Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
S
SixtyPlusYearsYoung
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 01:40 • สิ่งแวดล้อม
โลกร้อนและน้ำแข็งขั้วโลก
วันนี้อ่านเจอข่าวเก่าที่ถูกเอามาเล่าใหม่ 2 ข่าวเกี่ยวกับโลกร้อนและน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งเหมือนจะเป็นเรื่องดีและร้ายแบบตรงกันข้าม เห็นว่าน่าสนใจดีเลยคิดว่าอย่ากระนั้นเลย เอามาเล่าต่อดีกว่า
เรื่องแรกเป็นข่าวออกมาราวๆ เดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ฟังเผินๆ เหมือนว่านี่จะเป็นเรื่องดี นั่นคือดาวเทียมของนาซ่าตรวจพบว่าทวีปแอนตาร์คติก้ามีน้ำแข็งเพิ่มขึ้น
เราท่านที่ติดตามข่าวเรื่องโลกร้อนย่อมจะคุ้นดีกับคำกล่าวที่ว่า น้ำแข็งขั้วโลกละลายและระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น แต่นาซ่าบอกว่าระหว่างปี 2021 – 2023 ปริมาณแผ่นน้ำแข็งบนผืนแผ่นดินที่อยู่ใต้สุดของโลกกลับเพิ่มขึ้น
ทว่าทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าเราหยุดภาวะโลกร้อนสำเร็จแล้ว เพียงแต่ความแปรปรวนของสภาพอากาศทำให้มีหิมะฝนตกในทวีปนั้นมากขึ้นเท่านั้น
อย่าเพิ่งหลงดีใจไป ความผันผวนแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นระยะในขณะที่โลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องที่สองเกิดขึ้นทางซีกโลกเหนือ จะว่าเป็นเรื่องร้ายก็ได้เพราะมันสามารถเขย่าโลกจนสะเทือนในความหมายตามนั้นจริงๆ ทีเดียว
เมื่อวันที่ 16 กันยาบน ปี 2023 ธารน้ำแข็งที่ละลายจนเปราะบางในกรีนแลนด์เกิดเคลื่อนตัวเป็นลำธารขึ้นมาได้จริงๆ ผลที่ตามมาคือเกิดธรณีพิบัติที่ใต้น้ำและพาเอายอดเขาเหนือน้ำไหลลงมาในฟยอร์ดชื่อดิ๊คสันด้วย
การศึกษาในภายหลังประมาณว่ามีมวลดินและน้ำแข็งไหลลงไปในฟยอร์ดรวมกันประมาณ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร
การที่จู่ๆ มีของแข็งปริมาณมหาศาลขนาดนั้นไหลพรวดลงไปในน้ำส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สูง 200 เมตร ก็ราว 2/3 ของความสูงอาคารใบหยก 2
คลื่นขนาดนี้ถ้าเกิดในทะเลเปิดน่าเดินทางไกลจากกรีนแลนด์มาถึงอาฟริกาตอนเหนือได้
แต่เมื่อมันเกิดในฟยอร์ดซึ่งเป็นพื้นที่ (เกือบ) จะปิด มันจึงส่งผลให้เกิดการ กระฉอกไปมาของมวลน้ำมหาศาลอยู่ในนั้น
ซึ่งก็ดีไปอย่างเพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ มีโบราณสถานไม่กี่แห่งกับแคมป์นักวิจัยที่ไม่มีคนอยู่ถูกทำลาย ไม่ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต
แต่การกระฉอกไปมานั่นส่งแรงสะเทือนที่วัดได้โดยสถานีเฝ้าระวังแผ่นดินไหวค่อนโลกอยู่ถึง 9 วันก่อนจะค่อยๆ จางหายไป แม้แต่สถานีวัดที่อยู่คนละขั้วโลกอย่างในแอนตาร์คติก้ายังจับสัญญาณนี้ได้ ในเวลาที่ห่างไปจากเวลาเกิดเหตุเพียงชั่วโมงเดียว
ในชั้นต้นนักวิทยาศาสตร์ต่างเกิดอาการ “อิหยังวะ” เนื่องจากคลื่นความสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นแตกต่างจากคลื่นที่วัดได้จากการเกิดแผ่นดินไหวทั่วไป
ในชั้นต้นพวกเขาตั้งชื่อคลื่นนี้ว่า Unidentified Seismic Object แปลเป็นไทยแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า คลื่นความสั่นไหวของเปลือกโลกที่ไม่รู้จักมาก่อน
แน่นอนว่าในที่สุด จากการรวมตัวแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในที่สุดเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ทราบที่มาที่ไปของปรากฏการณ์นี้
ความสำคัญของเรื่องนี้อยู่ตรงที่ นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถชี้ถึงพิบัติภัยจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลรับรู้ได้ในวงกว้างอย่างแบบตรงเผง
โลกยังร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ครั้งต่อไปจะเป็นปรากฏการณ์แบบไหน
สิ่งแวดล้อม
โลกร้อน
ภาวะโลกร้อน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย