13 ต.ค. เวลา 16:36 • ปรัชญา
เราอาศัยกายนี้ ไม่ได้นำมาทำมาหากิน กินเอร็ดอร่อย.. ..เราก็นำกายนี้มาสร้างให้กายเป็นบุญ ให้จิตเราบันทึก ลงไปที่ธาตุุทั้งสี่ ไม่ใข่บันทึกเรื่องราวที่เราใข้อารมณ์กรรม ไปมักายวาจาใจตามอารมณ์กรรม มีสีดำสีม่วงเกิดขึ้น คล้องเวรกรรมทั้งสิ่งมีชีวิตไม่มีชีวิตบันทึกแต่กรรมอย่างเดียว .
การที่ได้ ฝึกหัดตัวเอง ทีในเรื่องการสร้างบุญกุศล การกราบหิ้งพระน้อยๆ เริ่มต้นที่ดี ฝึกหัด เอาจิตมากราบพระ เมื่อเราเอาจิตมากราบพระ ระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ ให้จิตเราอาศัยอยู่ในกายที่พ่อแม่ให้มา ระลึกถึงน้ำเลือดน้ำหนองของผู้ที่ที่มีกรรม ไปอาศัยในสังขารกรรม หมูเป็นไก่ กุ้งหอยปูปลา
เรามานั่งพับเพียบ รวบรวมสิ่งต่างๆ นำกายที่จิตเราอาศัยอยู่ มากราบพระ จิตอยู่ในกาย มองดูมือที่กราบพระ ก้มศีรษะ ตามลงไป ก่อนที่มือจะจดพื้นก็ หยุด ..ค่อยแผ่มือออกไป มือซ้ายมารดา มือขวาบิดา จิตของลูก ก้มลงไป ระหว่างมือทั้งสองข้าง ซ้ายมารดาขวาบิดา นอบน้อมกราบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วก็ค่อยรวบมือทั้งสองข้างมา ประกบกัน กอบกำบังกุศลขึ้นมา ค่อยๆยกตัวขึ้นมา พนมที่หน้าอก ตามองดูที่มือตลอด แล้วก็ทำเหมือนเดิมกราบพระธรรมพระสงฆ์อัครสาวก พระโมคคัลลา พระสารีบุตร พระอานนท์ พระกัสสปะ ..ระลึกไปถึงพระอรหันต์ทุกพระองค์ พระโกณฑัญญะ
นี่ก็เรื่องราวหนึ่ง ที่พระท่านสอนให้ฝึกหัดตัวเอง เอาจิตมากราบพระ ..ไม่ได้เอาอารมณ์มากราบพระ ท่านบอกว่า กราบดีๆ เอาจิตมากราบ ก็จะเห็นแสงรัตนะ เกิดขึ้นที่มือ บางที่ก็เป็นหน้าพ่อหน้าแม่ ลอยขึ้นมาปรากฏ ..ที่ลูกได้นำกายพ่อแม่ มากราบพระ ด้วยจิตที่มีสติสัมปชัญญะ ในการกราบ
คราวนี้ เรื่องการสวดมนต์ เราพนมมือที่หน้าอก ตามองด้วยที่มือ ดูที่การกระทำของตัวเอง หูก็ฟังเสียงตัวเองที่สวดมนต์ ก็ช่วยให้จิตนั้น ค่อยๆแยกกาย แยกจิต..มีสติในการสวดมนต์ เสียงก็กังวาล สวดมนต์แล้ว จิตก็มีสมาธิ มีกำลัง ..เหมือนได้ปลดเปลื้องอารมณ์กรรม ออกไปจากกาย บางครั้ง ก็เกิดสีเหลือง ไปกระทบสีดำ แตกกระจายไป เหมือนเอาสีเวรกรรม ที่ติดอยู่กับธาตุทั้งสี่ ให้ไหลออกไป . สู่ดินฟ้าอากาศ
แล้วก็มีการฝึกหัด นำปัจจัยเงินที่หามา ที่ใช้กายพ่อแม่ไปหามา เราก็นำมาสร้างให้เป็นบุญ เพื่อที่จะได้ ขจัดความยึด ความตระหนี่ออกไป อีกทั้งวัตถุเงินทองที่หยิบมาสร้างบุญกุศล ถวายต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ช่วยดึงอารมณ์กรรม ความโลภโกรธหลงออกไปจากกายจากจ้ต ที่หามายึด เป็นของฉันๆ ใครมาอหยิบขโมยไปก็โกรธโมโห ทำบุญถวายปัจจัยหน้าพระน้อยๆ วางไว้หน้าพระ เสร็จแล้วก็ฝึกหัด อุทิศบุญกุศล เอาธาตุนะโม มากระจายบุญกุศล
เมื่อเราทำไปบ่อยๆทุกวัน เรื่องราวของกายที่เจ็บป่วย มันก็ไม่มารบกวนจิต ทำมากเข้า กายก็เป็นกายบุญ จิตอาศัยอยู่ในกายที่เป็นบุญหนุนนำ กายมีบุญ จิตก็มีความสุขอาศัยในกายที่เป็นบุญ น้ำเลือดน้ำหนองในการก็มีบุญหนุนนำ เลือดเป็นสีแดง จิตก็เข้มแข็งขึ้น อารมณ์กรรมต่างๆก็เบาบางลงไป ..อารมณ์ก็ไม่ค่อยรบกวนจิต ไม่ชี้หงุดหงิด .มีสติมากขึ้น ที่จะระมัดระวัง อารมณ์ที่เกิดขึ้น ในการใช้กายไปทำมาหากิน .
เมื่ออารมณ์ก็ไม่ค่อยมาวุ่นวายกายวุ่นวายจิต สุขกาย สุขใจ ได้เกิดขึ้น ที่ว่า ฝึกหัดสร้างบุญกุศล หนีเวรกรรม. จะได้ช่วยให้การเกิดน้อยลงไปๆ ยังไง ก็อย่าให้จิตลงอบาย เมื่อกายนี้เค้่าไม่ให้อยู่แล้ว
..ขอให้จิตข้าพเจ้า..อาศัยอยู่เรือนกายของคุณบิดามารดา..มีพระแม่พระธรณี พระแม่คงคา พระแม่พระเพลิง พระแม่พระพาย พระแม่โพสพ ..อนุเคราะห์สงเคราะห์กายนี้ให้ครบอาการสามสิบสอง .ให้จิตข้าพเจ้า มีความกตัญญูรู้คุณ.
..จิตของข้าพเจ้า มีพระพุทธ พระธรรม สระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
..ขอให้ จิตข้าพเจ้า มีสติสัมปชัญญะ รู้จักกรรม
..ให้จิตมีสติสัมปชัญญะ รู้จักธรรม สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม ไปทุกชาติ
..ให้จิตข้าพเจ้าเกิดมา ทุกภพทุกชาติ มีกายเป็นมนุษย์ ครบอาการสามสิบสอง มีความกตัญญูรู้คุณ ให้จิตข้าพเจ้าได้พบ ธรรมโลกุตระ สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม
..ขอให้จิตข้าพเจ้า มีกายเป็นบุญ จิตมีธรรม มีแสงรัตนะธรรม ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้จิตมีความเข้มแข็ง ให้สติปัญญาและความจำ ให้มีองค์สมาธิปัญญาเป็นธรรม ให้มีความเฉลียวฉลาด รู้แจ้งเห็นจริง ทั้งทางโลกทางธรรม เกิดจากจิตของข้าพเจ้า ด้วยมรรค ๔ ผล ๔ พระนิพพาน ๑..
โฆษณา