17 ต.ค. เวลา 12:11 • การศึกษา

10 เรื่องจริงของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

จากเด็กสาวสู้ชีวิตเมืองคอน สู่ศิลปินและนักธุรกิจหญิงร้อยล้าน “เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ” หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” คือหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการบันเทิงและโซเชียลมีเดียของไทยในยุคนี้ ชีวิตของเธอเปรียบเสมือนรถไฟเหาะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทั้งความสำเร็จสูงสุดและดราม่าหนักหน่วง แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและตรงไปตรงมา ยังมีแง่มุมอีกมากมายที่หลายคนอาจยังไม่เคยล่วงรู้ บทความนี้จะพาไปเจาะลึก 10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเธอที่คุณอาจไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
1. จุดเริ่มต้นจากเพลง “ประชดแฟน”
ก่อนที่จะโด่งดังพลุแตกจากเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ที่ร้องโดยน้องสาว “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” จุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อของเจนนี่เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์มาจากเพลงที่เธอแต่งขึ้นเพื่อ “ประชดแฟนเก่า” ในปี 2559 กับเพลง “ไม่สดชื่น” (ซึ่งต่อมากลายเป็นวลีฮิตและส่วนหนึ่งของชื่อค่ายเพลง) ด้วยเนื้อหาและภาษาที่โดนใจวัยรุ่น ทำให้เพลงนี้กลายเป็นไวรัลและเป็นใบเบิกทางให้เธอเข้าสู่วงการเพลงอย่างเต็มตัว
2. สายเลือดศิลปินจากพ่อผู้เป็นนักแต่งเพลง
แม้จะเติบโตมากับแม่และน้องสาวเป็นหลัก แต่ความสามารถด้านการแต่งเพลงของเจนนี่นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ เธอได้รับสายเลือดศิลปินมาจากพ่อของเธอซึ่งเป็นนักแต่งเพลง เรียกได้ว่าพรสวรรค์ด้านดนตรีและการร้อยเรียงถ้อยคำนั้นอยู่ในดีเอ็นเอของเธอเลยทีเดียว
3. บัณฑิตเกียรตินิยม สาขาภาษาอังกฤษ
หลายคนอาจมองภาพเจนนี่เป็นนักร้องลูกทุ่งอินดี้ แต่ในด้านการศึกษา เธอมีความมุ่งมั่นไม่แพ้กัน เจนนี่สำเร็จการศึกษาจากสาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถรอบด้านและความตั้งใจจริงของเธอ
4. เจ้าของ 3 บริษัท โกยรายได้เฉียด 300 ล้านบาท
เจนนี่ไม่ได้เป็นเพียงศิลปินและเจ้าของค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” เท่านั้น แต่เธอยังสวมหมวกนักธุรกิจหญิงเต็มตัว โดยนั่งแท่นบริหารบริษัทถึง 3 แห่ง ครอบคลุมทั้งธุรกิจบันเทิง (บริษัท ได้หมดถ้าสดชื่น จำกัด), ธุรกิจอาหาร (บริษัท มูชิน จำกัด) และธุรกิจอาหารเสริมเครื่องสำอาง (บริษัท เจนนี่โอเค จำกัด) ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าทั้ง 3 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมกันสูงถึงเกือบ 300 ล้านบาท
5. ราชินีไลฟ์สด ทุบสถิติยอดขายมหาศาล
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจนนี่ได้พลิกบทบาทตัวเองสู่การเป็น “ราชินีไลฟ์สด” บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะ TikTok เธอสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับการขายของออนไลน์ด้วยสไตล์การพูดที่เป็นกันเอง สนุกสนาน และทีมงานที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างยอดขายได้หลายร้อยล้านบาทภายในเวลาไม่กี่วัน กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจในวงการตลาดออนไลน์
6. ชีวิตที่ผ่านมรสุมดราม่า จนได้รับฉายา “สาวร้อยดราม่า”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของเจนนี่มักจะมาพร้อมกับกระแสดราม่าที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องส่วนแบ่งค่าตัว, ปัญหาในครอบครัว หรือเรื่องส่วนตัวต่างๆ จนทำให้เธอได้รับฉายาจากสื่อและชาวเน็ตว่าเป็น “สาวร้อยดราม่า” แต่เธอก็สามารถยืนหยัดและก้าวข้ามผ่านทุกมรสุมมาได้เสมอ
1
7. เคยเปรียบตัวเองเป็น “แมว 9 ชีวิต”
จากมรสุมดราม่าที่ถาโถมเข้ามานับครั้งไม่ถ้วน เจนนี่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอเปรียบตัวเองเหมือน “แมว 9 ชีวิต” ที่ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็สามารถลุกขึ้นกลับมาสู้ต่อได้เสมอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหัวใจที่แข็งแกร่งและความเป็นนักสู้ของเธอ
8. คุณแม่ลูกสอง ผู้ทุ่มเทเพื่อครอบครัว
นอกเหนือจากบทบาทในวงการบันเทิงและธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอคือการเป็นแม่ของ “น้องยูจิน” และ “น้องจาญ่า” เธอมักจะแชร์โมเมนต์ที่น่ารักและอบอุ่นกับลูกๆ และสามี “ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว” ให้แฟนคลับได้เห็นอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์
9. จากหนี้สินติดลบสู่การสร้างบ้าน 100 ล้าน
ก่อนจะมีวันนี้ ชีวิตในวัยเด็กของเจนนี่และครอบครัวไม่ได้สุขสบาย เธอเคยเปิดเผยว่าต้องเผชิญกับความยากลำบากและปัญหาหนี้สิน แต่ด้วยความขยัน มุมานะ และไม่ยอมแพ้ เธอสามารถพลิกชีวิตจากติดลบจนประสบความสำเร็จอย่างสูง และล่าสุดได้สร้างบ้านหลังใหม่มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อเป็นของขวัญให้กับความพยายามของตัวเองและครอบครัว
10. ไม่ใช่แค่ “ได้หมดถ้าสดชื่น” แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความสู้ชีวิต”
ชื่อ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” อาจเริ่มต้นมาจากชื่อเพลงและค่ายเพลง แต่ในวันนี้ ชื่อนี้ได้กลายเป็นมากกว่านั้น มันคือสัญลักษณ์ของเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ใช้ความสามารถและความพยายามต่อสู้จนประสบความสำเร็จ เรื่องราวของเธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่กำลังไล่ตามความฝันของตัวเอง
โฆษณา