แม่เหล็ก มีกี่ชนิด ไปดูความแตกต่างและการใช้งานแต่ละชนิดกัน!
แม่เหล็ก มี 2 ประเภทหลัก คือ แม่เหล็กธรรมชาติ และ แม่เหล็กประดิษฐ์
1. แม่เหล็กธรรมชาติ
เป็นแม่เหล็กที่ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กถาวร ไม่ต้องมีใครไปสร้างหรือไปกระตุ้น เป็นแม่เหล็กชนิดแรกที่มนุษย์ค้นพบ
- ●แมกนีไทต์ (Magnetite) เป็นแร่เหล็กออกไซด์ที่มีองค์ประกอบเป็นสารแม่เหล็ก (Ferromagnetic Material) สามารถดูดเหล็กได้เองตามธรรมชาติ
- ●ไพร์โรไทต์ (Pyrrhotite) เป็นแร่ซัลไฟด์ของเหล็ก (Iron Sulfide) ที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กในธรรมชาติเช่นกัน
2. แม่เหล็กประดิษฐ์
เป็นแม่เหล็กที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นมา โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนำไปใช้งานในหน้าที่ต่าง ๆ ที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ แม่เหล็กถาวร (Permanence Magnetic) และ แม่เหล็กไฟฟ้า หรือ แม่เหล็กชั่วคราว (Electro Magnetic)
2.1 แม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets)
แม่เหล็กประดิษฐ์ชนิดหนึ่งที่ถูกทำให้เป็นแม่เหล็กแล้วคงสภาพความเป็นแม่เหล็กไว้ โดยไม่ต้องมีแหล่งพลังงานภายนอกใด ๆ มากระตุ้น
- ●แม่เหล็กนีโอไดเมียม (Neodymium Magnet) หรือ แม่เหล็กแรงสูง เป็นแม่เหล็กหายากที่ทำจากโลหะผสมของนีโอไดเมียม (Nd), เหล็ก (Fe) และโบรอน (B)
- ●แม่เหล็กซาแมเรียม-โคบอลต์ (Samarium Cobalt Magnet) แม่เหล็กหายากอีกชนิด ทำจากซาแมเรียม (Sm) และโคบอลต์ (Co)
- ●แม่เหล็กเฟอร์ไรต์ (Ferrite Magnet) ทำจากออกไซด์ของเหล็กผสมกับแบเรียมหรือสตรอนเชียมคาร์บอเนต
- ●แม่เหล็กอัลนิโค (Alnico Magnet) เป็นโลหะผสมของอะลูมิเนียม (Al), นิกเกิล (Ni), และโคบอลต์ (Co)
2.2 แม่เหล็กไฟฟ้า หรือ แม่เหล็กชั่วคราว (Electro Magnetic)
เป็นแม่เหล็กที่อำนาจแม่เหล็กจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเท่านั้น เมื่อหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไป อำนาจแม่เหล็กก็จะหมดไปด้วยทันที
ดูตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแม่เหล็กธรรมชาติ และแม่เหล็กประดิษฐ์ ได้ใน https://www.kacha.co.th/articles/type-of-magnet/
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
