

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

ศึกโลกเศรษฐกิจ (Battle of Economies)

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

🏆 ทองคำพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ - สะท้อนความไม่แน่นอนทั่วโลก จุดเปลี่ยนศรัทธาเศรษฐกิจโลก

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน