10 ต.ค. เวลา 04:33 • ธุรกิจ

กลยุทธ์บริหารสินเชื่ออย่างไรให้ไม่สะดุดของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

ถ้าคุณเป็น “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” น่าจะคุ้นเคยกับวงจรนี้ดี — เงินออกก่อน แต่เงินเข้าทีหลัง
ทุกโครงการต้องจ่ายค่าแรง วัสดุ และผู้รับเหมาช่วงทันที แต่รายรับกลับผูกกับ “งวดงาน–งวดเงิน” ตามที่เจ้าของโครงการกำหนด แถมยังมี Retention หรือเงินประกันผลงานที่ถูกหักไว้ 5–10% ซึ่งกว่าจะได้คืนก็ต้องรอถึงตอนส่งมอบงาน
เมื่อสภาพคล่องตึงมือ หลายธุรกิจจึงเริ่มมองหา สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย โดยเฉพาะประเภท สินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์ ที่อนุมัติจากเอกสารสัญญาโครงการ (เช่น BOQ, TOR, Payment Certificate) แทนการใช้ทรัพย์สินส่วนตัวค้ำประกัน
ทำไมต้องแยก “วงเงินหมุนเวียน” กับ “เงินลงทุน”?
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ผู้รับเหมาหลายรายมักทำโดยไม่รู้ตัว คือ ใช้วงเงินเดียวกันทั้งสำหรับจ่ายค่าแรงหมุนเวียนและซื้อสินทรัพย์ลงทุน
ผลคือดอกเบี้ยบาน ปิดบัญชียาก และธุรกิจขาดภาพการเงินที่ชัดเจนในสายตาธนาคาร
🔹 วงเงินหมุนเวียน (OD / Revolving Credit)
เหมาะกับค่าใช้จ่ายระยะสั้น เช่น ค่าแรงรายเดือน ค่าน้ำค่าไฟไซต์งาน หรือค่าวัสดุประจำสัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตั้งวงเงินจาก
ค่าใช้จ่ายประจำเดือน × 1–1.5 เท่า + เผื่อ Buffer อีก 10–20%
ข้อดีคือ เสียดอกเบี้ยเฉพาะยอดที่ใช้จริง หมุนเวียนได้หลายรอบ และเป็นตัวช่วยรักษาสภาพคล่องในช่วงรอรับเงินงวด
🔹 เงินทุนหมุนเวียนตามสัญญา (Working Capital)
เหมาะกับโครงการที่มีตารางงวดงาน–งวดเงินชัดเจน
ใช้ Payment Certificate และเอกสารสัญญาเป็นหลักฐานยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร
โดยทั่วไปวงเงินจะอยู่ราว 1.5–2 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับโครงการขนาดกลาง
🔹 Advance Payment Bond (หนังสือค้ำประกันเงินล่วงหน้า)
หากเจ้าของงานมีการจ่ายเงินล่วงหน้า จะต้องมี หนังสือค้ำประกัน (Bond)
จุดที่มักพลาดคือผู้ประกอบการนำวงเงินนี้ไปปนกับ OD หรือ Working Capital
ทำให้เงินสดขาดมือในช่วงจ่ายงวดแรก ซึ่งควรแยกออกอย่างเด็ดขาด
💡 Insight จากที่ปรึกษาด้านสินเชื่อธุรกิจ:
“การแยกวงเงินตามวัตถุประสงค์ไม่เพียงช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้ธนาคารมองเห็นว่าธุรกิจมีวินัยทางการเงินและเข้าใจระบบสัญญาโครงการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอนุมัติสินเชื่อวงเงินสูงในปี 2568”
ตัวอย่างจริง — ผู้รับเหมางานถนนที่จัดระบบเงินได้ดี
สมมติ “คุณเอก” รับงานสร้างถนน 2 โครงการ มูลค่ารวม 12 ล้านบาท
แต่เจอปัญหาเดิม ๆ คือ ค่าแรงเดือนละกว่า 8 แสน และต้องรอใบรับรองงวดงานจากวิศวกรก่อนเบิกเงิน
ปัญหา:
• ต้องจ่ายค่าแรงและวัสดุก่อนทุกเดือน
• เงิน Retention ถูกหักไว้ 10%
• เงินก้อนเข้าล่าช้า ทำให้ต้องหมุนเงินทุกเดือน
ทางแก้:
• ขอวงเงิน OD 1 ล้านบาท สำหรับค่าแรงและวัสดุรายเดือน
• ขอ Working Capital 2 ล้านบาท ผูกกับ Payment Certificate ของแต่ละงวด
• แยก Advance Payment Bond ไว้ต่างหาก
ผลลัพธ์คือโครงการไม่สะดุด จ่ายแรงงานทันเวลา และเครดิตทางการเงินของคุณเอกดีขึ้นจนสามารถขยายงานเพิ่มในปีถัดไปได้
ข้อควรระวังในการใช้สินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์
1. วงเงินอาจไม่สูงเท่าสินเชื่อมีหลักทรัพย์ค้ำ
แต่เข้าถึงง่ายกว่า เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการหมุนเร็ว
2. เอกสารต้องครบและโปร่งใส
เช่น สัญญาโครงการ, BOQ, TOR, Statement และใบ Retention
3. รักษาวินัยการเงินอย่างเคร่งครัด
ธนาคารจะดูพฤติกรรมการหมุน OD ถ้ามีหลายบัญชีหรือไม่โปะคืนตามรอบ อาจถูกประเมินว่า “เสี่ยง”
4. ดอกเบี้ยคิดรายวัน ต้องบริหารให้ดี
ถ้าไม่บริหารการโปะคืนให้เป็นระบบ ดอกเบี้ยรายวันจะกลายเป็นภาระระยะยาว
กลยุทธ์เพิ่มโอกาสอนุมัติในปี 2568
ปี พ.ศ. 2568 ถือเป็นปีที่สถาบันการเงินไทยเข้มงวดเรื่อง “Responsible Lending” มากขึ้น
โดยประเมินจาก ความสามารถในการชำระหนี้ (DSCR) และ ความโปร่งใสของกระแสเงินสด (Cash Flow)
หากคุณเป็นผู้รับเหมา แนะนำให้เตรียมดังนี้:
• จัดทำ กระแสเงินสดรายโครงการ (Project Cash Flow) ให้เห็นรอบรับ–จ่ายชัดเจน
• แนบ Payment Certificate ย้อนหลัง 2–3 งวด เพื่อพิสูจน์รายได้ต่อเนื่อง
• แสดงหลักฐาน Retention ที่รอรับคืน เพื่อเสริมเครดิต
• ใช้ บัญชีธุรกิจแยกจากบัญชีส่วนตัว เพื่อให้ Statement อ่านง่าย
✅ เมื่อเตรียมครบตามนี้ โอกาสได้รับอนุมัติ สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย หรือ แหล่งเงินทุนไม่มีหลักประกัน ก็จะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สรุป — แยกวงเงินให้ถูกประเภท = รอดเกมก่อสร้าง
ปี 2568 คือปีที่ผู้รับเหมาต้อง “ฉลาดใช้เงิน” มากกว่าที่เคย
การแยกวงเงินหมุนเวียนกับเงินลงทุนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์
ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจเดินต่อได้ไม่สะดุด แต่ยังเป็นสัญญาณให้ธนาคารเห็นว่าคุณคือ “ผู้ประกอบการมืออาชีพ”
• OD → สำหรับค่าใช้จ่ายระยะสั้น
• Working Capital → สำหรับงานโครงการ
• Advance Payment Bond → แยกต่างหากเพื่อรักษาสภาพคล่อง
👉 หากคุณเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่กำลังมองหาทางออกเรื่องสภาพคล่อง
อย่าปล่อยให้เงินสดขาดมือกลางโครงการ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เพื่อวางแผนอย่างมั่นคงได้ที่
โฆษณา