12 ต.ค. เวลา 02:46 • ประวัติศาสตร์

โรงเรียนจอร์จ จาร์วิส (George Jarvis School) จุดจบของโลก ประเทศอังกฤษ

โรงเรียนจอร์จ จาร์วิส (George Jarvis School) กับความลับมากมายจนได้รับการขนานนามว่าเป็นจุดจบของโลก แห่งประเทศอังกฤษ
โรงเรียนจอร์จ จาร์วิส (George Jarvis School) ตั้งอยู่ในเขตชนบทอันแสนงดงามราวกับภาพวาดของเฮริฟอร์ดเชียร์ เขตมิดแลนด์ตะวันตกของประเทศอังกฤษ มันเป็นอาคารที่มี 4 ชั้น 40 ห้อง ห้องน้ำ อาคารนอกอาคารและห้องใต้ดิน
อาคารสไตล์โกธิคแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับย้อนไปถึงช่วงปี 1850 ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดย “จอร์จ จาร์วิส” (George Jarvis) ผู้ล่วงลับ ก่อนที่จะกลายมาเป็นความหวังให้กับเด็ก ๆ จากครอบครัวที่ด้อยโอกาส แต่มันกลับกลายมาเป็นสถานที่ที่เรียกกันว่า “จุดจบของโลก” อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นที่พักสำหรับกองทัพอเมริกาและโรงพยาบาลทหารไปด้วยในตัว
ในช่วงปี 1980 โรงเรียนจอร์จ จาร์วิส ยังถูกนำมาใช้เป็นหอพักสำหรับเยาวชนก่อนที่จะปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 2010 พร้อมกับทิ้งมรดกเรื่องราวลึกลับและน่ากลัวเอาไว้ให้คนที่กล้าหาญพอได้มาเยือนได้เปิดเผยมัน
เรื่องราวอาถรรพ์ ณ โรงเรียนจอร์จ จาร์วิส
เชื่อกันว่าวิญญาณที่ไม่สงบของจอร์จ จาร์วิส ผู้ออกเงินทุนสร้างโรงเรียนแห่งนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เพราะเขาได้ทิ้งพินัยกรรมเอาไว้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่เสียชีวิตเงินมรดกส่วนใหญ่ของเขาจะต้องถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของชาวเมือง แต่การก่อสร้างอาคารเรียนดูเหมือนว่าจะจัดต่อความปรารถนาดังกล่าว เพราะเขาทิ้งข้อความเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเงินเหล่านั้นจะไม่ถูกนำไปสร้างอาคารสาธารณะหรืออาคารอื่นใด ๆ ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุผลนี้เองที่มีข่าวลือว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของเขากำลังมองไปนอกหน้าต่างบนชั้นบนสุดของอาคาร เสียงฝีเท้าปริศนาดังก้องไปทั่วทางเดินทางที่ว่างเปล่า
นอกจากนี้ ยังมีวิญญาณอีกอย่างน้อยหนึ่งดวงที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมรับความสงบหลังความตายที่รู้จักกันในชื่อของ “ดาเนียล” สุภาพบุรุษคนหนึ่งที่เชื่อกันว่าได้อุทิศชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเหลือในการก่อสร้างอาคารเรียน น่าเสียดายที่เขาต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรขณะที่ขี่ม้า แต่ดูเหมือนว่าความผูกพันระหว่างเขากับอาคารแห่งนี้จะยังคงเหนียวแน่นเป็นอย่างมาก มีหลายคนที่อ้างว่าได้เห็นวิญญาณของเขาเดินไปตามทางเดินของอาคาร
บริเวณหอระฆังของโรงเรียนจอร์จ จาร์วิสมีเรื่องเล่าที่น่าขนลุกไม่แพ้กัน ตำนานในท้องถิ่นได้เล่าเอาไว้ว่าเมื่อครั้งหนึ่งมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ติดอยู่ในหอคอย เขาถูกทิ้งให้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความโดดเดี่ยวจนตาย
ทุกวันนี้ลือกันว่าวิญญาณของเขาได้ยืนอยู่ที่หอระฆังแสวงหาการปลอบโยนไปตลอดกาลหรือบางทีอาจเพียงแค่มองหาการล้างแค้นจากความอยุติธรรมที่ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมาน นอกจากนี้ ยังมีคนอ้างว่าเห็นร่างของเด็กคนหนึ่งเดินไปที่ชั้นบนของอาคารอีกด้วย
ลึกเข้าไปในชั้นใต้ดิน มีวิญญาณของนักบวชคนหนึ่งอาศัยอยู่ หากมีใครกล้าพอที่จะลงไปในนั้น วิญญาณของนักบวชก็จะปรากฏตัวออกมา ผู้คนต่างพากันอ้างถึงความรู้สึกไม่สบายใจราวกับกำลังถูกดวงตาที่มองไม่เห็นกำลังจ้องมองอยู่ บางคนรู้สึกเหมือนกับมีพลังที่มองไม่เห็นคว้าตัวเอาไว้ ในส่วนอื่น ๆ ของอาคารยังมีปรากฏการณ์ผีหลอกวิญญาณหลอน เสียงที่แปลกประหลาด วัตถุเคลื่อนไหวได้เอง เป็นต้น
ถ้าหากใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ตำนานของเหล่าภูตผี ปีศาจ ตำนานเมืองและความสยองขวัญมากมายจากทั่วทุกมุมโลก สามารถติดตามอ่านได้ที่
โฆษณา