ชีวิตที่อาศัยในโลก โลกนั้น เค้่าก็ให้อารมณ์ มากับกาย ปรุงแต่ง ให้จิตเสพสุข ของอารมณ์ ที่สมอยาก ไม่สมอยาก สุขที่ได้เสพ สมหวัง ที่อารมณ์ปรุงแต่งให้ แล้วทุกข์ เกิดขึ้น เมื่อไม่สมหวัง เค้าจึงว่า ทุกข์สุขไปตามอารมณ์ที่ปรุวแต่งกาย แล้วจิตที่อาศัยในกาย ก็รับทุกข์หริอสุจขของอารมณ์ไม่เที่ยงที่ปรุงแต่งขึ้นที่กาย แล้วจิตนั้นก็รู้จักได้แค่นั้น กายเจ็บ จิตก็เจ็บ กายสบาย จิตก สบาย พอกายแก่ เฒ่าชรา จิตก็ชัก สั่งกายเคลื่อนไหสไม่ได้ดังใจ
สิ่งหนึ่งที่เราไม่รู้เลย ก็เรื้อวอกายที่มีอารมณ์ปรุงแต่ง นำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เข้ามาในกาย มันเกิดเป็นสีดำสีม่วง สีกรมท่า เป็นสีกรรม สีดำ ตกลงไปที่ธาตุุทั้ว โดยที่เราไม่รู้จักได้เลย พอแก่เฒ่า กายกรรม ก็แสดงมาชัดเจนขึ้ร โรคภัยก็ม่เบียดเบียนกาย
หากเอาเรื่องกาย ที่จิตอาศัย ค่อยพิจารณาดู..กายนี้ ..มีตรงไหนบ้างที่เป็นสุขที่แท้จริง เดี๋ยวหิว กินอิ่ม .ข้าวเพียงจานสองจาน หาเงินทองมามากมาย พอกายแก่ อาหารเต็มโต๊ะ ของที่เคยชอบ ..เคยตักกิน พอแก่่..ตักอะไรกินได้บ้าง บางที่กินได้ไม่กี่คำ ..เอ้า ..ของที่เคยชอบ กินไม่ได้เสียแล้ว กายที่อาศัยนี้ มีความนสุขอยู่ตรงไหน ..กายนี้มีแต่กรรม
..พอกายแก่ชรา สถานที่จิตอาศัยอยู่ในกาย มีตรงไหนบ้าง ที่มีความสุข .มีตรงไหนบ้าง ที่มันจะไม่เสื่อมลงไป เพราะใช้งานมานาน .กายนี้ เหมือนเรือที่ใช้มานาน..ให้จิตมานั่งในเรือผุเก่าๆ เรือเก่า มันผุมาโยก ส่วนประกอบของเรือที่ต่อมา มันไม่แข็งแรงเสียแล้ว แต่ก็ต้องรอคอยให้มันพัง ..เรือมันพังเมื่อไหร่ จิตก็ต้องตกลงไปใต้ท้องน้ำ
คราวนี้ คนที่เค้ารู้จัก ว่ากายนี้ อารมณ์ที่ปรุงแต่ง กายตลอดเวลา นำพาสีให้เกิดสีเวรกรรม เค้าก็นำกายนี้มาสร้างให้เป็นกายบุญให้เกิดขึ้น มีการกราบพระสวดมนต์ สร้างบุญกุศล (ถอนห่าเรื่องราวคาถาอาคม ไสยศาสตร์) ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ที่เค้าเรียกว่า ห้าๆสวรค์วิถี เอาขันติทั้งห้า ธาตสองคุณบิดามารดามีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์(อัครสาวก) เป็นที่พึ่งของจิต แล้วก็มาสร้างกายให้เกิดเป็นบุญกุศลขึ้น ให้กายกรรม นั้นเกิดเป็นกายบุญ
เมื่อนำกายมาสร้างเป็นบุญกุศล น้ำเลือดน้ำหนองในกาย ก็เกิดเป็นน้ำเลือดน้ำหนอง เป็นสีแดงเกิดขึ้น ตัวกินเลือดกินเนื้อก็ได้กิน น้ำเลือดน้ำหนองที่เป็นบุญ กินแล้วก็ หลุดออกไปจากกาย .
คราวนี้ เมื่อเราใช้กายนี้..สมมุติว่า มีอารมณ์โกรธโมโห อิจฉาตาร้อนกัน ..เลือดในกายมันก็เป็นสีดำ ติดขัดตรงนั้นตรงนี้ บางที มีอารมณ์ไม่พอใจ ..มันก็ดันขึ้นไปที่หัว ที่สมอง เส้นเลือดแตก ..ตายเสียงั้น . แหม..อุตส่าห์ เสาะแสวงหา ตะเกียกตะกาย หาเงินทอง ลาภยศ .ตำแหน่งใหญ่ ..พอนั่งประชุมดีๆ ..เส้นเลือดสมองแตกตาย แล้วจิตนั่นได้อะไร..ที่มาอาศัยกายชั่วขณะหนึ่ง
พอกายบุญเกิดขึ้น มีบุญกุศลเกิดขึ้น จิตอาศัยอยู่ในกายบุญก็มีความสุข อารมณ์ก็ไม่ค่อยรบกวนกาย จิตอาศัยในกายบุญก็มีความสุข กายก็แข็งแรง จิตก็เข้าแข็งขึ้น .เพราะการที่จะทำกายกรรม ให้เป็นกายบุญ จิตต้องมีขันติความเพียรจึงจะกระทำได้ แล้วจิตก็มีสติสัมปชัญญะ ที่จะทำให้กายนิ่ง จิตนิ่งได้ ในการเพิจารณา เหตุผลต่างๆ ที่เกิดขึ้น พิจารณา ว่า เป็นเหตุให้จิตมีทุกข์ ติดอยู่ที่ธาตุทั้งสี่ หรือ สีใดีๆติดที่ธาตุุทั้งสี่สีบุุญกุศล
แล้วในการนั่งกายนิ่ง กายเจ็บปวด ก็อดทน นั่นก็เป็นอารมณ์ ปล่อบวางมันไป เดี๋ยว..อารมณ์นั้นก็พัดออกไปจากกาย เรื่องทำกายให้นิ่ง จิตนิ่งนั้น ต้องอาศัยบุญกุศลมาข่วยหนุนนำ หากกายนี้ไม่สะสมบุญกุศลมา ก็ไม่สามารถทำกายนิาง จิตนิ่งได้ได้เลย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
