Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ด.ดล Blog
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
19 ต.ค. เวลา 13:39 • ธุรกิจ
Grab ชนะ Uber ได้อย่างไร? กับสงคราม Ride-Hailing ที่ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์
ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่น่าเสียดายที่สุดในชีวิต หลายคนอาจตอบว่าคือการไม่ได้ทำตามความฝัน แต่สำหรับบางคน การมีอนาคตที่ถูกขีดเส้นไว้ให้แล้ว อาจเป็นสิ่งที่น่าเสียดายยิ่งกว่า
Anthony Tan เขาเกิดมาพร้อมกับอนาคตที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน ในฐานะทายาทของ Tan Chong Motor กลุ่มธุรกิจยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของมาเลเซีย
เส้นทางชีวิตของเขาถูกกำหนดไว้แล้วอย่างชัดเจน เรียนจบกลับมา ก็เตรียมรับช่วงต่ออาณาจักรธุรกิจที่ปู่ของเขาสร้างมากับมือ มันคือชีวิตที่มั่นคง สะดวกสบาย และไร้ความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง
แต่แล้วคืนหนึ่ง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเพื่อนสนิทของเขาถูกคนขับแท็กซี่ทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนค้อนที่ทุบกำแพงโลกอันสวยหรูของ Anthony ให้พังทลายลงมา
มันทำให้เขาตระหนักถึงความจริงอันโหดร้ายว่า แม้แต่การเดินทางขั้นพื้นฐานที่สุดในบ้านเกิดของตัวเอง ก็ยังเต็มไปด้วยอันตรายที่มองไม่เห็น
ย้อนกลับไปในยุคนั้น การเรียกแท็กซี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเหมือนการเสี่ยงโชค คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะเจอกับคนขับแบบไหน มิเตอร์จะถูกใช้จริงหรือไม่ หรือจะไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยหรือเปล่า
ปัญหานี้เป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดจะแก้ไขมันอย่างจริงจัง จนกระทั่งประกายไฟแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ถูกจุดขึ้นในใจของ Anthony Tan
ณ มหาวิทยาลัย Harvard ที่ซึ่งเป็นแหล่งรวมหัวกะทิจากทั่วโลก Anthony ได้พบกับ Tan Hooi Ling (ตัน ฮุยหลิง) เพื่อนร่วมชั้นผู้มีพื้นฐานด้านวิศวกรรมที่เฉียบแหลม
ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ พวกเขานำเอาความเจ็บปวดจากประสบการณ์ส่วนตัว มาผนวกเข้ากับความรู้และเทคโนโลยีที่อยู่ตรงหน้า
ทั้งสองมองเห็นตรงกันว่า “สมาร์ทโฟน” ที่กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนนี่แหละ คือกุญแจสำคัญที่จะเข้ามาไขปัญหานี้ได้
พวกเขาจึงร่วมกันร่างแผนธุรกิจสำหรับแอปพลิเคชันที่จะเชื่อมต่อผู้โดยสารกับคนขับแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว มีระบบติดตาม GPS และมีระบบให้คะแนนเพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัย
เมื่อเรียนจบ Anthony Tan ก็มายืนอยู่บนทางแยกที่สำคัญที่สุดในชีวิต ทางหนึ่งคือเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบสู่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของธุรกิจครอบครัว
ส่วนอีกทางคือเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม ของการเริ่มต้นธุรกิจใหม่จากศูนย์ กับไอเดียที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รับการยอมรับหรือไม่
และเขาก็เลือกทางที่สอง Anthony Tan ตัดสินใจหันหลังให้กับมรดกมูลค่ามหาศาล เพื่อเดิมพันทุกอย่างกับบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่ชื่อว่า MyTeksi ในปี 2012
การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ แต่มันคือการประกาศสงครามกับความไม่ปลอดภัยและความไม่เป็นธรรมที่ฝังรากลึกในสังคมมาอย่างยาวนาน
แน่นอนว่าเส้นทางของผู้ประกอบการไม่เคยง่าย ความท้าทายแรกที่พวกเขาต้องเผชิญคือการโน้มน้าวให้คนขับแท็กซี่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ เข้ามาอยู่ในระบบให้ได้
ลองนึกภาพคนขับแท็กซี่ในยุคนั้น ที่คุ้นเคยกับการวิ่งรถหาผู้โดยสารตามท้องถนน จู่ๆ ก็มีคนหนุ่มสาวสองคนมาบอกให้พวกเขาใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ไม่คุ้นเคย
คำตอบที่พวกเขาได้รับกลับมาส่วนใหญ่จึงเป็นการปฏิเสธ หลายคนมองว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยาก และอาจเป็นภัยคุกคามต่ออาชีพของพวกเขาด้วยซ้ำ
Anthony และทีมงานต้องลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ไปพูดคุยกับคนขับทีละคน อธิบายแนวคิด และสร้างความเชื่อมั่น แต่มันก็เหมือนกับการพยายามย้ายภูเขาทั้งลูก
จนกระทั่งพวกเขาค้นพบจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อคนขับกลุ่มเล็กๆ ที่ยอมทดลองใช้ระบบในตอนแรก เริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แอปช่วยให้พวกเขาหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น ลดเวลาที่ต้องวิ่งรถเปล่า ข่าวนี้เริ่มแพร่กระจายไปแบบปากต่อปากในหมู่คนขับด้วยกันเอง
จากที่เคยต้องวิ่งไล่ตามเพื่อขอให้เข้าร่วม กลับกลายเป็นว่ามีคนขับจำนวนมากเดินทางมาขอเข้าร่วมกับ MyTeksi เอง ปรากฏการณ์นี้ได้พิสูจน์แล้วว่าโมเดลธุรกิจของพวกเขามาถูกทาง
เมื่อฐานที่มั่นในมาเลเซียแข็งแกร่ง MyTeksi ก็ได้รีแบรนด์ตัวเองเป็น Grab เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า และเริ่มขยายอาณาเขตออกไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่แล้วบททดสอบที่แท้จริงก็ได้มาถึง เมื่อยักษ์ใหญ่จากซิลิคอนแวลลีย์อย่าง Uber ได้ประกาศสงครามกับพวกเขา
การมาถึงของ Uber ในปี 2013 ไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดา แต่มันคือการเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีทั้งเงินทุนมหาศาล เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และแบรนด์ที่แข็งแกร่งทั่วโลก
Uber เปิดฉากสงครามด้วยการทุ่มตลาดอย่างหนัก หรือที่เรียกว่า “สงครามราคา” (Price War) พวกเขาอัดฉีดโปรโมชันลดราคาค่าโดยสาร และให้โบนัสก้อนโตกับคนขับ เพื่อหวังจะกำจัดคู่แข่งท้องถิ่นให้สิ้นซาก
สถานการณ์ในตอนนั้นดูเหมือนว่า Grab ที่เป็นเพียงสตาร์ทอัพเล็กๆ กำลังจะถูกคลื่นยักษ์ซัดหายไปในไม่ช้า
แต่ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ Grab กลับมีอาวุธลับที่ Uber ไม่มี นั่นคือความเข้าใจในตลาดท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
ในขณะที่ Uber พยายามใช้โมเดลธุรกิจแบบเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก Grab กลับใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “Hyper-localization” คือการปรับตัวให้เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่
ตัวอย่างเช่น ในเมืองที่การจราจรติดขัดอย่างกรุงเทพฯ และจาการ์ตา Grab ได้เปิดตัวบริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่าง GrabBike ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างตรงจุด
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญคือการยอมรับ “เงินสด” ในขณะที่ Uber ยืนกรานที่จะรับชำระผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น Grab เข้าใจดีว่าคนส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ยังคงคุ้นเคยกับการใช้เงินสดมากกว่า
ความยืดหยุ่นและการปรับตัวนี้เอง ที่ทำให้ Grab สามารถเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่ Uber ไม่สามารถเข้าถึงได้
แต่ Anthony Tan รู้ดีว่าการต่อสู้ในระยะยาว ไม่สามารถพึ่งพาแค่การปรับตัวได้ พวกเขาต้องสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนกว่านั้น
และนี่คือจุดกำเนิดของแผนการที่จะเปลี่ยนเกมไปตลอดกาล นั่นคือการวิวัฒนาการตัวเองจากแอปเรียกรถ ไปสู่การเป็น “Super App”
Grab เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว GrabPay ระบบชำระเงินดิจิทัล และตามมาด้วย GrabFood บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี ที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย
กลยุทธ์นี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่จะเปิดแอปก็ต่อเมื่อต้องการเดินทาง ตอนนี้ผู้คนเปิดแอป Grab ทุกวันเพื่อสั่งอาหาร ชำระเงิน และใช้บริการอื่นๆ
มันได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า “ระบบนิเวศ” ที่แข็งแกร่งขึ้นมา ผู้ใช้ที่เข้ามาเพราะบริการหนึ่ง ก็มีแนวโน้มที่จะใช้บริการอื่นๆ ต่อไป ทำให้พวกเขาอยู่ในแพลตฟอร์มของ Grab ได้นานขึ้น
ในขณะที่ Uber ยังคงต่อสู้ในสมรภูมิเดิม Grab ก็ได้ย้ายตัวเองไปเล่นในเกมที่ใหญ่กว่า และสร้างปราการที่แข็งแกร่งจนคู่แข่งไม่สามารถตามทันได้
และแล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง วันที่ผลลัพธ์ของสงครามครั้งนี้ปรากฏอย่างเป็นทางการ
ในวันที่ 26 มีนาคม ปี 2018 โลกได้จารึกข่าวสำคัญ เมื่อ Uber ประกาศยอมยกธงขาว และตัดสินใจขายกิจการทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กับคู่แข่งอย่าง Grab
มันคือบทสรุปของมหากาพย์การต่อสู้ที่ยาวนาน และเป็นชัยชนะของสตาร์ทอัพท้องถิ่น ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความเข้าใจในลูกค้าสามารถเอาชนะเงินทุนมหาศาลได้
ดีลประวัติศาสตร์ครั้งนี้ทำให้ Grab กลายเป็นผู้เล่นที่ครองตลาดในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง แต่ชัยชนะก็มาพร้อมกับความท้าทายบทใหม่
หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าในหลายประเทศ เริ่มเข้ามาตรวจสอบการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างเข้มข้น ด้วยความกังวลว่าจะเกิดการผูกขาดตลาด
Grab ต้องเผชิญกับบททดสอบด้านกฎระเบียบและต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
แต่พวกเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Grab ยังคงเดินหน้าขยายบริการของ Super App ให้ครอบคลุมทุกมิติของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การเงิน การลงทุน ไปจนถึงบริการด้านสุขภาพ
และในที่สุด การเดินทางที่เริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ ของคนสองคน ก็ได้มาถึงจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม ปี 2021
เมื่อ Grab ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา ด้วยมูลค่าบริษัทสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากเด็กหนุ่มที่เกือบจะต้องรับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว วันนี้ Anthony Tan ได้กลายเป็นผู้นำของหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในภูมิภาค
เรื่องราวของ Grab ไม่ใช่แค่ตำราสอนธุรกิจ แต่เป็นเครื่องเตือนใจว่า บางครั้งการเลือกเดินในเส้นทางที่ยากลำบากที่สุด ก็อาจนำเราไปสู่จุดหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้เช่นกัน
References : [grab, techcrunch, cnbc, forbes, bloomberg]
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here
https://www.tharadhol.com/how-grab-beat-uber/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย -->
https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
คลิกเลย -->
https://www.blockdit.com/articles/5cda56f1e5eac0101e278c73
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
Website :
www.tharadhol.com
Blockdit :
www.blockdit.com/tharadhol.blog
Fanpage :
www.facebook.com/tharadhol.blog
Twitter :
www.twitter.com/tharadhol
Instragram :
instragram.com/tharadhol
TikTok :
tiktok.com/@geek.forever
Youtube :
www.youtube.com/c/mrtharadhol
Linkedin :
www.linkedin.com/in/tharadhol
เทคโนโลยี
การลงทุน
ธุรกิจ
บันทึก
10
7
10
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย