Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเรื่องสั้น
•
ติดตาม
10 ต.ค. เวลา 04:07 • นิยาย เรื่องสั้น
พินัยกรรมแห่งไร่หนาว
(เรื่องสั้นแนวลึกลับ–จิตวิทยา–มรดก–คำสาป)
ลมหนาวต้นฤดูพัดเฉือนใบหน้า “ตั้ม” ขณะเขาขับกระบะสีดำฝ่าถนนแคบสายยาวในหุบเขาทางตอนเหนือของประเทศ เส้นทางเต็มไปด้วยหมอกขาวหนาทึบปกคลุมไปทั่ว เหมือนม่านบางที่บดบังท้องฟ้าและทุกสิ่งรอบตัว เขาเหยียบคันเร่งช้า ๆ ตามสัญญาณ GPS ที่ปรากฏบนหน้าจอ โทรศัพท์ติดอยู่กับคอนโซล สัญญาณขึ้น ๆ หาย ๆ เป็นระยะ
“อีก 4 กิโลเมตร จะถึงจุดหมายปลายทางของคุณ”
เสียงระบบนำทางกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น
“หวังว่าจะไม่ใช่หลงป่า...” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะมองกระดาษเอกสารที่วางอยู่ข้างเบาะ — สำเนาพินัยกรรมของ คุณยายคำสาย ผู้จากไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
ในพินัยกรรมเขียนชัดเจนว่า
“ที่ดินจำนวน 100 ไร่ในตำบลแม่ขุนเหนือ ขอยกให้แก่หลานชายคนโตชื่อ ‘ตั้ม’ แต่ห้ามเข้าไปในที่ดินจนกว่าจะผ่านพิธีเปิดทางหลังงานศพ”
ตอนญาติอ่านพินัยกรรม ทุกคนมองหน้ากันนิ่ง บางคนถึงกับถอนหายใจ “ยายมีเหตุผลของแก” ป้าคำแปงพูดขึ้น “อย่าเพิ่งไปนะตั้ม รอให้ทำพิธีก่อน”
แต่เขาไม่สน — สำหรับตั้ม ที่ดิน 100 ไร่นั้นคือโอกาสทอง เขาอยากเห็นด้วยตา วางแผนสร้างรีสอร์ต หรือไร่กาแฟสักแห่ง เขาไม่เชื่อเรื่องพิธีกรรม หรือคำพูดคนแก่ ๆ ที่เต็มไปด้วยความเชื่อพื้นบ้าน
“ก็แค่ดินร้อยไร่ จะให้ผีดินที่ไหนมากินกูรึไง...” เขาหัวเราะเบา ๆ
1. ทางที่ไม่มีในแผนที่
ถนนเริ่มกลายเป็นทางลูกรัง เสียงหินกรวดบดกับยางรถดัง “กรอด ๆ” ไปตามจังหวะ ลมหนาวพัดใบไม้ปลิวผ่านหน้ากระจก เขามองออกไปเห็นป่าทึบข้างทาง แสงอาทิตย์เริ่มจางเหลือเพียงแสงส้มคลุมยอดไม้ เสียงจิ้งหรีดเริ่มร้อง
สัญญาณ GPS ดับไปเฉย ๆ หน้าจอกลายเป็นสีเทา เขาลองรีเซ็ตเครื่อง แต่ไม่เป็นผล
“ไม่มีสัญญาณ”
“เฮ้ย...” เขาบ่น ขมวดคิ้ว แต่ยังขับต่อเพราะมั่นใจว่าคงอีกไม่ไกล — ถนนเริ่มลาดขึ้นสู่เนินเขา มองเห็นกระท่อมไม้หลังเก่าปรากฏอยู่ไกล ๆ
เมื่อถึง เขาพบรั้วไม้ไผ่ผุพังและป้ายเก่าเขียนว่า
“ไร่คำสาย – ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ยายจะห้ามอะไรกันนักหนา...” ตั้มลงจากรถ เปิดประตูรั้วที่ปิดไว้ด้วยลวดสนิม เสียงมันแหลมเสียดหูในความเงียบ
ภายในรั้วเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ลมหนาวพัดหญ้าเอนราบคล้ายคลื่น บนเนินกลางไร่มีบ้านไม้สักหลังใหญ่ ตั้งเด่นท่ามกลางหมอกเย็นที่กำลังคลุมลงมา
–––
2. บ้านไม้ในหมอก
บ้านไม้สองชั้นสีซีดดูเก่าแต่ยังแข็งแรง หน้าต่างปิดสนิท มีกลิ่นอับของไม้เก่าและกลิ่นชื้นของดินลอยคลุ้ง ตั้มเดินสำรวจรอบบ้าน เห็นข้าวของโบราณกระจัดกระจายอยู่ในชาน เช่น ครกหิน โอ่งน้ำ และรูปถ่ายเก่าของคุณยายคำสายตอนสาว ๆ
บนฝาผนังในห้องโถง มีรูปคุณยายใส่ชุดพื้นเมือง ยิ้มบาง ๆ สายตาเหมือนกำลังมองตรงเข้ามาในหัวใจคนดู
ใต้รูปมีพานดอกไม้แห้งและธูปที่ไหม้ครึ่งดอก
“ยาย... ผมแค่แวะมาดู ไม่ได้จะทำอะไรหรอก”
เขาพูดกับภาพนั้นอย่างขำ ๆ ก่อนเดินไปเปิดหน้าต่าง — ลมหนาวพัดแรงจนผ้าม่านปลิว
มีเสียงบางอย่างดังมาจากชั้นบน “ครืด...ครืด...” เหมือนของหนักลากไปบนพื้นไม้
ตั้มหยุดฟัง หัวใจเต้นแรง เขาเดินขึ้นบันไดทีละขั้น เสียงไม้ดัง “เอี๊ยด...เอี๊ยด...” ตามจังหวะเท้า เมื่อถึงชั้นบน เขาพบประตูห้องหนึ่งเปิดแง้มอยู่
ภายในมีเพียงเตียงไม้ โต๊ะเครื่องแป้งเก่า และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่
เขาเปิดตู้ — กลิ่นอับเก่าฉุนขึ้นมาทันที
ข้างในมีเสื้อผ้าพื้นเมืองพับเรียงอย่างเรียบร้อย และกล่องไม้เล็ก ๆ
บนฝากล่องมีตัวอักษรสลักว่า
“สำหรับหลานชายของยาย หากใจเจ้าพร้อมรับมรดก”
เขายิ้มอย่างประหลาดใจ “ยายทำเหมือนเล่นเกมเลยนะ”
เปิดกล่องออก — ภายในมีผ้าพับเก่า ๆ ผืนหนึ่ง และกระดาษแผ่นเล็กเขียนด้วยลายมือสั่น ๆ
“อย่าอยู่ข้ามคืน อย่าเปิดประตูหลังบ้านหลังพระอาทิตย์ตก”
เขาหัวเราะ “ยายจะห้ามอะไรกันนักหนา... แค่บ้านเก่า จะกลัวทำไม”
–––
3. เสียงเคาะในยามค่ำ
พระอาทิตย์ลับฟ้า ความมืดคืบคลานอย่างรวดเร็ว เขาก่อไฟในเตาผิง ใช้เสบียงที่ซื้อมาเป็นมื้อเย็น — มาม่าและปลากระป๋อง เสียงลมหวีดหวิวลอดช่องหน้าต่างมาเป็นระยะ ๆ
เวลาผ่านไปจนใกล้เที่ยงคืน เขาเอนหลังลงบนเก้าอี้มองเปลวไฟพลิ้วไหว เหมือนเงาคนเต้นรำบนผนัง
“แค่คืนเดียว พรุ่งนี้เช้าค่อยลงไปในหมู่บ้าน”
แต่แล้ว — “ก๊อก...ก๊อก...”
เสียงเคาะดังมาจากด้านหลังบ้าน
เขาหยุดนิ่ง เสียงนั้นดังชัดอีกครั้ง
“ก๊อก...ก๊อก...”
ตั้มมองไปทางประตูหลังบ้าน — ประตูที่ยายห้าม “อย่าเปิดหลังพระอาทิตย์ตก”
หัวใจเขาเต้นแรง แต่ความอยากรู้อยากเห็นเอาชนะความกลัว
เขาคว้าไฟฉายเดินไปช้า ๆ แสงไฟส่องลอดช่องไม้เป็นลำตรงข้ามกำแพง
“ใครอยู่ข้างนอก!” เขาตะโกน
ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้แห้ง “กรอบแกรบ”
เขาหมุนลูกบิด — ประตูค่อย ๆ แง้มออก
ลมหนาวพัดกรูเข้ามาอย่างแรง ไฟในเตาผิงดับวูบ
แสงไฟฉายสะท้อนเห็น... ร่างของหญิงชราในชุดผ้าพื้นเมืองยืนอยู่กลางหมอก
ดวงตาขาวโพลน มองตรงมาที่เขา
ตั้มตกใจจนไฟฉายร่วง มือสั่นพยายามปิดประตู แต่แรงลมกลับผลักให้เปิดกว้าง
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังในความมืด
“เจ้ามาทำไมก่อนเวลา...”
–––
4. สิ่งที่อยู่ในไร่
ตั้มสะดุ้งตื่นกลางดึก หัวใจเต้นรัว เหงื่อเย็นเต็มหน้า
เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นห้อง โคมไฟกระพริบเบา ๆ
“ฝัน...ใช่ไหม” เขาพึมพำ
แต่เมื่อหันไปมองที่ประตูหลัง มันเปิดแง้มออกเล็กน้อย
และที่พื้น...มีรอยเท้าคนเปียกน้ำดินลากยาวเข้ามาในบ้าน
เขารีบวิ่งออกไปที่รถ แต่เมื่อออกไปนอกบ้าน หมอกหนาทึบจนมองไม่เห็นอะไรเกินสามเมตร
เสียงกระซิบดังขึ้นรอบตัว เหมือนมาจากทุกทิศทาง
“กลับไป... กลับไปก่อนสาย...”
เขาวิ่งกลับเข้าบ้าน ปิดประตูแน่น ตัวสั่นเทา
ขณะหอบหายใจ เขามองเห็นสิ่งหนึ่งที่พื้นห้องโถง — กล่องไม้เล็ก ๆ กล่องเดิมที่อยู่บนชั้นบน ถูกวางไว้ตรงหน้าเขาโดยไม่รู้ตัว
และบนฝากล่องมีอักษรใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขียนด้วยดินสอดำว่า
“ยังไม่พร้อม...”
–––
5. รุ่งเช้าที่ไม่เหมือนเดิม
แสงเช้าสาดเข้ามา เขาตื่นขึ้นในสภาพอ่อนแรง
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาเห็นทิวเขาเขียวขจี และหมอกจางคล้อยอยู่เหนือทุ่งหญ้า — ทุกอย่างดูสงบเหมือนคืนก่อนเป็นเพียงฝัน
เขาลงจากบ้าน สำรวจรอบ ๆ เจอเพียงรอยเท้าของเขาเอง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงักคือ — ประตูหลังบ้านหายไป
มีเพียงผนังไม้ตันเรียบสนิท เหมือนไม่เคยมีประตูอยู่ตรงนั้น
ตั้มขับรถกลับออกไป แต่ทางที่เขามาเมื่อคืนกลับไม่มีอยู่แล้ว
GPS ยังไม่ทำงาน เส้นทางกลายเป็นถนนดินที่จบลงตรงหน้าผา
เขาเบรกกระทันหัน เสียงล้อบดหินดังลั่น
เบื้องหน้าคือเหวลึก และเบื้องล่างคือรถกระบะสีดำคันหนึ่งพังยับ... ทะเบียนเดียวกับรถเขา
เขาหยุดนิ่ง ตัวเย็นวาบ “เป็นไปไม่ได้...”
เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้งจากด้านหลัง
“ยายบอกแล้ว... อย่าเข้ามาก่อนเวลา...”
เขาหันขวับ — เห็นหญิงชรานั่งอยู่บนก้อนหินริมทาง ยิ้มบาง ๆ
ตั้มถอยหลัง หัวใจเต้นแรง แต่ร่างกายเริ่มชา
ลมหายใจของเขากลายเป็นไอขาวก่อนภาพทุกอย่างจะมืดลง...
–––
6. พิธีเปิดทาง
หลายวันต่อมา
ญาติ ๆ ของตั้มมาถึงไร่พร้อมพระและคนในหมู่บ้าน เพื่อทำพิธีเปิดทางหลังงานศพคุณยายคำสาย
ป้าคำแปงถามหลวงพ่อ “หลวงพ่อเห็นตั้มไหมเจ้าคะ เขาบอกว่าจะมารอที่นี่ก่อน”
หลวงพ่อส่ายหน้า “ไม่เห็นเลยโยม แต่เมื่อคืนข้าฝันเห็นเด็กผู้ชายยืนอยู่หลังบ้านยาย... เขาหน้าซีดเหมือนคนหนาวมาก”
หลังพิธี พระจุดธูปบูชาวิญญาณ
หมอกหนาปกคลุมไร่อีกครั้ง
และที่หลังบ้าน — บนผนังไม้ตันเรียบ มีรอยประตูเก่า faint faint โผล่ขึ้นมา เหมือนเคยถูกปิดตายไว้นานแล้ว
หลวงพ่อเดินเข้าไปช้า ๆ เอามือลูบผนัง
แล้วพูดเบา ๆ ว่า
“เจ้ารอไม่ไหวสินะ... แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวยายจะพาเจ้าไปอยู่ด้วยกัน”
–––
7. ปัจฉิมบท
ฤดูหนาวปีต่อมา
“ไร่คำสาย” ถูกประกาศขายผ่านนายหน้าท้องถิ่น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป
บางคนบอกว่าเวลากลางคืนจะเห็นแสงไฟในบ้าน และเสียงรถเครื่องยนต์ดังขึ้นในความมืดราวกับมีใครกำลังพยายามขับออกมา
ว่ากันว่า หากไปยืนตรงเนินกลางไร่ตอนหมอกลง จะเห็นรอยล้อรถจาง ๆ ลากเป็นวงกลมอยู่ตรงนั้น
และถ้าเงี่ยหูฟังดี ๆ จะได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดเบา ๆ ลอยมาตามลม...
“ยาย... ผมกลับบ้านไม่ถูก...”
–––
จบ – “พินัยกรรมแห่งไร่หนาว”
เรื่องเล่า
เรื่องสั้น
นิยายตื่นเต้นระทึกขวัญ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย