18 ต.ค. เวลา 12:30 • ข่าวรอบโลก

แผนคุยสันติภาพ – หมายจับศาล - ห้ามบินผ่านน่านฟ้า

“ออร์บัน” กระตือรือร้นที่จะต้อนรับ “ปูติน” เพื่อมาคุยกับ “ทรัมป์” ที่ฮังการี แม้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จะออกหมายจับเขา แต่มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจะขัดขวางการประชุมสุดยอดของทรัมป์ได้หรือไม่
หลังการโทรหารือกับ “ปูติน” เป็นเวลานานหลายชั่วโมง เมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา “ทรัมป์” ได้ประกาศแผนการที่จะพบปะกับประธานาธิบดีรัสเซียที่ฮังการี [1]
ที่มาภาพ: Truth @realDonaldTrump
การที่ปูตินกำลังเผชิญหมายจับจาก ICC ในข้อหาพรากเด็กชาวยูเครนจากสงคราม น่าจะทำให้เขาไม่สามารถพบกับผู้นำสหรัฐบนแผ่นดินยุโรปได้โดยง่ายเหมือนครั้งที่อลาสกา (สหรัฐไม่ได้ร่วมธรรมนูญกรุงโรมในการปฏิบัติตามคำสั่ง ICC)
แต่เจ้าหน้าที่ฮังการีกลับรีบออกมาประกาศต่อสาธารณชนว่าพวกเขาจะ “ต้อนรับปูตินด้วยความเคารพ” แทนที่จะใส่กุญแจมือ บูดาเปสต์กำลังอยู่ในขั้นตอนการถอนตัวออกจากธรรมนูญกรุงโรมสำหรับ ICC และไม่เคยลังเลที่จะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศในอดีต
อย่างไรก็ตามเครมลินยังคงต้องหาทางหลีกเลี่ยงการห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านน่านฟ้าของสหภาพยุโรป แล้วปูตินจะเดินทางเข้าไปยังฮังการีที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลได้อย่างไร เหตุใดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจึงอาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการประชุมสุดยอดของทรัมป์กับปูตินมากกว่าหมายจับปูติน
เครดิตภาพ: The Telegraph
ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ได้ออกหมายจับปูติน มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ในข้อหาสั่งพรากเด็กออกจากดินแดนยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองอย่างผิดกฎหมาย (ยูเครนตะวันออก) อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความคิดริเริ่มของฮังการีที่จะจัดประชุมสุดยอดครั้งนี้
อันที่จริงฮังการีกำลังอยู่ในขั้นตอนการถอนตัวออกจาก ICC โดยสิ้นเชิง รัฐบาลฮังการีประกาศการตัดสินใจถอนตัวออกจากศาลโลกเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่บูดาเปสต์ต้อนรับ “เนทันยาฮู” สำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการ แม้ว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอลจะถูกหมายจับจาก ICC ด้วยเช่นกัน ในข้อหาอาชญากรรมสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซาก็ตาม [2]
1
รัฐสภาฮังการีลงมติถอนตัวจากธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาก่อตั้งของ ICC เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา สองสัปดาห์ต่อมาบูดาเปสต์ได้แจ้งอย่างเป็นทางการต่อเลขาธิการสหประชาชาติว่าฮังการีจะถอนตัวจากสนธิสัญญาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม “ภายใต้มาตรา 127 ของธรรมนูญกรุงโรม การถอนตัวจะเริ่มมีผลทางกฎหมายนับตั้งแต่หนึ่งปีหลังจากการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร คือในวันที่ 2 มิถุนายน 2026” [3]
จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฮังการีก็ยังคงต้องอยู่ภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม และปฏิบัติตามเงื่อนไขเต็มตัวของ ICC และยังคงผูกพันตามพันธกรณีทั้งหมดของธรรมนูญกรุงโรม รวมถึงการให้ความร่วมมือกับหมายจับและการสอบสวน ซึ่งหมายความว่าทางการฮังการีจะต้องดำเนินมาตรการจับกุมปูตินทันที หากเขาก้าวเข้ามาในประเทศก่อนวันที่ 2 มิถุนายน 2026 กล้าไหม?
ภาพมีมที่สื่อฝ่ายยุโรปทำขึ้นเพื่อล้อความมุ่งมั่นในการจัดประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับปูตินในฮังการี เครดิตภาพ: Euromaidan Press
  • การเพิกเฉยต่อหมายศาล ICC
แม้ว่าศาลฮังการีจะไม่มีอำนาจเพิกถอนหมายจับของ ICC ได้เอง แต่ภายใต้มาตรา 59 แห่งธรรมนูญกรุงโรม ศาลมีสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้ปูตินได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในกรณี “สถานการณ์เร่งด่วนและเป็นข้อยกเว้น”
อย่างไรก็ตามศาลจะต้องพิจารณาว่ามี “มาตรการป้องกันที่จำเป็น” เพื่อให้มั่นใจว่าฮังการีสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการส่งตัวเขาให้กับ ICC ได้หรือไม่ กล่าวอีกนัยหนึ่งบูดาเปสต์จะต้องส่งมอบตัวปูตินในที่สุด
กล่าวคือฮังการีสามารถเพิกเฉยต่อหมายจับปูตินของ ICC ได้ เช่นเดียวกับที่เคยทำในกรณีของเนทันยาฮู ICC ไม่มีอำนาจต่อรองที่ได้ผลเหนือประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามธรรมนูญกรุงโรม และปูตินก็เคยหลบเลี่ยงหมายจับมาแล้วถึง 2 ครั้ง
นั่นคือเมื่อครั้งปูตินเดินทางเยือนมองโกเลียในเดือนกันยายน 2024 และล่าสุดไปเยือนทาจิกิสถานเมื่อเร็วนี้ในเดือนตุลาคม 2025 แม้ว่าทั้งสองประเทศจะเป็นสมาชิกของ ICC ก็ตาม แทนที่จะดำเนินการจับกุมปูติน ทั้งมองโกเลียและทาจิกิสถานกลับเพิกเฉยต่อพันธกรณีของตน [4]
ทางการฮังการีได้ให้คำมั่นว่าจะต้อนรับปูตินแล้ว “เราจะทำให้แน่ใจว่าเขาเดินทางเข้าฮังการี เจรจาที่นี่สำเร็จ และกลับบ้านปลอดภัย” ปีเตอร์ ซิจยาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฮังการีกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา [5]
ก่อนหน้านี้ วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการีโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เขาได้พูดคุยกับปูตินแล้ว และการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดกับทรัมป์ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่” [6]
  • ปัญหาเรื่องน่านฟ้าของยุโรป
เมื่อพิจารณาจากหมายจับปูตินของ ICC และมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจำนวนมาก โอกาสที่ประธานาธิบดีรัสเซียจะเดินทางมายังประเทศในสหภาพยุโรปเป็นไปได้ยากมาก จึงทำให้เกิดคำถามว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เขาบินผ่านกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้หรือไม่
หมายจับ ICC ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญ แม้ว่าประเทศสมาชิกจะเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าละเมิดพันธกรณีของตนเมื่ออนุญาตให้ใช้น่านฟ้าของตนก่อนหน้านี้ เช่น เมื่อกรกฎาคม “ฟรานเชสกา อัลบาเนเซ” ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองได้ออกมาตำหนิ อิตาลี ฝรั่งเศส และกรีซ ที่อนุญาตให้เนทันยาฮูของอิสราเอลบินผ่านดินแดนของตนเพื่อมุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกาได้ [7]
1
“รัฐบาลของอิตาลี ฝรั่งเศส และกรีซ จะต้องอธิบายว่าเหตุใดจึงเปิดให้น่านฟ้าและเส้นทางที่ปลอดภัยแก่ เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศต้องการตัว ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องจับกุมตัวเขา” เธอโพสต์บน X (เรื่องนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เนทันยาฮูได้รับอนุญาตให้บินผ่านกรีซ มาซิโดเนียเหนือ และเซอร์เบีย เพื่อมุ่งหน้าไปยังฮังการี)
ภาพถ่ายตอนเนทันยาฮูเดินทางมาเยือนฮังการี โดยรอดจากหมายศาล ICC เครดิตภาพ: Bernadett Szabo / Reuters
การที่สหภาพยุโรปสั่งห้ามเครื่องบินรัสเซียบินผ่านดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่กว่าเรื่องหมายจับ ICC อย่างไรก็ตามโฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปได้ชี้แจงเมื่อ 17 ตุลาคม 2025 ว่าไม่มีการห้ามเดินทางของปูตินไปทั่วทั้งกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (มีเพียงการอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย) [8]
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากต้องการเดินทางไปยังฮังการีที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ปูตินเพียงแค่ต้องหาทางหลีกเลี่ยงการห้ามเครื่องบินรัสเซียทุกลำบินผ่านน่านฟ้าของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ
แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจะอนุญาตให้รัฐบาลของแต่ละประเทศสามารถยกเว้นการแบนเครื่องบินรัสเซียบินผ่าน แต่การขอข้อยกเว้นที่จำเป็นอาจเป็นเรื่องยากสำหรับปูติน “เขาจำเป็นต้องได้รับอนุญาตให้บินผ่านบางประเทศ ผมไม่อยากคาดเดาว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่ผมดีใจที่ผมไม่ใช่คนวางแผนการเดินทางของเขา” นักการทูตอาวุโสของสหภาพยุโรปกล่าวกับ Politico [9]
เครดิตภาพ: Illustrated by Salon, Source: Getty Images
เรียบเรียงโดย Right Style
18th Oct 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: My Voice My Choice>
โฆษณา