16 ต.ค. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🚀 ผลลัพธ์สุดงง! NASA พบวงโคจรดาวเคราะห์น้อย ‘หดตัว’ ไม่หยุดหลังภารกิจ DART

คุณจำภารกิจสุดยิ่งใหญ่ของ NASA ที่เราส่งยานอวกาศไป “พุ่งชน” ดาวเคราะห์น้อยได้ไหมครับ? มันคือการทดลองป้องกันดาวเคราะห์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม... แต่ดูเหมือนว่าจักรวาลจะมีเรื่องน่าประหลาดใจให้เราเสมอ เพราะผลลัพธ์ที่ตามมากลับเต็มไปด้วยปริศนาที่นักดาราศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้
เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปในปี 2022 เมื่อยานอวกาศในภารกิจ DART (Double Asteroid Redirection Test) ที่หนักเกือบ 600 กิโลกรัม ได้พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กชื่อ ดิมอร์ฟอส (Dimorphos) ซึ่งโคจรรอบดาวเคราะห์น้อยที่ใหญ่กว่าชื่อ ดิดีมอส (Didymos) ได้สำเร็จ
ก่อนการพุ่งชน ดิมอร์ฟอสใช้เวลาโคจรรอบดิดีมอส 11 ชั่วโมง 55 นาที แต่หลังจากการปะทะ วงโคจรของมันสั้นลงไปประมาณ 30 นาที... ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้นครับ
❓ ปริศนา 30 วินาทีที่หายไป
ในอีกหลายสัปดาห์และหลายเดือนต่อมา นักดาราศาสตร์กลับพบว่าวงโคจรของดิมอร์ฟอส ยังคงหดสั้นลงไปอีก... ประมาณ 30 วินาที
คำอธิบายในตอนแรกที่ดูสมเหตุสมผลที่สุดก็คือ ก้อนหินและฝุ่นที่ฟุ้งกระจายจากการปะทะ กำลังค่อยๆ ถูก “เหวี่ยง” ออกไปจากระบบดาวเคราะห์น้อยคู่ ซึ่งทำให้ระบบโดยรวมสูญเสียพลังงานและวงโคจรก็หดสั้นลง... แต่ดูเหมือนว่าคำอธิบายง่ายๆ นี้อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง
❌ เมื่อทฤษฎีแรกถูกหักล้าง
ล่าสุด แฮร์ริสัน อกรูซา (Harrison Agrusa) และ กามีย์ ชาเตอเนต์ (Camille Chatenet) จากมหาวิทยาลัยโกตดาซูร์ในฝรั่งเศส ได้คำนวณและพบว่าคำอธิบายเรื่องการเหวี่ยงเศษหินออกไปนั้น เป็นไปไม่ได้
ทำไมล่ะครับ? ก็เพราะดิมอร์ฟอสนั้นมีมวลไม่มากพอและมีแรงโน้มถ่วงไม่แข็งแกร่งพอที่จะส่งเศษซากให้หลุดลอยออกจากระบบไปได้อย่างถาวร “ก้อนหินอาจลอยผ่านดิมอร์ฟอสไป และดิมอร์ฟอสจะเหวี่ยงมันออกไปในวงโคจรที่กว้างขึ้น นั่นเกิดขึ้นได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก้อนหินก้อนนั้นก็จะกลับมาและเข้าใกล้ดิมอร์ฟอสอีกครั้ง” อกรูซากล่าว
🔄 ทฤษฎีใหม่: ดาวเคราะห์น้อยที่ “โคลงเคลง”
เมื่อทฤษฎีเดิมใช้ไม่ได้ พวกเขาจึงได้เสนอคำอธิบายใหม่ที่น่าสนใจกว่าเดิมมาก... เป็นไปได้ว่าการพุ่งชนครั้งนั้นได้ทำให้ดิมอร์ฟอส หมุนควงในลักษณะที่ซับซ้อน
ลองนึกภาพลูกข่างที่กำลังหมุนติ้วแล้วโดนดีดสิครับ มันจะเริ่มแกว่งและโคลงเคลงไปมา... สิ่งเดียวกันนี้อาจเกิดขึ้นกับดิมอร์ฟอส ทำให้ก้อนหินและฝุ่นบนพื้นผิวของมัน “ไหลไปมา” เหมือนของเหลวในขวดที่ถูกเขย่า
แรงเสียดทานจากการที่ก้อนหินเหล่านี้ไถลไปมาและชนกันเอง อาจสร้างความร้อนขึ้นมา และการสูญเสียพลังงานไปในรูปของความร้อนนี้เอง ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยหดสั้นลงอย่างช้าๆ... อย่างไรก็ตาม อกรูซาย้ำว่า งานวิจัยของเขายังไม่ได้สร้างแบบจำลองของกลไกนี้
🏡 แล้วเรื่องนี้สำคัญต่อการปกป้องโลกแค่ไหน?
อกรูซาชี้ว่า แม้ปริศนานี้จะแสดงให้เห็นถึงความยากในการทำนายพฤติกรรมของดาวเคราะห์น้อยหลังการปะทะ แต่มันอาจไม่เกี่ยวข้องมากนักกับการเบี่ยงเบนทิศทางดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งมายังโลกโดยตรง
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะระบบดาวเคราะห์น้อยคู่แบบดิดีมอสและดิมอร์ฟอสนั้นค่อนข้างหายาก และผลกระทบจากการ “โคลงเคลง” นี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับดาวเคราะห์น้อยเดี่ยวๆ ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เรากังวลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม การศึกษาทุกแง่มุมของพฤติกรรมดาวเคราะห์น้อยคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อภารกิจป้องกันดาวเคราะห์ในอนาคต ซึ่งเป็นภารกิจที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT ของไทย ก็มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและติดตามวัตถุใกล้โลกเหล่านี้เช่นกัน
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ปริศนาหลังภารกิจ DART: หลังถูกยานพุ่งชน วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยดิมอร์ฟอสยังคงหดสั้นลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ยังหาคำอธิบายที่แน่ชัดไม่ได้
✅ ทฤษฎีเก่าถูกหักล้าง: คำอธิบายเดิมที่ว่าเกิดจากการเหวี่ยงเศษซากออกจากระบบนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะดิมอร์ฟอสมีแรงโน้มถ่วงไม่มากพอ
✅ ทฤษฎีใหม่ที่น่าสนใจ: มีการเสนอว่าการพุ่งชนอาจทำให้ดาวเคราะห์น้อย “โคลงเคลง” ทำให้ก้อนหินบนพื้นผิวไถลไปมา เกิดเป็นแรงเสียดทานและความร้อน ซึ่งทำให้สูญเสียพลังงานในวงโคจร
✅ ยังไม่กระทบภารกิจป้องกันโลก: ปรากฏการณ์นี้คาดว่าเป็นลักษณะเฉพาะของระบบดาวเคราะห์น้อยคู่ และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเบี่ยงเบนดาวเคราะห์น้อยเดี่ยวๆ ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อโลก
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบความซับซ้อนที่ไม่คาดคิดจากการทดลองในอวกาศเช่นนี้ บอกอะไรเราเกี่ยวกับความท้าทายในการพยายามทำความเข้าใจและควบคุมธรรมชาติของจักรวาลครับ?
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Agrusa, H., & Chatenet, C. (2025). Gravitational scattering of ejecta in the Didymos system cannot explain the evolution of the binary's orbital period. arXiv. https://doi.org/p79d
🙏 ถึงผู้อ่านทุกท่าน
ผมตั้งใจทำเนื้อหาเชิงสารคดีในเพจนี้ขึ้นมา เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความรู้ที่เข้มข้นและเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน เนื้อหาทุกชิ้นเกิดขึ้นจากการค้นคว้าและเรียบเรียงอย่างสุดความสามารถโดยไม่มีองค์กรใดสนับสนุน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนเมษายน ผมมีความสุขที่ได้แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ และใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวในการดำเนินงานมาโดยตลอดด้วยความเต็มใจ แต่เมื่อเพจยังไม่มีรายได้เข้ามาเลย การที่จะสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ต่อไปในระยะยาวก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นทุกที
หากคุณชื่นชอบและเห็นคุณค่าของงานที่ผมทำ การสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ จากคุณจะเป็นพลังสำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเสมือน 'ค่ากาแฟ' ที่ช่วยต่อลมหายใจ และทำให้ผมสามารถเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพต่อไปได้ เพื่อให้พื้นที่แห่งการเรียนรู้ของเรายังคงอยู่
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตาจากทุกท่าน เพื่อให้เพจนี้ได้เดินต่อไปครับ
Link สนับสนุนค่ากาแฟ [https://ezdn.app/witlyofficial]

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา