18 ต.ค. เวลา 12:12 • หนังสือ

รีวิวหนังสือ “Fourth Wing”

เล่มนี้เป็นเล่มแรกของหนังสือชุด The Empyrean ที่ผู้เขียนวางแผนไว้ว่าจะมี 5 เล่ม (ปัจจุบันออกมา 3 เล่มแล้ว) และได้รับรางวัล The British Book Awards 2024 ประเภท Page Turner Book of the Year ด้วย
ผมขอเตือนก่อนว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับการให้เด็กอ่านเองหรือแม้กระทั่งอ่านให้ลูกฟังก่อนนอน เพราะเนื้อหาติดเรทเกิน 18+ เด็กจะต้องมีคำถามแน่นอนว่า แก่นกายคืออะไร ปุ่มกระสันคืออะไร ลำบากผู้ใหญ่ต้องมาอธิบาย แสดงภาพให้ดูไม่ได้ด้วย Ha Ha Ha
ช่วงแรกของเรื่องอ่านไปจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังเพลง Numb ของ Linkin Park เพราะไวโอเล็ต นางเอกของเรื่องมักจะถูกผู้คนรอบข้างกำหนดให้เป็นในสิ่งที่คนอื่นต้องการ และผู้คนต่างไม่เชื่อมั่นในตัวไวโอเล็ตว่าจะทำสิ่งต่างๆ ได้ดี ผมว่าถ้ามีการนำเรื่องนี้ไปทำเป็นซีรีส์ควรนำเพลงนี้มาประกอบจะเหมาะมาก เนื้อเพลง I'm tired of being what you want me to be…Every step that I take is another mistake to you ลอยมาเลย
เล่มที่ 52
โครงเรื่องหลัก คือ การทำสงครามระหว่างสองอาณาจักรซึ่งอยู่ในทวีปเดียวกันที่มีระยะเวลายาวนานถึง 400 ปี
วิทยาลัยการทหารบาสไกอัท (Basgiath War College หรือ BWC) เป็นสถานที่ฝึกทหารในการรบและปกป้องอาณาจักรนาวาร์ ที่ฝั่งตัวละครเอกของเรื่องพักอาศัยและฝึกฝนอยู่
ภาพไวโอเล็ตก่อนเข้าจตุภาคผู้ขี่มังกร สร้างโดย Chat GPT
ไวโอเล็ตมีความฝันอยากเป็นอาลักษณ์เหมือนพ่อ แต่ลิลิธแม่ไวโอเล็ตไม่เห็นด้วย และโทษห้องสมุดที่พ่อไวโอเล็ตทำให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของไวโอเล็ต เธอเชื่อว่าการให้ไวโอเล็ตขลุกอยู่แต่ในห้องสมุดส่งผลให้ร่างกายไวโอเล็ตอ่อนแอ
2
ทำให้ไวโอเล็ตไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้ขี่มังกร เสียเวลาไปกับการอ่านหนังสือและฝึกฝนเพื่อเป็นอาลักษณ์ เมื่อถึงเวลาลิลิธจึงต้องบังคับให้ไวโอเล็ตฝึกฝนเพื่อเป็นผู้ขี่มังกรตามที่ตัวเองคาดหวังไว้ว่า “ตระกูลซอร์เรนเกลทุกคนต้องเป็นผู้ขี่มังกร” ดังที่เธอพูดไว้ว่า “I will not watch one of my children enter the scribe quadrant”
ไวโอเล็ตจำต้องตกอยู่ในสภาพบังคับโดยใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการเตรียมตัวฝึกฝนร่างกายเพื่อเกณฑ์พลเข้าสู่จตุภาคผู้ขี่มังกร ในขณะที่ผู้สมัครคนอื่นส่วนใหญ่ใช้เวลาฝึกฝนตั้งแต่เด็กจนถึงวันสมัคร ทำให้เธอเสียเปรียบเป็นอย่างมาก
ซึ่งวันเกณฑ์พล (Conscription day) เป็นวันที่มักจะมีผู้สมัครขี่มังกรตายกันหลาบสิบคนจากการคัดเลือกที่สุดโหดหิน
มิราพี่สาวไวโอเล็ตมองว่าการที่ลิลิธส่งไวโอเล็ตไปยังจตุภาคผู้ขี่มังกรเปรียบเสมือนการลงโทษประหาร เพราะสภาพร่างกายของเธอที่บอบบางและใช้เวลาในชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือดูไม่เหมาะที่จะเข้าสู่จตุภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นไวโอเล็ตก็ได้คะแนนด้านความเร็วและความคล่องตัว (speed and agility) ตอนสอบเข้าวิทยาลัยอยู่ในระดับสูง
ภาพไวโอเล็ตกับกระดานปาเป้าในห้องนอน สร้างโดย Chat GPT
ความบอบบางของเธอนั้นถูกทดแทนด้วยสติปัญญา ไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์ และความเร็ว (ความเร็วอีกแล้วครับ ตัวเอกที่เก่งๆ มักจะมีความเร็วยอดเยี่ยมเสมอ) ในเรื่องไวโอเล็ตพูดเองว่า “ฉันใช้มีดสั้นได้ไวอยู่ ไวมากด้วย ไวระดับสายฟ้า (Lightning quick)”
ภาพไวโอเล็ตเดินผ่านเชิงเทิน สร้างโดย Chat GPT
การทดสอบเพื่อเข้าสู่จตุภาคผู้ขี่มังกร ต้องแบกเป้เดินผ่านเชิงเทิน (parapet) ที่ทำจากสะพานหิน กว้างราว 18 นิ้ว สูงเหนือพื้นดิน 200 ฟุต ซึ่งปกติมีผู้สมัครราว 15 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ผ่านเชิงเทิน และหากในวันที่ทดสอบสภาพอากาศเลวร้าย ฝนตกพายุกระหน่ำ ก็จะไม่มีการเลื่อน ทำให้ผลลัพธ์ยิ่งเลวร้ายไปอีก
เมื่อเข้ามาได้แล้ว การใช้ชีวิตแต่ละวันของนักเรียนทหารที่มีลักษณะนิสัยโหดเหี้ยมจะคอยหาจังหวะพยายามฆ่ากันเองด้วยความคิดที่ว่า ยิ่งมีทหารน้อยก็ยิ่งเพิ่มแต้มต่อในพิธีคัดสรร ทำให้ตัวเองมีโอกาสที่จะถูกมังกรเลือกมากขึ้น
มิราจึงแนะนำไวโอเล็ตให้หาพันธมิตรเอาไว้ไม่ใช่มิตรตรภาพ “Don’t seek friendships in there, Violet. Forge alliances.”
โถงรวมพล สร้างโดย Chat GPT
การฝึกอันโหดเหี้ยมภายใน 3 ปี ของจตุภาคผู้ขี่มังกรนี้ก็เพื่อต่อกรกับอาณาจักรโพโรเมียลซึ่งมีกริฟฟอนและผู้ขับอันเป็นศัตรูที่อาณาจักรนาวาร์กำหนดไว้ สถิติบอกว่ามีนักเรียนทหารเพียงหนึ่งในสี่ที่รอดชีวิตไปจนจบการศึกษา
ไฮไลท์ของเรื่องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ มังกร (dragon) และพลังประทับ (signet)
มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่เลือกผู้ขี่ของมันเอง ความสัมพันธ์ระหว่างมังกรกับผู้ขี่นั้นลึกซึ้งและมีพลังทางเวทมนตร์ ผู้ที่ผ่านการเลือกจากมังกร หรือพิธีคัดสรร (Threshing) ในวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี จะได้สัญญาเชื่อมโยง (bond) และได้รับพลังพิเศษจากมังกรตัวนั้นที่เรียกว่า “พลังประทับ”
พลังประทับ (signet) คือ พลังพิเศษที่ผู้ขี่ได้รับจากการผูกพันธะกับมังกร ซึ่งความสามารถจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลของความเข้าขากันอันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างผู้ขี่กับมังกร และมักบ่งบอกตัวตนของผู้ขี่มากกว่ามังกร ยิ่งสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นและมังกรทรงพลังมากเท่าไหร่ พลังประทับก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น
ผมว่าพลังนี้น่าจะคล้ายๆ กับพลังสแตนด์ในการ์ตูนเรื่อง Jojo's Bizarre Adventure นะ พลังประทับที่โดดเด่น เช่น พลังของนายพลเมลเกร็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังนาวาร์ ที่มองเห็นผลลัพธ์ของการต่อสู้ล่วงหน้า
พลังประทับ พลังรักษา สร้างโดย Chat GPT
พลังประทับในการรักษาที่หายากในผู้ขี่มังกร พลังรักษานี้ใช้ได้หลากหลาย เช่น ซ่อมแซม ฟื้นฟู และทำให้อะไรก็ตามกลับคืนสู่ภาวะปกติ
หรือจะเป็นพลังกาลักน้ำ ที่ใช้ดูดพลังจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากมังกรตัวอื่นหรือจากผู้ขี่มังกรคนอื่น จากนั้นนำมาใช้หรือส่งมอบให้คนอื่นได้
มังกรมีความผูกพันกับมนุษย์ผู้ถูกเลือกอย่างมาก ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า “A dragon without its rider is a tragedy. A rider without their dragon is dead.” (มังกรที่สูญเสียผู้ขี่คือโศกนาฏกรรม ผู้ขี่ที่สูญเสียมังกรคือคนตาย) ดังนั้นถ้ามังกรตายผู้ขี่จะตายตามไปด้วย แต่ถ้าผู้ขี่ตายหากพันธะไม่ได้ผูกพันกันมากมังกรก็อาจจะไม่ตายตาม
แต่ผมจะไม่พูดถึงมังกรและพลังประทับของตัวละครหลักในเรื่องทั้งหมดนะครับ ไม่งั้นจะสปอยล์หากได้อ่านเองจะหมดความตื่นเต้น เพราะเล่มแรกนี้ความตื่นเต้นมันอยู่ที่การลุ้นว่าตัวละครแต่ละตัวจะได้มังกรตัวไหนและพลังประทับแบบใดนั่นเอง
ภาพมังกร สร้างโดย Chat GPT
-มังกรสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน มาจากสายพันธุ์กอร์มฟาเลียสที่ไม่ธรรมดา ขี้นชื่อเรื่องขนาดที่น่าเกรงขาม เขาเป็นสายพันธุ์ที่โหดเหี้ยมที่สุด โดยเฉพาะชนิดสีฟ้าหางมีดที่หายาก
-มังกรสีแดง ชนิดหางแมงป่อง หากทำให้เขาไม่พอใจเขาจะกินคนนั้น
-มังกรสีดำ ชนิดหางดาวประกายพรึก ตัวใหญ่มาก ขึ้นชื่อว่าเป็นมังกรนักรบ หายากที่สุดและแยกแยะอะไรได้เก่งที่สุด
-มังกรสีเขียว ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดหลักแหลมพวกนี้มาจากสายตระกูลเอว็นลอยด์ซิกอันทรงเกียรติและยังเป็นมังกรที่มีเหตุผลมากที่สุดด้วย ทำให้มังกรสีเขียวเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล้อมโจมตีโดยเฉพาะในกรณีของพวกหางกระบอง
-มังกรสีส้ม มีหลายเฉดสีตั้งแต่เอพริคอตไปจนถึงสีแคร์รอต เป็นมังกรที่คาดเดายากที่สุด สืบเชื้อสายมาจากสายตระกูลเฟโคเรน
-มังกรสีน้ำตาล
บุคคลสำคัญและเทพเจ้า
ภาพไวโอเล็ตหลังเข้าจตุภาคผู้ขี่มังกร สร้างโดย Chat GPT
-ไวโอเล็ต ซอร์เรนเกล (Violet SorrenGail) อายุ 20 ปี นักเรียนทหารผู้ขี่มังกรปี 1 อยู่ฝูงบินที่ 4 เตี้ย เปราะบาง, ไว้ผมเปียยาว ผมสีน้ำตาลแต่ส่วนของปลายผมสีน้ำตาลเริ่มอ่อนลงจนค่อยๆ กลายเป็นสีเงินเหมือนโลหะ (metalic silver), ตาสีน้ำตาลอ่อน (light hazel) ที่ดูก้ำกึ่งระหว่างสีฟ้า (blues) และสีอำพัน (ambers) หลากหลายเฉด, รูปร่างเย้ายวน ไม่มีกล้ามเนื้อ ผิวซีด ตาซีด ผมซีด, มีแม่ชื่อ ลิลิธ ซอร์เรนเกล, พี่ชายชื่อ เบรแเนน ซอร์เรนเกล และพี่สาวชื่อ มิรา ซอร์เรนเกล
เธอเป็นหนอนหนังสือที่มีความฝันอยากทำงานเป็นอาลักษณ์นั่งอ่านหนังสือวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ในหอจดหมายเหตุเหมือนพ่อ แต่ชีวิตพลิกผันเพราะแม่บังคับให้เข้าจตุภาคผู้ขี่มังกรซึ่งเน้นการใช้กำลังเป็นส่วนใหญ่
เธอมีนิสัยรักความถูกต้อง กล้าหาญ ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ และเปิดเผยแม้กระทั่งเรื่องเซ็กซ์ (ต้องเข้าใจก่อนว่าวัฒนธรรมเรื่อง sex ของชาวตะวันตกเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างนึงที่ทุกคนมีได้โดยไม่ต้องผูกมัด คนไทยอ่านก็อาจจะช็อกๆ หน่อย)
แม้ในเล่มแรกนี้ผู้เขียนพยายามบอกเราตลอดทั้งเรื่องว่าไวโอเล็ตฉลาด มีไหวพริบ แต่ผมอ่านแล้วก็รู้สึกเพียงว่าไวโอเล็ตมีความจำเป็นเลิศเท่านั้น เธอมักจะท่องข้อมูลจากความทรงจำเวลาตื่นเต้นเพื่อใช้สมาธิ เมื่ออ่านจบก็ยังไม่ค่อยเห็นเธอใช้ความฉลาดแก้ไขสถานการณ์หรือใช้ให้เป็นประโยชน์ในการต่อสู้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้เล่ห์เหลี่ยมซะมากกว่า
ภาพลิลิธ ซอร์เรนเกล สร้างโดย Chat GPT
-นายพลซอร์เรนเกล (General SorrenGail) หรือลิลิธ ซอร์เรนเกล (Lilith SorrenGail) ผมสีน้ำตาลบลอนด์สั้น มีความทระนงตน ใส่เครื่องแบบสีดำพอดีตัว มีเส้นสายบนชุดเครื่องแบบ รองเท้าบูทสีดำขัดมันวาววับ (ห้องทำงานมีเก้าอียาวสีแดงสดบุนวม โต๊ะทำงานที่สะอาดเอี่ยม มีดวงตามังกรที่สลักอยู่บนขาเครื่องเรือนขนาดใหญ่ มีไฟจากพลังเวทมนต์ (mage lights) วูบวาบจากเชิงเทียนติดผนัง) มีมังกรสีน้ำตาล ชื่อเอมเซอร์ (Aimsir) มีพลังประทับควบคุมพายุ
ภาพมิรา ซอร์เรนเกล สร้างโดย Chat GPT
-มิรา ซอร์เรนเกล (Mira SorrenGail) หรือร้อยโท ซอร์เรนเกล (Lietenant SorrenGail) อายุ 26 ปี ผมสีน้ำตาลบลอนด์สั้น, มีดวงตาสีน้ำตาล, มือแข็งแรง, สูง, ผิวเปล่งประกายอย่างคนสุขภาพดี และมีกล้ามเนื้อแข็งแรงทรงพลัง มีความทระนงตนแบบเดียวกับลิลิธ เป็นพี่สาวไวโอเล็ต เป็นผู้ขี่มังกร มีมังกรสีเขียวชื่อไทร์ (Teine’s)
ภาพเบรนแนน ซอร์เรนเกล สร้างโดย Chat GPT
-เบรนแนน (Brennan SorrenGail) พี่ชายไวโอเล็ต ผมหยักศกสีน้ำตาลแดงตัดสั้นติดหนังศีรษะ, มีริ้วรอยเล็กๆ รอบดวงตา, มีลักยิ้ม
ภาพเซเดน ไรออร์สัน สร้างโดย Chat GPT
-เซเดน ไรออร์สัน (Xaden Riorson) นักเรียนทหารผู้ขี่มังกรปี 3 หัวหน้าฝูงบินที่ 4 ลูกชายของผู้นำกบฎที่ลิลิธสั่งประหาร รูปร่างสูง 6 ฟุต, มีกล้ามเนื้อ, ผิวสีน้ำตาลอบอุ่ม, ผมสีดำยุ่งเหยิง, คิ้วสีเข้ม, หนวดสีเข้ม, ดวงตาสีโอนิกซ์ผสมเกล็ดทอง, แนวขากรรไกรแข็งแรง หน้าแข็งกร้าว, เป็นผู้ชายที่งดงาม ดูสมบูรณ์แบบจนน่าทึ่ง, มีแผลเป็นแนวทแยงที่ผ่ากลางคิ้วซ้าย
รอยฝากฝังของกบฏคดโค้งเป็นเส้นสายขึ้นลงและวนเวียนเริ่มต้นที่ข้อมือซ้ายก่อนหายลงไปใต้เครื่องแบบสีดำแล้วโผล่มาอีกครั้งที่คอเสื้อจากนั้นแผ่ออกแลละวนขึ้นไปตามลำคอก่อนจะหยุดลงที่แนวขากรรไกร
ภาพเดน เอโทส สร้างโดย Chat GPT
-เดน เอโทส (Dain Aetos) นักเรียนทหารผู้ขี่มังกรปี 2 หัวหน้าหมู่ 2 หน่วยเปลวไฟ หล่อ (gorgeous), ร่างสูงใหญ่, มีเครา (beard) ปกคลุมขากรรไกร, ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน, ผมสีน้ำตาลอ่อนอมทองที่ตัดสั้นเกรียน, กล้ามแน่น, มีแผลเป็นอยู่ที่ใต้เคราตามแนวคาง
ภาพริแอนนอน แมตเทียส สร้างโดย Chat GPT
-ริแอนนอน แมตเทียส (Rhiannon Matthias) นักเรียนทหารผู้ขี่มังกรปี 1 ฝูงบินที่ 4 เพื่อนสนิทไวโอเล็ต ผิวคล้ำ มีมังกรสีเขียวหางมีดชื่อเฟียร์ก
ภาพแจ๊ก บาร์โลว์ สร้างโดย Chat GPT
-แจ๊ก บาร์โลว์ (Jack Barlowe) นักเรียนทหารผู้ขี่มังกรปี 1 หมวดเปลวไฟ ฝูงบินที่ 1 ผู้จ้องจะฆ่าไวโอเล็ต คิ้วสีทองหนา, มีดวงตาสีฟ้าเหมือนน้ำแข็ง (artic blue eyes), โครงร่างใหญ่ยักษ์
เทพเจ้า 6 องค์ ได้แก่
1.Malek เทพแห่งความตาย
2.Dunne เทพีแห่งสงคราม
3.Zinhal เทพเจ้าแห่งโชคลาภ
4.Amari ราชินีแห่งเทพเจ้า
5.Loial เทพีแห่งความรัก
6.Hedeon เทพเจ้าแห่งปัญญา
เพราะฉะนั้นฉบับแปลไทย ตัวละครในเรื่องมักจะอุทานว่า “โอ้วทวยเทพ” เนื่องจากพื้นหลังของเรื่องมีการนับถือและบูชาเทพเจ้านั่นเอง โอ้วทวยเทพจึงไม่ใช่การแปลมาจากคำอุทานทั่วไปว่า Oh my god นะ
-ยศสูงสุดของนักเรียนทหารในจตุภาค คือ
1.หัวหน้าฝูงบิน (เป็นตำแหน่งของปี 3 ระดับสูง)
2.หัวหน้าหมวด
3.หัวหน้าหมู่ (เป็นตำแหน่งของปี 2 ที่โดดเด่นมากพอ)
ทั้งหมดมี 4 ฝูงบิน หนึ่งฝูงบินมี 3 หมวด หนึ่งหมวดมี 3 หมู่
อาชีพสำคัญ
-ผู้ขี่มังกร (Riders) เป็นชนชั้นสูงสุดในสังคมและทหาร ใส่เครื่องแบบเสื้อสีดำแขนยาวขนาดพอดีตัว มีเสื้อกั๊ก (vest-style corset) สวมทับอีกที ความยาวตั้งแต่เหนือหน้าอกจนถึงท้องใส่กางเกงหนังกระชับส่วนสีดำ เครื่องแบบ (black uniform) มีช่องใส่ daggers หลายช่องอยู่ที่ด้านข้างลำตัว corset และต้นขาของกางเกง ใส่รองเท้าบู๊ต (boots) แบบมีเส้นยางกันลื่น
-ทหารราบ (Infantry)
-ผู้เยียวยา (Healers) ไม่มีเวทมนตร์ ต้องอาศัยยาน้ำและการฝึกฝนทางการแพทย์เพื่อเยียวยา
-อาลักษณ์ (Scribes) ทำงานในหอจดหมายเหตุ เครื่องแบบใส่เสื้อตัวยาวสีครีม (cream-colored tunic)
สถานที่สำคัญ
-อาณาจักรนาวาร์ (Navarre) อุดมสมบูรณ์ด้วยกวางและไม้เนื้อแข็ง มีแคว้นที่สำคัญ คือ ไทร์เรนเดอร์ (Tyrrendor) เป็นแคว้นทางใต้สุดและใหญ่ที่สุดมีพรมแดนติดกับแคว้นโครฟลา (Krovla) เป็นแคว้นสุดท้ายที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรและสวามิภักดิ์ต่อราชาเรจินัลด์
-อาณาจักรโพโรเมียล (Kingdom of Poromiel) ประกอบด้วยพื้นที่ราบลุ่มที่เหมาะแก่การเพาะปลูกและที่ลุ่มน้ำขัง มีอัญมณีคริสตัลที่เพิ่มประสิทธิภาพเวทมนต์ทั่วไปได้ มีแคว้นที่สำคัญ คือ โครฟลา (Krovla), เบรวิก (Braevick), ซิกนิเซน (Cygnisen), บาร์เรนส์ (Barrens) มีพื้นที่เป็นทะเลทราย
-จตุภาคผู้ขี่มังกร (Riders Quadrant)
-จตุภาคทหารราบ (Infantry Quadrant)
-จตุภาคผู้เยียวยา (Healer Quadrant)
-จตุภาคอาลักษณ์ (Scribe Quadrant) อยู่ชั้นใต้ดินของวิทยาลัย
-ตึกโดมมังกร (Dragon Rotunda)
การใช้สำนวนเล่าเรื่องทำให้รู้สึกว่าเขียนมาเพื่อให้ถูกสร้างเป็นซีรีส์หรือภาพยนต์ มีฉากตลกขำๆ ที่ไวโอเล็ตบ่นตอนที่มิราเถียงกับแม่แล้วสาธยายถึงปมด้อยต่างๆ ของไวโอเล็ต ต่อหน้า ประมาณว่า “นี่เรียกกูมาด่าเหรอเนี่ย”
หรือจะเป็นตอนที่ไวโอเล็ตกบ่นกับตัวเองเวลาเจอปัญหาเช่น “If I panic, I’ll die. If I slip, I’ll die. If I… Oh, fuck it. There’s nothing more I can do to prepare for this. ทำให้อ่านไปก็ยิ้มไป
ฉากต่อสู้บรรยายได้เห็นภาพดี รู้สึกลุ้นระทึกตามว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป การใช้พลังประทับของตัวละครทำให้ดูคล้ายพลังพิเศษในอนิเมะญีปุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านมังงะ แม้บางพลังจะดูเก่งเวอร์แต่ก็มีเงื่อนไขที่จำกัดทำให้ไม่เก่งเกินไปและสามารถพลิกแพลงได้หากใช้ความคิดสร้างสรรค์ ต้องรอดูเล่มต่อไปว่าผู้เขียนจะมีจินตนาการด้านการต่อสู้ที่ฉลาดขนาดไหน
ผู้เขียนยังฉลาดในการเล่าเรื่องให้ลื่นไหลทำให้ไม่ดูน่าเบื่อเกินไป จึงใช้วิธีเล่าประวัติความเป็นมาของตัวละครหรือสถานที่ผ่านการให้ไวโอเล็ตที่เป็นหนอนหนังสือพูดออกมาในขณะที่ไวโอเล็ตกำลังต้องการทำจิตใจให้สงบอย่างตอนที่ไวโอเล็ตพูดไว้ว่า “I am a scholar. There’s nowhere as calming as the archives, so that’s what I think of. Facts Logic. History. …The Continent is home to two kingdoms—and we’ve been at war four hundred years.”
ผู้เขียนใช้ภาษาทันสมัย เข้าใจง่าย เล่าผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ก็คือตัวไวโอเล็ตเอง
การชวนให้คิดว่าศัตรูที่แท้จริงเป็นใครกันแน่ และสิ่งที่ตัวละครรับฟังและเชื่อมั่นมาตลอดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ถือว่าทำได้ดี
การพัฒนาตัวละครที่ค่อยๆ เติบโตจากอ่อนแอไปสู่เข้มแข็ง แม้ไวโอเล็ตจะดูบอบบางและอ่อนแอ และขี่มังกรได้ไม่คล่องสักที แต่ผู้เขียนก็ทดแทนด้วยสติปัญญาและความคล่องตัว บวกกับการได้มังกรดีที่ผูกพันธะด้วยทำให้ช่วงท้ายเล่มไวโอเล็ตมีพลังที่สามารถฆ่าศัตรูได้ด้วย one hit kill เลยละ
ข้อเสีย คือ ช่วงท้ายเล่มผู้เขียนอธิบายถึงฉากเซ็กส์บ่อยมาก บรรยายละะอียดลึกซึ้งหลายสิบหน้า ประหนึ่งว่าอยากให้เราไปร่วมสังเกตการณ์ทุกกระบวนท่าร่วมรักของตัวละคร แม้เราจะเป็นผู้ชายแต่พอมันเยอะไปทำให้รู้สึกรำคาญเหมือนกันนะ บางทีอยากอ่านฉากบู๊แล้วอะ นี่ก็จะจัดกันอย่างเดียวเลย ก็เข้าใจแนวเรื่องของผู้เขียนนะว่าเป็นแนว romantic fantasy แต่บรรยายขนาดนี้ไม่ใช่แค่โรแมนติกแล้วแหละ นี่มันหนัง x ชัด ๆ 555 ตกใจตรงผู้เขียนเป็นผู้หญิงนี่สิ บางทีโลกเราก็ไปไกลจนตามไม่ทันนะ Ha Ha Ha
ความคลั่งรักของไวโอเล็ตเยอะเกินไป ประมาณว่าฉันคิดถึงเธอกลางวัน ฝันถึงเธอกลางคืน ไม่เป็นอันตั้งใจเรียนเลยละ Ha Ha Ha แต่ก็เข้าใจได้นะก็หนอนหนังสือที่มีความรักในช่วงวัยรุ่นก็น่าจะเป็นแบบนี้แหละ
รูปแบบการเขียนให้ตัวละครเล่าเรื่องบางครั้งก็ชวนสับสนว่าคำพูดนี้เป็นของใคร และตัวละครพูดออกเสียงหรือคิดในใจก็ไม่อาจทราบได้ เพราะส่วนใหญ่ผู้เขียนไม่ได้เขียนกำกับไว้ชัดเจน เพียงแค่เขียนประโยคติดกันไป เราต้องอาศัยบริบทของเรื่องราวจินตนาการเอาเองว่าใครพูดคำพูดนี้ หรือแค่คิดในใจ ซึ่งบางครั้งก็ไม่รู้จริงๆ ทำให้ต้องทำใจอ่านผ่านๆ ไป
ภาษาพูด สำนวน และคำแสลงที่น่าสนใจจากการอ่านฉบับภาษาอังกฤษไปด้วยบางส่วน
1.a pain in the ass = ทำตัวห่วยแตก, น่ารำคาญ
2.to get laid (slang) ก็คือ Have sex with somebody = นอนกับ, มีอะไรด้วย
3.reeks of arrogance = เต็มไปดัวยความเย่อหยิ่ง, หลงตัวเอง
4.my pulse skyrockets = ชีพจรของฉันเต้นเร็วมาก
5.I don’t give a shit = ฉันไม่สนใจ (เป็นภาษาพูดที่ค่อนข้างหยาบคาย)
ข้อคิดสอนใจ
1.บางเรื่องแม้เราไม่ต้องการกระทำ แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ และเมื่อลงมือทำแล้วก็ควรทำอย่างสุดความสามารถ แม้ใครๆ ต่างก็คิดว่าเราทำไม่ได้ก็ตาม ตัวอย่างเช่นตอนที่ มิราและเดนต่างก็กล่าวกับไวโอเล็ตในทำนองเดียวกันว่า “You were never meant for the riders quadrant” แต่สุดท้ายไวโอเล็ตก็ทำจนสำเร็จพิสูจน์ตัวเองได้ว่าคู่ควรกับจตุภาคผู้ขี่มังกร
2.ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน จงเตรียมพร้อมและอยู่ในความไม่ประมาท
3.บางครั้งสิ่งที่เราเชื่อมั่นมาตลอดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อถึงทางเลือกที่ต้องเลือก จงเลือกอย่างมีสติ อย่างที่ Peter Drucker กล่าวคำคมไว้ว่า “It’s more important to do the right thing than to do things right”
ภาพแทร์นและอันดาร์นา สร้างโดย Chat GPT
สรุปให้ 5/5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ผู้เขียน : Rebecca Yarros
ผู้แปล : พลอย โจนส์
สำนักพิมพ์ : Words publishing
หมวด : นิยายแฟนตาซี
ขนาดรูปเล่ม : 145 x 210 x 320 มม.
น้ำหนัก : 791 กรัม
จำนวนหน้า : 656 หน้า ปกอ่อน
ISBN : 9786161870614
หนังสือราคา 595 บาท มี 656 หน้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา