14 ต.ค. เวลา 13:40 • ความคิดเห็น
มีเพื่อน ก็โทรคุยกันทุกวัน พอคุยไปเพื่อนก็ว่า ประชุมอยู่บ้าง แล้วก็วางสายไป ก่อนเค้าเสียสามวัน ก็โทรคุยกัน อยู่ๆเสียงของเค้า กเหมือนหายใจไม่สะดวกติดขัด เราก็ถามว่าเป็นอะไร เค้าก็บอกว่า อยู่โรงพยาบาล เราก็โทรไปหาลูกน้องเค้า .ซักถาม เค้าบอกว่า เพื่อนเราไม่ให้บอกใคร ก็เลยโทรไปตามโรงพยาบาล จนได้เจอชื่อเพื่อน
เมื่อเจอชื่อเพื่อนก็ไปหา .เห็นครั้งแรกจำเพื่อนไม่ได้ เดินไปที่เตียง ทั้งที่เค้านั่งอยู่ มองดู แต่จำไม่ได้ .ก็ไปถามพยาบาลอีก คราวนี้เราเดินไปที่เตียง เพื่อนตะโกนว่า มาทำไม .ก็บอกว่ามาเยี่ยม ก็เลยได้รู้ว่า เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็รักษาไปตามที่หมอบอก ก่อนเสีย ยอกลูกน้องว่า อยากกินข้าวขาหมู ลูกน้อง ก็ซื้อไปให้ รุ่งขึ้นอีกวันตาย รวมเวลา ที่รู้ว่าตั้งแต่เจ็บป่วย จนหมดลมใช้เวลา รักษาสามเดือน..ตาย
ส่วนเรา ก็เป็นมะเร็งทางเดินปัสสาวะ หมอนัดผ่าตัด เครื่องเสียสามหน ก็เลยเลิกหาหมอ ก็ถือโอกาสนี้ ไหนๆก็โรคนี้ รักษาก็ตาย ไม่รักษาก็ตาย แล้วที่พระชีวกโกมารภัจจ์ ท่านบอกว่า ยาเม็ดสี่ขนานของพระพุทธเจ้านั้นดีที่สุด เราก็อาศัยยานี้ ช่วยรักษา ก็ได้รู้จักเรื่องเจ้ากรรมนายเวร ตอนที่เดินจงกรม .เค้าเดินเจ้ามาหาเลย .ทั้งเรื่องราวอีกเยอะ โอ้ว..ไปทำเค้าไว้ พอเห็นก็สร้างบุญสร้างกุศล เอาผ้าไตรจีวร กับทำกองสังฆทาน ทำบุญส่งให้เค้าไป บุญนั่นเป็นแสงรัตนะเหลืองทอง..ทำอย่างไรตึงจะเกิดแสงสีของบุญกุศลขึ้นมาได้
..พอเห็นเค้ามาทวง เราก็เราก็รีบทำบุญส่งให้เค้่าไป ก็ช่วยให้ประทังสังขารกรรมนี้ไปได้ ..ทำบุญขอให้หายเจ็บป่วยก็ไม่ได้. เพราะมันกายเป็นคนเห็นแก่ตัว แล้วเวลาไปทำเค้านี่ มันก็ไม่มีความเมตตาปราณี .เราต้องทำให้เค้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เรียกร้องอะไร ..เห็นเจ้ากรรมนายเสรที่เราเค้าแล้ว เค้าทุกข์ทรมาน มากกว่าที่เราเจ็บปวดมากมายนัก.
มีครั้งหนึ่ง ก็นั่งสมาธิ ก็มีภาพๆหนึ่งขึ้นมาให้ดู ระหว่างนั่งสมาธิ ..ก็เลยรีบ เอาผ้าไตรจีวรไปถวายพระ พอเราวางผ้าไตรจีวร พระท่าน ก็ว่า โยมไปทำอะไรมา มีแต่พวกหัวขาดตีนขาดมากันทั้งนั้น ส่วนที่เรานั่่งอยู่ ก็เป็นภาพชิ้นกระดูก ลอยไปมา .. ท่านก็บอกว่า มาแบบหัวขาดตีนขาด ก็อนุโมทนาบุญไม่ได้ ต้องทำให้มีกายเป็นมนุษย์ครบอาการสามสิบสองเสียก่อน เค้าจะได้อนุโมทนาได้
พอทำบุญ พระให่้พรอนุโมทนา ภาพที่เราเห็นก็เห็นคนเป็นกลุ่ม นั่งพับเพียบเรียบร้อย อยู่ริมแม่น้ำ ..นั้นก็เรื่ิองหนึ่ง ที่ทำบุญแล้ว ได้รู้จักว่าบุญกุศลนั้นก็ช่วยส่งไปให่เจ้ากรรมนายเวร พ้นจากเรื่องราวความทุกข์ทรมาน ..ก็ได้รู้จักว่า กรรมก็มีจริง บุญก็มีจริง..
เราก็ได้ฟังพระท่านเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ ท่านก็บอกว่า อย่าเขื่อ ให้ไปไตร่ตรอง เห็นว่าดีก็ทำขึ้นมา เห็นว่าไม่ดี ก็ไม่ต้องทำ .แต่ท่านทิ้งท้ายไว้ให้ ว่า ฟังแล้ว ไตรตรองดีแล้ว ก็สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมขึ้นมา .สิ่งนั้นคือ ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้แล้ว..ไม่ลงมือทำ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
น้องคนที่ถูกสามีตีตาย ก่อนเสียชีวิต พระท่านก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ ว่า ไอ้โม่ง โผล่มาเมื่อไหร่ ก็หมดบมเมื่อนั่น ก่อนน้องเค้าเสีย เค้่าดูผ่องใสมาก ตั้งใจปฏิบัติธรรม ด้วยรอยทั้งสี่ขององค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า ..ร่างกายดูมีสง่าราศี ไม่ใช่คนอมทุกข์ .
..พอเค้าตาย ก็มีคนเห็นเค้าสวมใส่ชุดขาวเดินในวัด .ก็โชคดี ที่สร้างบุญกุศลก่อน ถึงเวลาไอ้โม่งโผล่มา ก็ได้หยุดความอาฆาตจองเวร ผลัดกันฆ่ากันไปมา .ด้วยคู่อาฆาตพยาบาทจองเวรกันมา ..ยุติเป็นอโหสิกรรม ..ไม่ต้องมาชดใช้จองเวรกันอีก ต่างคนต่างไป แยกย้ายกันไป ไม่ต้องมาเจอะ่กันอีก เหมือนแยกกันไปเดินคนละทาง .คนหนึ่งไปทางที่มีความสุข อีกคนไปเส้นทางขิงความทุกข์
โฆษณา